“ชิน ชินวุฒ“ รับตกใจ “เป๊ก ผลิตโชค” โวยวายก่อนโดนฟัน

“ชิน ชินวุฒ“ รับตกใจ “เป๊ก ผลิตโชค” โวยวายก่อนโดนฟัน

เป็นประเด็นที่หลายๆ คนต่างให้การจับตามองเป็นอย่างมากสำหรับประเด็นของนักร้องหนุ่ม เป๊ก ผลิตโชค ที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้โดนฟันบริเวณคางและไหล่ซ้าย ก่อนจะมีคลิปออกมาลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งทางสังคมต่างก็ตั้งคำถามกันเป็นจำนวนมากว่าทำไม่นักร้องหนุ่มถึงเกิดอาการเช่นนั้น

โดยต่อมาทาด้านค่ายต้นสังกัดอย่าง GMM Music ได้มีการออกแถลงการต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งอดีตผู้จัดการก็ได้มีการโพสต์ถึงเรื่องดังกล่าวด้วย และต่อมาทางด้านหนุ่ม ชิน ชินวุฒ ได้มีการออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น ว่า

“จริงๆ แล้วด้วยความที่เรารู้จักกันมาอยู่แล้ว แต่จะบอกว่าเห็นข่าวก็ตกใจ ก็ให้กำลังใจนะครับ จริงๆ ก็มีเรื่องกฎหมายก็มีกฎเกณฑ์อยู่แล้วให้เป็นไปตามเรื่องของกฎหมาย แต่ในฐานะของน้องคนหนึ่งก็ขอให้หายไวๆ และไม่กระทบกับความรู้สึกระยะยาวครับ เป็นกำลังใจให้พี่เป๊กอยู่แล้วครับ ในฐานะน้องคนหนึ่งก็ขอให้สู้ๆ หายไวๆ นะครับ

เรารู้หลังทุกคนด้วย คือเราเห็นอันแรกก่อนที่โดนฟันก็แค่ไปคอมเมนต์นิดๆ หน่อยๆ ยังไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วเรามีไลฟ์อยู่ช่วงดึกเสร็จประมาณเที่ยงคืนเพิ่งมาเห็น ก็ตกใจเล็กน้อย ก็อย่างที่บอกให้เป็นไปตามกฎหมาย อะไรที่เป็นกำลังใจได้ก็ให้กำลังใจ แต่ก็ท้ายสุดอยากให้เป็นไปตามกฎหมายที่มันจะเกิดขึ้น

กับพี่เป๊กรู้จักกันมานานมาก เราก็เคยอยู่ในโหมดสนุกสนาน แต่ท้ายสุดแล้วทุกอย่างมันจะต้องมีเลเวลความพอดีของมัน เมื่อวานพอเห็นคลิปก็ตกใจว่ามันไปถึงขั้นนั้นได้ยังไง ก็เลยไม่รู้ว่าไปถึงขนาดนั้นได้ยังไง

เรื่องนี้ไม่แน่ใจ ส่วนตัวก็ไม่มีสิทธิที่จะพูดตรงนั้นได้เท่าไหร่ แต่เราเชื่อว่าคนหนึ่งที่เอ็นจอยถึงขนาดนั้นก็น่าจะมีแหละมั้งถ้าถามเรานะ เราต้องเลือกใช้คำระมัดระวังนิดนึง เราบอกอย่างนี้ก่อนหนึ่งคนที่ปาร์ตี้สนุกสนานถึงขนาดนี้ ถ้าไปถึงจุดที่ข้ามเลเวลบางอย่าง เชื่อว่ามันไม่ได้มาจากความสบายในทุกมุมหรอก

เราเชื่อว่ามันมาช่วยระบายบางสิ่งบางอย่างสำหรับบางคนได้ แต่ส่วนตัวไม่ได้คุยกับพี่เป๊กหรอกว่ามีเรื่องอะไรที่เขาเป็นปัญหาอยู่หรือเปล่า แต่เราเชื่อว่าเพื่อนๆ เขาคนที่สนิทกับเขาน่าจะให้คำตอบได้มากกว่าเราได้ดีกว่าเรา

เราเชื่อว่าถ้ามีรอบข้างที่ดีพี่เป๊กจะผ่านไปได้ด้วยดีและได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นี้ สิ่งสำคัญที่สุดของพี่เป๊กคือการเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ครับ เราว่าคนเราสามารถที่จะปรับเปลี่ยนแล้วใช้มันเป็นโอกาสบางอย่างเพื่อที่จะให้ตัวเองดีขึ้นในบางมุมได้แน่นอนครับ”

เราเชื่อว่าทุกเรื่องมีสองด้านเสมอครับ และเป็นเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณเสพครับ ในฐานะของนักข่าวที่เสนอข่าวมีหลายมุม เสนอเพื่อให้คนสนใจ ให้ข้อเท็จจริงในมุมต่างๆ นั่นคือหน้าที่ของพี่ๆ มาถึงหน้าที่ของคนเสพคือต้องเสพอย่างมีวิจารณญาณด้วยเช่นกัน ไม่ว่าข่าวอะไรบางทีเราอ่านหัวข่าวเราตัดสินแล้ว อย่าเพิ่งครับ เราดูเรื่องราวให้จบสิ้นก่อนค่อยตัดสินว่าสิ่งนั้นเป็นยังไง

และท้ายสุดแล้วการตัดสินของแต่ละคนมันเป็นข้อคิดเห็นของแต่ละคนอยู่ดี มีอารมณ์ร่วมใครมีประสบการณ์อะไร เพราะฉะนั้นเสพอย่างมีวิจารณญาณและคอมเมนต์อย่างมีวิจารณญาณด้วยเช่นกันนะครับ มันเป็นพื้นที่ที่ทุกคนลงข้อคิดเห็นได้ แต่อย่างหนึ่งที่อยากจะบอก ในทุกข่าวในทุกเรื่องราวของคนที่มาคอมเมนต์ คุณไม่รู้หรอกว่าการคอมเมนต์ของคุณสร้างความรู้สึกให้คนอ่านหรือคนที่กำลังโดนสิ่งนั้นอย่างไร เป็นกลางดีที่สุดครับ

ไม่จำเป็นต้องแรงครับ อันนี้มาจากมุมคนที่พูดตรงมากนะ แต่ทุกการพูดของเราเราคิดว่าคิดมาในระดับหนึ่งแล้ว เราอยากให้ทุกคนคิดไตร่ตรองเหมือนกันก่อนที่จะพูดมานะครับ”