ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟน-รถยนต์! Xiaomi บุก ‘แว่นตา AI’ ชน Meta-HUAWEI หวังครองอนาคตของผู้ช่วยส่วนตัว
Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยักษ์ใหญ่จากจีน เปิดตัว ‘แว่นตา AI’ อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์เป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการประกาศรุกเข้าสู่ ‘ตลาดแว่นตาอัจฉริยะ’ ภายในประเทศที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วแต่มีการแข่งขันสูง โดยบริษัทที่ตั้งอยู่ในปักกิ่งนี้วางตำแหน่งแว่นตาใหม่ของตนเองให้เป็น ‘อุปกรณ์อัจฉริยะส่วนบุคคลแห่งยุคหน้า’
เหลย จุน ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอของ Xiaomi เปิดเผยว่า แว่นตา AI นี้สามารถรองรับ ‘การบันทึกวิดีโอบุคคลที่หนึ่ง’ และตอบสนองต่อคำสั่งเสียงได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พบได้ทั่วไปในแว่นตาอัจฉริยะสมัยใหม่อย่างของ Meta และ Ray-Ban แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าคือ แว่นตาที่มาพร้อมกล้องนี้สามารถมองเห็นและจดจำวัตถุรอบตัวผู้ใช้งาน และตอบคำถามโดยใช้ Generative AI ได้
ตัวอย่างจากวิดีโอที่ Xiaomi เผยแพร่เพื่อทีเซอร์แว่นตาอัจฉริยะนี้ แสดงให้เห็นผู้สวมใส่สามารถถามแว่นตาเพื่อระบุชนิดของพืช ประมาณการแคลอรีของอาหาร หรือแม้กระทั่งอธิบายว่าตัวคาปิบารากินอะไรเป็นอาหาร นอกจากการสั่งงานด้วยเสียง ผู้ใช้ยังสามารถถ่ายภาพแบบแฮนด์ฟรี ‘การจดจำวัตถุ’ และแปลภาษาได้ทันทีผ่าน Super Xiao Ai ผู้ช่วยเสียงของแว่นตา
แว่นตา AI รุ่นนี้ยังมีน้ำหนักเพียง 40 กรัม มาพร้อมกรอบแว่นตาที่ถอดเปลี่ยนได้ 3 สไตล์ และรองรับการปรับแต่งรูปหน้าแบบออนไลน์และออฟไลน์ได้ เลนส์ของแว่นสามารถเปลี่ยนโหมดสีได้ด้วยการแตะ และมีกล้องหน้า 12MP สำหรับบันทึกวิดีโอคุณภาพสูง หรือใช้สำหรับการประชุมทางวิดีโอและการสตรีมสดผ่านแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม
ผู้ใช้ยังสามารถชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้ง่ายๆ โดยการสแกน QR Code และยืนยันธุรกรรมด้วยคำสั่งเสียง ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน
แว่นตา AI ของ Xiaomi เปิดตัวในราคาเริ่มต้นที่ 1,999 หยวน สำหรับรุ่นมาตรฐาน และสูงสุด 2,999 หยวน สำหรับรุ่นเลนส์สี โดยปัจจุบันมีวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น และ Xiaomi ยังไม่มีแผนการวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศในขณะนี้
การที่ Xiaomi รุกเข้าสู่ ‘ตลาดแว่นตาอัจฉริยะ’ สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือด โดย Counterpoint บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาด ระบุว่าแว่นตาอัจฉริยะของ Meta ยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุด ครองส่วนแบ่งตลาดโลกกว่า 60% เมื่อปีที่แล้ว
และคาดการณ์ว่าปี 2025 จะเป็น ‘สงครามของแว่นตาอัจฉริยะนับร้อยรุ่น’ คู่แข่งรายอื่นๆ ของจีน เช่น Huawei ได้เปิดตัวแว่นตา AI ที่อัปเดตเมื่อเดือนเมษายน และ Baidu ก็ประกาศเปิดตัวแว่นตา AI ของตัวเองเช่นกัน
เหอ หวังเฉิง นักวิเคราะห์จาก WellsennXR เชื่อว่าจุดแข็งหลักของ Xiaomi ในตลาดแว่นตาอัจฉริยะคือ ‘ระบบนิเวศ’ ขนาดใหญ่ของบริษัท ซึ่งครอบคลุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายประเภท
นอกจากนี้ Counterpoint ยังคาดการณ์ว่าตลาดแว่นตาอัจฉริยะทั่วโลกจะเติบโตถึง 60% ในปีนี้ หลังจากที่เติบโตถึง 210% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2024 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตมหาศาลในอนาคต
ภาพ: AS project / Shutterstock
อ้างอิง: