แก๊งศึกพระคึกคัก สีกากอล์ฟหลับดี อาจเจอ‘สีกาเก็น’

รองโฆษกราชทัณฑ์เผย "สีกากอล์ฟ" นอนคุกคืนที่ 2 นอนหลับดีขึ้นแต่ยังดูเครียด กินได้ปกติ โดยรวมทำใจได้ อาจเจอ "สีกาเก็น" ระหว่างพิจารณาคดี ด้าน "บิ๊กเต่า" แจงยังมีพระที่มีสมณศักดิ์สูงอีกรายในต่างจังหวัดพันสีกาอีกคน

จากกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายขังระหว่างสอบสวน ครั้งที่ 1 จำนวน 12 วัน ให้ขัง น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ (สีกากอล์ฟ) ในฐานความผิด "เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, ผู้สนับสนุนเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, หรือรับของโจร, สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน" เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า น.ส.วิลาวัลย์ หรือสีกากอล์ฟ ถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นคืนที่ 2 ยังอยู่ในห้องกักโรค จากระยะเวลา 5 วัน อาหารเช้านี้เป็นแกงจืดหมูสับวุ้นเส้น สามารถรับประทานได้ปกติ การนอนหลับได้มากขึ้น พูดคุยกับเพื่อนปกติ ยังดูมีความเครียดอยู่ แต่โดยรวมทำใจได้

นางกนกวรรณเผยว่า สำหรับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ทนายความไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ ต้องมาพบตามวันเปิดทำการเวลาราชการ โดยช่วงกักโรค 5 วัน สีกากอล์ฟยังไม่ได้ทำกิจกรรมภายในเรือนจำ แต่ก็มีเพื่อนผู้ต้องขังคอยพูดคุยเพื่อช่วยลดความเครียดได้บ้าง นอกจากนี้ ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีเมื่อครบกำหนดอยู่ห้องกักโรค ต้องไปขังอยู่ในแดนระหว่างพิจารณาคดีเหมือนกันหมด อาจได้เจอกับ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ หรือ “สีกาเก็น” ก็เป็นได้

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งทราบจากสื่อมวลชนถึงกระแสข่าวลือ ที่มีการพาดพิงพระผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งตนไม่ต้องการให้เผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่า ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่ายังมีพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟ กรณีนี้เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีสีกากอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์

มีรายงานว่า พระรูปดังกล่าวเป็นพระราชาคณะระดับ ‘ชั้นธรรม’ มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง หรือภาคกลางตอนบน ซึ่งต้องสงสัยว่ามีความสัมพันธ์กับสีกา และพระรูปนี้เคยเอาเงินนับร้อยล้านบาทจากวัดหลายแห่งมารวมกัน ไปใช้ในก่อสร้างศาสนสถานขนาดใหญ่ แต่ผ่านมา 10 ปี ก็ยังไม่เสร็จ กลับพบว่าเงินบางส่วนโอนไปให้สีกาหรือคนใกล้ชิด

สำหรับสีกาเก็น หรือ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัดไร่ขิง ก่อนหน้าจะมีข่าวสีกากอล์ฟ

นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า "อย่าไปเรียกภาพลับสมเด็จฯ เลยครับ คนไม่เห็นก็เดาไปว่า เป็นพระแก้ผ้า … พอเห็นของจริง มันเป็นแค่กระดาษที่ถูกปรินต์ออกมา และเอาโทรศัพท์ถ่ายไว้" ก่อนทิ้งท้ายว่า รอบิ๊กเต่าเถอะ ถ้าจริง

วันเดียวกันนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ที่นครราชสีมาว่า วันนี้ตนมาทำบุญ แต่มาในช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนมีความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับศาสนาของเรา อยากเรียนพี่น้องชาวพุทธทั้งหลายว่า ธรรมะไม่เคยเสื่อมคลาย คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่กับเราตลอดเวลา พระภิกษุสงฆ์เป็นเพียงสาวกของพระพุทธเจ้าที่จะนำธรรมะเหล่านั้นมาเผยแพร่สู่ประชาชน เพื่อให้เข้าใจโลกและธรรมะ เพื่อให้หลุดพ้นจากสิ่งที่ยึดติด

"แน่นอนว่าทุกสังคมก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี พระ 99 เปอร์เซ็นต์เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าที่มุ่งมั่นจะเผยแพร่ธรรมะ มีเพียง 1-2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะตัว ผมไม่อยากให้คนไทยที่นับถือศาสนาพุทธมีความรู้สึกเศร้า เสียใจ เพราะเป็นเรื่องของบุคคล แต่ธรรมะยังอยู่ สาวกของพระพุทธเจ้าบางคนอาจไม่มีธรรมะติดตัวอยู่ แต่ส่วนใหญ่เขาเรียนธรรมะถึงแก่นและพร้อมเผยแพร่ธรรมะสู่ประชาชน เช่น หลวงพ่อคูณ เป็นต้น"

นายทักษิณกล่าวด้วยว่า ตนมีความรักและเลื่อมใสหลวงพ่อคูณตลอดเวลาที่ได้รู้จักท่าน ไม่ว่าจะได้มากราบท่านหรือไม่ ยิ่งได้มานอนและสนทนาธรรมกับท่าน ก็มีความรู้สึกว่าตนเลื่อมใสท่านมาก และท่านเป็นคนที่ไม่เน้นเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ แต่เน้นเรื่องของธรรมะ ความศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ธรรมะในใจของแต่ละคน ถ้าคนใดที่สามารถนำธรรมะไปอยู่ในใจใครได้ นั่นคือความศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หลุดพ้นจากทุกอย่างได้ ฉะนั้น หลวงพ่อคูณเป็นตัวอย่างของพระ ซึ่งอาจจะไม่มีความศึกษามากมาย แต่มีความซาบซึ้งในรสพระธรรม ฉะนั้นจึงไม่อยากให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายถอดอกถอดใจ เพราะพระบางวัดเล่าให้ฟังว่าออกไปบิณฑบาตคนเริ่มไม่ใส่บาตรกันแล้ว มันเป็นความตกใจชั่วคราว

“อยากให้คนไทยทุกคนที่นับถือศาสนาพุทธให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าพระส่วนใหญ่เป็นพระที่ดีมุ่งที่จะเผยแพร่คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เราในฐานะศาสนิกชนเป็นพุทธมามกะ ที่จะต้องจรรโลงพระพุทธศาสนาของเราให้เข้มแข็งต่อไป โดยเฉพาะการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลพระภิกษุสงฆ์ ก็ได้ช่วยเพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่มีพระภิกษุสงฆ์รูปไหนทำให้ศาสนาเสื่อมถอยอีกได้” นายทักษิณกล่าว.