คณะคนไทยรักชาติ จาก จ.จันทบุรี ขึ้นรถทัวร์ 4 คัน รถตู้ 5 คัน กว่า 300 คน บุกตาเมือนธมแต่เช้า
สุรินทร์ คณะคนไทยรักชาติ จ.จันทบุรี รถทัวร์ 4 คัน รถตู้ 5 คัน กว่า 300 คน บุกตาเมือนธมแต่เข้า มอบของให้ทหารและเดินชมปราสาท สังเกตุุชาวกัมพูชา รวมตัวขึ้นมา จนท.เตรียมกำลัง วางแผนดูแลหวั่นปะทะกัน ทหารจัดระเบียบชาวกัมพูชาเข้ามาครั้งละ 100 คน ชุดละ 30 นาที
วันที่ 20 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เข้า ก่อนเวลา เปิด 9 โมง พบคณะคนไทยรักชาติ จ.จันบุรี ที่เดินทางโดยรถทัวร์ 4 คันรถตู้อีก 5 คัน มาแสดงพลังมอบสิ่งของให้กำลังใจทหาร จอดรถรอเวลาที่ถนนทางเข้าหน้าฐานทหารด่านแรก ก่อนพากันลงมารอเวลาเปิดเพลงร้อง เต้นรำ ชูป้ายกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่คนไทยจากหลายจังหวัดเริ่มขับรถยนต์ส่วนตัวทยอยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนใหญ่ต้องการเจอหน้าหญิงกัมพูชา ที่ชี้หน้าด่าทหารไทย ซึ่งมีการระดมคนกัมพูชาโดยรถทัวร์กว่า 20 คันกว่า 900 คน เข้ามาที่ปราสาทตาเมือนธมและตาควายพร้อมกับนักข่าว เอบีซี ของกัมพูชาอีกด้วย
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าคุณะคนกัมพูชาดังกล่าว จะเข้าไปที่ปราสาทตาควายก่อน คาดว่าจะมาถึงที่ปราสาทตาเมือนธมช่วงเที่ยง ทั้งนี้ที่ปราสาทตาเมือนธม มีมวลชนคนไทยเข้าไปรอต้อนรับชาวกัมพูชาคณะดังกล่าวเช่นกัน
ขณะที่ฝ่ายปกครอง โดยนายเอกอนันต์ ศรีอินทร์ นายอำเภอพนมดงรัก ได้วางมาตรการเน้นกำชับผู้นำชุมชนช่วยกันสอดส่องดูแลนักท่องเที่ยวช่วยทหารอีกแรง ให้สังเกตุคนกัมพูชาที่จะใส่เสื้อสีขาวขึ้นมาจำนวนมากเกรงหวั่นจะสร้างสถานการณ์ความรุนแรง รวมทั้งนักข่าวกัมพูชา ส่วนหญิงกับพูชาคาดว่าน่าจะไม่เข้ามาอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ กลล.สุรนารีได้รายงานสถานการณ์ ระบุว่ารัฐบาล กัมพูชา สนับสนุนประชาชนเดินทางมาปราสาทตาเมือนธม เวลา 23.10 น.ชาวกัมพูชาในกรุงพนมเปญเริ่มทยอยออกเดินทางสู่พื้นที่ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย โดยใช้ รถบัสที่รัฐบาลกัมพูชาจัดสรรให้ถึง 23 คัน ผู้ร่วมขบวนจำนวนมากถือ ป้ายไวนิลที่มีพยัญชนะไทยทั้ง 44 ตัว แสดงเชิงสัญลักษณ์ในลักษณะที่ตีความได้ว่า “ยั่วยุ” หรือ “ล้อเลียน”
เวลา 23.50 น. รายงานยืนยันว่ามี ประชาชนกัมพูชามากกว่า 900 คน ขึ้นรถบัสออกจากพนมเปญแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนเต็มรูปแบบจากรัฐบาลในด้านการเดินทาง อาหารเช้าและเที่ยง และมีเป้าหมายชัดเจนในการ แสดงสัญลักษณ์ในพื้นที่ปราสาทชายแดน
ความเสี่ยงต่อการควบคุมสถานกรณ์ของฝ่ายไทย
1. ความมั่นคงชายแดน มวลชนจำนวนมากในพื้นที่ขัดแย้งอาจกระตุ้นให้เกิดเหตุปะทะกับทหารหรือประชาชนไทยได้ง่าย
2. ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ หากไทยใช้กำลังตอบโต้ อาจถูกตีความว่าใช้ความรุนแรงต่อพลเรือน
3. สงครามข้อมูล (IO) กัมพูชาอาจเผยแพร่ภาพการปิดทางปราสาทโดยทหารไทยเพื่อกล่าวหาว่าไทยละเมิดเสรีภาพการเข้าถึงมรดกวัฒนธรรม
4. บานปลายเป็นความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ หากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ปราสาท
สำหรับ มาตรการป้องกันเขมรป่วน ปราสาท ตาเมือนธม ตาควาย
1. อนุญาติให้ประชาชนกัมพูชาให้ขึ้นมาเที่ยวชมปราสาทชุดละ 100 คน กำหนดเวลา 30 นาทีต่อชุด โดยมี จนท.ตำรวจ ชุดสืบ และ จนท.ควบคุมฝูงชน พร้อมอุปกรณ์เช่นรถกระจายเสียงหรือรถควบคุมตัวผู้ต้องหาร่วมดำเนินการ นอกจากนั้นยัง จัดล่ามภาษาอังกฤษ และ ภาษาอื่นๆ จนท.องค์การบริหารส่วนตำบล จนท.กรมศิลปากร จนท.สาธารณสุขจนท.ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ตามอำนาจหน้าที่รวมทั้ง ป้องกันการ กระทบกระทั่งกันของนักท่องเที่ยวในบริเวณกลุ่มประสาท
โดยให้เตรียมชุดสืบสวน การร่วมกัน ของเจ้าหน้าที่ประสานงานทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้หากไม่สามารถควบคุมนักท่องเที่ยวได้อาจต้องกำหนดมาตรการปิดเพื่อจัดระเบียบใหม่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้ความเห็นร่วมกัน แนวทางการควบคุมที่มีการหารือร่วมกันแล้ว โดยหน่วยต้องมีการบันทึกภาพการผ่านเข้าออก บริเวณจุด ที่ชาวกัมพูชาเริ่ม การจัดระเบียบเพื่อเข้ามาในพื้นที่ท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บริเวณบันไดสูงทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นจุดที่ชาวกัมพูชาใช้ขึ้นมาที่ตัวปราสาท พบหญิงไทยอายุประมาณ 70 คนหนึ่งนั่งรอหญิงกัมพูชาคนดังกล่าว พร้อมตะโกนหา”โมนิก้า”อีกด้วย ก่อนที่ทหารไทยจะเข้าไปห้ามส่งเสียงดัง ก่อนที่คุณยายจะเดินขึ้นมาที่ตัวปราสาท โดยไม่มีเหตุการณ์กระทบกระทั่งใด ทั้งนี้ชาวไทยส่วนใหญ่ต่างพากันสวมเสื้อที่มีรูปธงชาติและข้อความสัญลักษณ์ต่างๆถึงความเป็นไทยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นร่ม ผ้าเช็ดหน้า ที่รัดข้อมือ เป็นต้น โดยยังไม่พบชาวกัมพูชาเข้ามาสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด