‘เซลสาว’ แจ้งจับ ‘โจรขาเป๋’ ฉกรถเก๋ง-ทรัพย์สินครึ่งแสน ใครพบเห็นรีบแจ้งตำรวจด่วน!
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "อภิสรา มอญยาว" ได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือตามหารถยนต์หายไปจากโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมระบุว่า รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีดำ 5 ประตู ทะเบียน กฉ 138 อ่างทอง ด้านหลังไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน มียันต์หลวงพ่อกวยติดฝั่งขวากระจกหลัง หายไปเมื่อเวลา 23.25 น. ของคืนวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา
ภายหลังผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ น.ส.นภิสรา มุทราอิศ อายุ 40 ปี ชาวอ่างทอง อาชีพเป็นเซล ยังอยู่ในอาการเสียใจ ได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพของคนร้ายให้ดู พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ส่วนใหญ่ชีวิตประจำวันการทำงาน จะขับรถคันนี้ทำงานเดินสายทั่วประเทศทั้งภาคเหนือ-อีสาน ใช้รถเป็นเหมือนบ้านที่เก็บทรัพย์สินสำคัญ และยังเป็นพาหนะคู่ใจในการเดินทางร่วมกิจกรรมวิ่งมาราธอนมานานกว่า 3 ปี
คืนเกิดเหตุเดินทางจากนนทบุรีเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งใจว่าช่วงเช้าจะไปซ้อมวิ่งกับกลุ่มเพื่อนนักวิ่งที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าพักที่โรงแรมเวลาประมาณ 19.40 น. จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.20 น. ของเช้าวันที่ 3 ส.ค. ตื่นและลงมาที่รถเพื่อเตรียมที่จะไปซ้อมมวิ่งตามที่ตั้งใจ กลับไม่พบรถที่จอดไว้ ตกใจมาก
ทางพนักงานโรงแรมช่วยเปิดกล้องวงจรปิด พบชายลักษณะขากะเผลก สวมเสื้อคลุมสีขาว เดินเข้ามาในซอยโรงแรมเวลาประมาณ 23.20 น. ระหว่างเดินทำทีคุยโทรศัพท์ แล้วเดินมาที่รถของตนเอง ใช้เวลาอยู่ด้านหลังรถเพียง 3 นาที ก่อนจะเปิดประตูฝั่งคนขับ สตาร์ตรถ และขับออกไปทางแยกวัดใหญ่ชัยมงคล โดยใช้เวลาทั้งสิ้นไม่ถึง 11 นาที
"รถคันนี้เป็นเสมือน ชีวิตทั้งชีวิต เพราะไม่เพียงแต่ใช้ทำงาน ยังใช้ร่วมเดินทางออกวิ่งตามรายการใหญ่ทั่วประเทศ ทั้งเขาใหญ่มาราธอน บุรีรัมย์มาราธอน สุพรรณบุรี และอีกหลายสนาม รถคือทุกสิ่งสำหรับอาชีพเซลล์ ใช้ชีวิตอยู่บนรถมากกว่าบ้าน ทุกอย่างที่หนูรัก หนูเก็บไว้ในรถ เพราะหนูใช้ชีวิตบนถนน วันนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว แม้แต่รองเท้าที่จะใส่ไปวิ่ง ภายในรถมีทรัพย์สินสำคัญจำนวนมาก สูญหายไปพร้อมรถ เป็นรองเท้าวิ่ง 3 คู่ รวมมูลค่าประมาณ 23,700 บาท ชุดวิ่งหลากหลายชุด กระเป๋าสตางค์ พร้อมเอกสารส่วนตัว ฟรีการ์ดเติมน้ำมัน มูลค่ารวมหลายพันบาท ของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท" น.ส.นภิสรา กล่าว
เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวคนร้าย และขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ หากใครพบเห็นรถต้องสงสัยหรือมีเบาะแสชายต้องสงสัย ให้แจ้งสถานีตำรวจใกล้เคียงโดยเร็ว.