วินัย, ความมุ่งมั่น, ไม่ย่อท้อ ! โปรแกรมซ้อมโหด 7 วันของ ซน ฮึง-มิน ช่วงวัยรุ่นสู่ความเป็นเลิศในอนาคต
ปัจจุบัน "อาซน" อายุ 33 ปีแล้ว แต่ยังคงโลดแล่นอยู่ในการแข่งขันระดับสูงได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเครื่องยืนยันสำหรับสิ่งนี้ก็คือการที่เขานำ "ไก่เดือยทอง" ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
หัวหอกจากเกาหลีใต้ เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในอาชีพลูกหนังมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตอนนี้ Mindset ของเขายังคงเหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือสภาพร่างกายที่ทดถอยและเสื่อมโทรมไปตามวัย และการใช้งานหนักมาตั้งแต่ละอ่อน
อย่างไรก็ตาม ซน ฮึง-มิน ยังคงพยายามที่จะรักษาสภาพร่างกายให้ดีที่สุด แม้อายุจะเลยหลักสามไปแล้วก็ตาม ดังนั้นเขาต้องบาลานซ์ชีวิตและสร้างสมดุลในแต่ละวันให้เหมาะสม โดยที่ไม่กระทบกระเทือนกับความสุข และอาชีพพ่อค้าแข้ง
ด้วยเหตุนี้ สตาร์จากแดนโสมขาว จึงให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารและการฝึกซ้อมอย่างมาก เพราะเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ จะทำให้การออกกำลังกายเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
สำหรับเรื่องอาหารเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่านักฟุตบอลอาชีพต้องรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยโภชนาการ แต่หากต้องการยืนระยะในอาชีพให้ยาวนานที่สุดไลฟ์สไตล์ก็มีความสำคัญ นั่นทำให้ ซน ฮึง-มิน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ และอาหารที่มีไขมันกับน้ำตาลสูง
กระนั้นสิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือเรื่องการฝึกซ้อม โดยเหตุผลที่ทำให้ ซน ฮึง-มิน สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับโลกได้ มาจากการที่เขามีโปรแกรมการฝึกซ้อมที่เข้มข้นตั้งแต่วัยรุ่น โดยได้ ซน อุง-จง บิดาบังเกิดเกล้า เป็นคนวางแผนการซ้อม นั่นทำให้นักเตะแข็งแกร่ง และสามารถสู้กับบรรดาผู้เล่นต่างชาติในยุโรปได้แบบสบายๆ
สำหรับโปรแกรมการซ้อมของ ซน ฮึง-มิน ตอนที่อยู่กับพ่อที่ประเทศเกาหลีใต้ ต้องบอกว่าสุดโหดจริงๆ แต่มันก็ส่งผลให้เห็นในตอนนี้แล้วว่า สิ่งที่บิดาบังเกิดเกล้าเคี่ยวเข็ญเขาตอนนั้น มันมีประโยชน์อย่างมากในปัจจุบัน
การซ้อมของ ซน ฮึง-มิน มีตั้งแต่การฝึกแบบพื้นฐานไปจนถึงการฝึกแบบมืออาชีพ โดยต้องทำแบบนี้ตลอด 7 วัน และแน่นอนว่าในช่วงวัยรุ่น "อาซน" อาจจะรู้สึกทรมาน แต่เขามองว่าหากอยากตามความฝันเป็นนักเตะระดับโลก สิ่งเหล่านี้ถือเป็นรากฐานสำคัญสู่ความยิ่งใหญ่
โปรแกรมการซ้อมของ ซน ฮึง-มิน ช่วงวัยรุ่นกับคุณพ่อมีดังนี้ :
วันจันทร์
ช่วงเช้า :
- ฝึกเลี้ยงบอล 3 ชั่วโมง
- การฝึกเดาะบอลแบบสลับเทคนิค: เดาะด้วยเท้าข้างเดียว, สลับเท้า, และใช้หัวเดาะบอล
- ถ้าหากทำบอลตกพื้นต้องกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ช่วงบ่าย :
- ฝึกซ้อมยิงประตู 2 ชั่วโมง
- ยิงด้วยเท้าขวา 500 ลูก และเท้าซ้ายอีก 500 ลูก
- เน้นความแม่นยำ และฝึกการวางบอลให้แม่นยำจากหลากหลายมุม
ช่วงเย็น :
- ฝึกการยืดเหยียดและเพิ่มความยืดหยุ่นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
วันอังคาร
ช่วงเช้า :
- การฝึกเลี้ยงบอลและฝึกความคล่องตัวเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
- การฝึกเลี้ยงบอลด้วยกรวย, บันไดความเร็ว, และการป้องกันแบบประกบติดตัวต่อตัว
ช่วงบ่าย :
- ฝึกการผ่านบอลแม่นยำ 2 ชั่วโมง
- การฝึกส่งบอลชิ่งกับกำแพงด้วยเท้าทั้งสองข้าง, ส่งบอลยาว, และส่งสั้นเร็ว
ช่วงเย็น :
- การทำสมาธิหรือจินตนาการเชิงสร้างสรรค์เป็นเวลา 30 นาที
วันพุธ
ช่วงเช้า :
- การฝึกความอึดและความทนทานของร่างกายเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
- วิ่งระยะยาว (6-8 กิโลเมตร) และวิ่งสปรินท์แบบอินเทอร์วัล
ช่วงบ่าย :
- การฝึกทักษะบอลแบบเข้มข้นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- การฝึกรับบอลจังหวะแรก และฝึกการควบคุมบอลสูง
ช่วงเย็น :
- อ่านหนังสือเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- โดยเน้นเรื่องระเบียบวินัย และการพัฒนาด้านจิตใจ
วันพฤหัสบดี
ช่วงเช้า :
- การฝึกยิงบอลด้วยเท้าทั้งสองข้าง (ซ้าย-ขวา) เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
- ฝึกยิงบอล 5,000 ครั้งด้วยเท้าทั้งสองข้างจากตำแหน่งต่าง ๆ
ช่วงบ่าย :
- ฟื้นฟูสภาพร่างกาย
- วิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ, ยืดเหยียด และเล่นโยคะ
ช่วงเย็น :
- ดูและวิเคราะห์เกมฟุตบอลแต่ละแมตช์
วันศุกร์
ช่วงเช้า :
- การฝึกฝนทักษะชั้นสูงเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
- การเลี้ยงบอลขั้นสูง, การแทงลอดขา และการสับขาหลอกแบบถอยหลัง
ช่วงบ่าย :
- เล่นเกมโต๊ะเล็ก 2 ชั่วโมง
- โดยเน้นการตัดสินใจและการยืนตำแหน่ง
ช่วงเย็น :
- ฝึกซ้อมแกนกลางลำตัว และความแข็งแกร่ง
วันเสาร์
ช่วงเช้า :
- ซ้อมโดยการจำลองสถานการณ์ในการแข่งขันเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
- ฝึกซ้อมการยืนตำแหน่ง (ทั้งการวิ่งขึ้นเกมรุก, การสลับมาเล่นเกมรับ)
ช่วงบ่าย :
- เล่นตามใจชอบหรือทำกิจกรรมท้าทายทักษะอย่างสนุกสนาน
- เป้าหมายคือส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการคิดปรับปรุงในสถานการณ์เฉพาะหน้าพร้อมกับลูกบอล
ช่วงเย็น :
- พัก และทำกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
ว้นอาทิตย์
ช่วงเช้า :
- ฝึกซ้อมเลี้ยงบอลเบาๆ
- วิ่งจ๊อกกิ้งพร้อมกับบอล, ผ่านบอล และควบคุมบอลขณะเลี้ยงเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
ช่วงบ่าย :
- พักฟื้นร่างกาย
- โดยเน้นการว่ายน้ำ, เล่นโยคะ หรือยืดเหยียด
ช่วงเย็น
- การอ่านและการสะท้อนความคิดทางจิตใจ
ทั้งหมดนี้ เป็นโปรแกรมที่ ซน ฮึง-มิน ต้องฝึกซ้อมกับคุณพ่อตลอด 7 วันในช่วงเป็นวันรุ่น โดยสิ่งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมีวินัยที่ไม่ย่อท้อ, ความแม่นยำ และความทุ่มเทอย่างไม่ลดละ
สำหรับเด็กรุ่นใหม่ ถ้าหากต้องการที่จะก้าวไปสู่ระดับโลกไม่ว่าจะเรื่องฟุตบอล หรือเรื่องใดก็ตาม สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องมีวินัย, การทุ่มเทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และห้ามย่อท้อ เพราะมันจะไม่ส่งผลในช่วงแรก แต่จะเห็นผลในระยะยาว เฉกเช่น ซน ฮึง-มิน !!!
TOMMY TEE.