จีนเบนเข็มส่งออกอาเซียน GDP โต 5.2% แม้เผชิญสงครามการค้า
วันนี้ (15 ก.ค.2568) CNN เปิดเผย สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าคาดการณ์เฉลี่ยร้อยละ 5.1 จากการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 40 คนโดยรอยเตอร์ แม้จะชะลอเล็กน้อยจากร้อยละ 5.4 ในไตรมาสแรก แต่ครึ่งปีแรกของ 2568 เศรษฐกิจจีนโตร้อยละ 5.3 ท่ามกลางความท้าทายจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ และปัญหาโครงสร้างภายใน นาย Sheng Laiyun รองกรรมาธิการ NBS กล่าวว่า การเติบโตนี้เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และแรงกดดันจากภายนอกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
จีนเร่งปิดดีล "ภาษีทรัมป์" ก่อนเส้นตาย ส.ค.นี้
สงครามการค้ากับสหรัฐฯ ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ หลัง ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เคยกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจีนสูงถึงร้อยละ 145 ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าที่สำคัญที่สุดของโลก ข้อตกลงพักรบชั่วคราวเมื่อ พ.ค.2568 ที่เจนีวา ลดภาษีลงบางส่วน แต่จีนมีเวลาถึง 12 ส.ค.2568 เพื่อเจรจาข้อตกลงถาวรกับสหรัฐฯ การส่งออกไปสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. ลดลงร้อยละ 16.1 เทียบกับปีก่อน แต่เพิ่มร้อยละ 32 เทียบรายเดือนหลังข้อตกลงเจนีวา อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีแรก การส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 9.9 และไตรมาส 2 ลดถึงร้อยละ 21
เพื่อรับมือ ผู้ผลิตจีนกระจายการส่งออกไปยังอาเซียน ซึ่งกลายเป็นจุดหมายสำคัญแทนสหรัฐฯ การส่งออกไปอาเซียนในมิ.ย. พุ่งสูงร้อยละ 18 โดยเฉพาะเวียดนามที่โตร้อยละ 25 ผ่านกลยุทธ์ส่งสินค้าผ่านเวียดนามเพื่อเลี่ยงภาษีสหรัฐฯ ซึ่งทรัมป์ขู่เก็บภาษีร้อยละ 40 สำหรับสินค้าที่ส่งผ่าน
การส่งออกแร่หายาก เช่น แร่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ โตร้อยละ 32 ในเดือน มิ.ย. หลังจีนอนุมัติการส่งออกเพิ่มจากการหารือที่ลอนดอน นอกจากนี้ จีนยังขยาย "วงเพื่อน" ทางการค้า โดยส่งออกไปสหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรก การส่งออกโดยรวมใน มิ.ย. โตร้อยละ 5.8 และนำเข้าเพิ่มร้อยละ 1.1 ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ ก.พ.2568
ฝ่าสงครามค้า แต่เยาวชนว่างงาน-อสังหาฯ ยังน่าห่วง
แม้ GDP โตเกินคาด แต่จีนยังเผชิญปัญหาโครงสร้างภายในที่รุนแรง วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ยังยืดเยื้อ ฉุดความเชื่อมั่นผู้บริโภค ภาวะเงินฝืดย่ำแย่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดร้อยละ 3.6 ใน มิ.ย. รุนแรงสุดในรอบเกือบ 2 ปี และเป็นการลดต่อเนื่อง 33 เดือน ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มร้อยละ 0.1 จากเงินอุดหนุนของรัฐ แต่การฟื้นตัวอาจไม่ยั่งยืน การบริโภคชะลอลง ยอดค้าปลีกใน มิ.ย. โตร้อยละ 4.8 จากร้อยละ 6.4 ใน พ.ค. ขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมโตร้อยละ 6.8 จาก 5.8 ได้แรงหนุนจากข้อตกลงพักรบทางการค้า
การว่างงานเยาวชน (16-24 ปี) ยังเป็นปัญหาใหญ่ อัตราการว่างงานใน พ.ค. อยู่ที่ร้อยละ 14.9 ลดลงจากสูงสุดแต่ยังน่ากังวล ส่วนกลุ่ม 25-29 ปี ลดเหลือร้อยละ 7 ปัญหาเงินฝืดและสงครามราคาในอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ ทำให้ผลกำไรและค่าจ้างลดลง รัฐบาลแสดงความกังวลและเรียกร้องให้ยุติการแข่งขันลดราคาที่รุนแรง ซึ่งกระทบกำลังการบริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
รัฐช่วย 1500 หยวนแก้ปัญหาว่างงานเยาวชน
Nick Marro หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Economist Intelligence Unit กล่าวกับ CNN ว่า สงครามการค้าไม่กระทบหนักอย่างที่กลัวเมื่อ เม.ย.2568 แต่ปัญหาภายใน เช่น วิกฤตอสังหาฯ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอ อาจทำให้จีนไม่ถึงเป้าเติบโตร้อยละ 5 ในปีนี้ เขายังชี้ว่าร้อยละ GDP 5.2 ไม่สอดคล้องกับความรู้สึกของครัวเรือนและธุรกิจ ส่งผลต่อการใช้จ่าย การลงทุน และการจ้างงานในอนาคต
Zichun Huang จาก Capital Economics เตือนว่า ครึ่งปีหลังท้าทายจากภาษีสหรัฐฯ ที่ยังสูง การใช้จ่ายทางการคลังที่ลดลง และปัญหาโครงสร้าง เช่น อสังหาฯ และเงินฝืด ทำให้การเติบโตอาจชะลอลง
เพื่อรับมือปัญหาการว่างงานและเศรษฐกิจที่ซบเซา คณะรัฐมนตรีจีน (State Council) ประกาศมาตรการรักษาเสถียรภาพการจ้างงาน รวมถึงขยายประกันสังคม สนับสนุนสินเชื่อ และฝึกอบรมอาชีพ โดยเฉพาะเยาวชน รัฐจะจ่ายเงินอุดหนุนครั้งเดียว 1,500 หยวน (ประมาณ 6,800 บาท) ให้บริษัทที่จ้างเยาวชน 16-24 ปี และจ่ายประกันครบ 3 เดือน รวมถึงสนับสนุนนักศึกษาจบใหม่ด้วยการแนะนำงานอย่างน้อย 3 ตำแหน่ง การฝึกงาน และแนะแนวอาชีพ เพื่อเพิ่มโอกาสการจ้างงาน หวังกระตุ้นการบริโภคและพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี ท่ามกลางความท้าทายจากทั้งภายในและภายนอก
อ่านข่าวอื่น :
แจ้ง 2 ข้อหา "อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ" โอนเงินวัด 3.8 แสนให้สีกา