รายงานพิเศษ : TFG ไตรมาส 2/68 ยังโดดเด่น ยอดส่งออกไก่ทำ New High ด้านบล.หยวนต้าแนะนำ “ซื้อ”
สถานการณ์ราคาไก่และสุกรปีนี้มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น หนุนผลงาน บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) ปีนี้ ปริมาณการส่งออกทำ new high ส่วนบล.หยวนต้าคงคำแนะนำ “ซื้อ”
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch) คาดปริมาณการผลิตเนื้อไก่ของประเทศไทยในปี 68 อยู่ที่ 3.44 ล้านตัน ขยายตัว 1.3% จากปีก่อน สอดคล้องไปกับปริมาณการบริโภคในประเทศที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัว 0.7% โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาเนื้อสุกรปรับตัวขึ้น รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับโรคระบาดในวัว ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อไก่ยังคงเติบโตในฐานะสินค้าทดแทน
สถานการณ์ราคาไก่และสุกรที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจ บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) โดย “เพชร นันทวิสัย” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ TFG ระบุทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2568 ยังมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากปัจจัยหนุนด้านยอดขายไก่และสุกรมีสัญญาณการเติบโตดี โดยราคาสุกรยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงได้รับผลบวกด้านต้นทุนวัตถุดิบที่มีแนวโน้มลดลง
สนับสนุนให้การส่งออกเนื้อไก่ดิบในปีนี้จะมีปริมาณการส่งออก new high โดยเฉพาะในตลาดสหภาพยุโรป และจีน คาดว่าจะส่งออกได้เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีแผนบริหารจัดการต้นทุนที่ดี มีการเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง และบริหารจัดการระบบคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และบริษัทมีนโยบายเดินหน้าขยายเครือข่ายร้านค้าปลีก "ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต" เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศมากขึ้น โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนสาขาเป็น 600 แห่งภายในปี 2568 จากไตรมาส 1/68 มีจำนวน 430 สาขา รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความสด สะดวก และเข้าถึงง่าย และเพิ่มอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ของธุรกิจในภาพรวม สนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่าง มั่นคงและยั่งยืน
"ทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตดีจากยอดขายไก่และสุกรที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ที่สำคัญราคาสุกรยังอยู่ในระดับสูง บวกกับการขยายสาขา ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต (Retail Shop) ให้ได้ครบจำนวน 600 สาขาในปีนี้ ทำให้มั่นใจว่าจะสนับสนุนรายได้รวมทั้งปีให้เติบโต 10-15% จากปีก่อน ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องได้ตามเป้าหมาย"
ด้านบล.หยวนต้า ออกบทวิเคราะห์ โดยคาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 2/68 ที่ 2,602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 140.1% จากปีก่อน) ทำ New High หนุนจากราคาขายเฉลี่ยธุรกิจหมูที่สูงขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยงปรับลดลงหนุน GPM
ส่วนแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 3/68 คาดยังเติบโตเด่นจากปีก่อน แต่ชะลอลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน จากฐานสูงและราคาหมูในประเทศและเวียดนามเห็นสัญญาณการปรับลดลง
ทั้งนี้บล.หยวนต้ามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นและปรับประมาณการกำไรปกติปี 68-69 ขึ้น 40% และ 13% ตามลำดับ จากราคาขายเฉลี่ยและต้นทุนวัตถุดิบที่ดีกว่าคาด
โดยปรับไปใช้ราคาเหมาะสมกลางปี 2026 แต่ปรับลด PER ลง ทำให้ราคาเหมาะสมยังคงเดิมที่ 6.50 บาท ราคาซื้อขายบน PER25 เพียง 3.4 เท่า ถูกที่สุดในกลุ่มฟาร์ม คงคำแนะนำ “ซื้อ”