ยอดขายรถเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 52,229 คัน โตโยต้ายังครองแชมป์ที่หนึ่ง

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

ยอดขายรถเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 52,229 คัน เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โตโยต้ายังครองแชมป์ยอดขายอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาดห้าเดือนแรกที่ 37.5%

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย หรือ Toyota กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม 2568 มียอดขาย 52,229 คัน เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วโดยกลุ่มตลาดรถยนต์นั่งปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขาย 21,935 คัน เพิ่มขึ้น 17.4% จากปีที่ผ่านมา

ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวลงเล็กน้อย ยอดขาย 30,294 คัน ลดลง 2.9% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 14,333 คัน ลดลง 18.8% รถยนต์ HEV มียอดขาย 10,765 คัน ลดลงจากปีที่แล้วเล็กน้อยที่ 2.4% และมียอดขายสะสมห้าเดือนแรกถึง 55,766 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 50.7% ของตลาด xEV ทั้งหมด

สำหรับโตโยต้า ยังคงครองอันดับหนึ่งตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสมห้าเดือนแรกถึง 94,784 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 37.5% นำโดย

1. Hilux ยอดขายอยู่ที่ 29,295 คัน
2. Yaris ATIV ยอดขายอยู่ที่ 21,405 คัน
3. Yaris Cross ยอดขายอยู่ที่ 15,023 คัน

ส่วนภาพรวมตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายน 2568 มีแนวโน้มจะปรับตัวลงจากเดือนพฤษภาคมเล็กน้อย ด้วยยอดขายที่ลดลงตามฤดูกาล และผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ อาจส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ

ยอดขายรถยนต์เดือน พ.ค. 2568

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 52,229 คัน เพิ่มขึ้น 4.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า ยอดขาย 19,201 คัน ลดลง 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 36.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ ยอดขาย 5,976 คัน ลดลง 24.2% ส่วนแบ่งตลาด 11.4%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า ยอดขาย 5,481 คัน ลดลง 16% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 21,935 คัน เพิ่มขึ้น 17.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า ยอดขาย 7,093 คัน เพิ่มขึ้น 23.1% ส่วนแบ่งตลาด 32.3%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า ยอดขาย 3,646 คัน เพิ่มขึ้น 1% ส่วนแบ่งตลาด 16.6%

อันดับที่ 3 บีวายดี ยอดขาย 2,657 คัน เพิ่มขึ้น 141.3% ส่วนแบ่งตลาด 12.1%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 30,294 คัน ลดลง 2.9%

อันดับที่ 1 โตโยต้า ยอดขาย 12,108 คัน ลดลง 11.9% ส่วนแบ่งตลาด 40%

อันดับที่ 2 อีซูซุ ยอดขาย 5,976 คัน ลดลง 24.2% ส่วนแบ่งตลาด 19.7%