เตือนหลายครั้งแล้ว! กลาโหมกัมพูชา แถลงการณ์ด่วน โบ้ย ไทย ละเมิด MOU43 จนทหารโดนกับระเบิด
วันที่ 20 ก.ค. 2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทย ที่มีต่อกัมพูชาอย่างเด็ดขาด เกี่ยวกับการบาดเจ็บของทหารไทย 3 นาย จากเหตุเหยียบกับระเบิด เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2568 ณ หมู่บ้านเตโช มรกต ต.มรกต อ.จวมกสัน จ.พระวิหาร
โดยทางฝ่าย กัมพูชาย้ำว่า ได้เตือนฝ่ายไทยหลายครั้งให้ปฏิบัติตามเส้นทางลาดตระเวนที่ตกลงร่วมกันอย่างเคร่งครัด เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้ยังคงมีทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิดจำนวนมาก ซึ่งแม้แต่พลเรือนชาวกัมพูชาก็อาจได้รับอันตราย
ข้อเท็จจริง ทหารไทยได้ละเมิดข้อตกลงที่ระบุไว้ในบันทึกความเข้าใจปี พ.ศ. 2543 (MOU2543) ด้วยการเบี่ยงเบนจากเส้นทางลาดตระเวนที่กำหนดไว้ และสร้างเส้นทางใหม่ที่เข้าสู่ดินแดนอธิปไตยของกัมพูชา ตามแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ซึ่งเป็นผลมาจากการกำหนดเขตแดนและการวางเสาหลักระหว่างอินโดจีนและสยามสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยามในปี พ.ศ. 2447 และ พ.ศ. 2450
แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยังระบุว่า การรุกรานของพวกเขาส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นสิ่งตกค้างจากสงคราม การเคารพในอำนาจอธิปไตยและกฎหมายระหว่างประเทศต้องแสดงออกด้วยการกระทำ ไม่ใช่แค่คำพูด
ดังนั้น กัมพูชาจึงเรียกร้องให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตาม MOU2543 อย่างเต็มที่ และใช้กลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ รวมถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเรื่องพรมแดน สันติภาพที่แท้จริงและยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยวิธีการเช่นนี้เท่านั้น ควบคู่ไปกับการป้องกันการบาดเจ็บหรือการสูญเสียชีวิตเพิ่มเติมของพลเรือนผู้บริสุทธิ์
กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยังระบุว่าเหตุการณ์นี้ยังก่อให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับเจตนาของผู้นำกองทัพไทย เหตุใดจึงสั่งให้ทหารลาดตระเวนนอกเส้นทางที่ตกลงกันไว้ ทั้งที่พวกเขารู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความเสี่ยงจากทุ่นระเบิดในช่วงสงคราม และแม้ว่ากัมพูชาจะเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่เป็นการกระทำโดยเจตนาเพื่อยั่วยุความตึงเครียดที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่
กระทรวงกลาโหมกัมพูชาขอเรียกร้องอีกครั้งให้ฝ่ายไทยยุติการกระทำใดๆ ที่ละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาโดยทันที และงดเว้นพฤติกรรมใดๆ ที่คุกคามสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน
ในฐานะประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากทุ่นระเบิด กัมพูชามีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติตามพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาที่ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล กัมพูชาได้รับการยกย่องอย่างสูงจากประชาคมโลก ไม่เพียงแต่ความสำเร็จในการกำจัดและทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกประเภทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมของสหประชาชาติในการกำจัดทุ่นระเบิดในประเทศอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายหรือยังคงได้รับความเสียหายจากสงครามอีกด้วย
ในโอกาสนี้ กระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาและกองทัพกัมพูชา ขอยืนยันการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อจุดยืนของรัฐบาลกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับประเทศไทยด้วยสันติวิธีและบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการนำข้อพิพาทเกี่ยวกับปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโตช ปราสาทตากระบวย และพื้นที่โดยรอบขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
ทั้งสองยังแสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา และให้คำมั่นว่าจะไม่มีการสูญเสียดินแดนของกัมพูชาแม้แต่มิลลิเมตรเดียว ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม