“กสิกร” มองกรอบ SET สัปดาห์หน้า 1,175–1,255 จุด จับตาเฟด-เจรจาการค้าสหรัฐ
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ถัดไป (28 กรกฎาคม–1 สิงหาคม 2568) ว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับที่ 1,205 และ 1,175 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,230 และ 1,255 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 29–30 กรกฎาคม ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของบริษัทจดทะเบียนไทย ความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ รวมถึงกระแสเงินทุนต่างชาติ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องจับตา ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP การจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิตเดือนกรกฎาคม รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) และ Core PCE เดือนมิถุนายน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2568 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ที่มีผลต่อบรรยากาศการลงทุน ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของยูโรโซน ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนกรกฎาคมของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกรกฎาคม (เบื้องต้น) ของยูโรโซน
ทั้งนี้ ในส่วนของภาพรวมตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนและแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยยังสามารถยืนเหนือระดับ 1,200 จุดได้เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน แม้จะเผชิญแรงขายจากนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะในหุ้นบิ๊กแคปกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก เทคโนโลยี และธนาคารที่เพิ่งประกาศงบไตรมาส 2/2568 แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม ดัชนียังสามารถดีดตัวขึ้นกลางสัปดาห์จากความหวังผลเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ หลังมีรายงานว่าญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ โดยอัตราภาษีนำเข้าจะปรับลดลงเหลือ 15% และ 19% ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ดัชนีปรับตัวลดลงอีกครั้งจากความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งมีการยกระดับความรุนแรงมากขึ้น แม้โดยภาพรวมประเมินว่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในวงจำกัด แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ตลาดยังจับตาผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ที่จะทราบผลภายในเส้นตาย 1 สิงหาคม 2568
ทั้งนี้ ณ วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET ปิดที่ระดับ 1,217.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.88% จากระดับปิดปลายสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 44,247.05 ล้านบาท ลดลง 8.50% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนดัชนี mai ปรับลดลง 0.96% มาปิดที่ 248.24 จุด