ภาพลักษณ์ไทยเด่นบนเวทีโลก ไม่แลกหยุดยิงกับผลประโยชน์ เดินหน้าสู่เจรจาทวิภาคีเต็มรูปแบบ
หยุดยิงก่อนเปิดด่าน ยืนยันไม่ลดทอนอธิปไตย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเจรจาหยุดยิงกับรัฐบาลกัมพูชาที่ประเทศมาเลเซียว่า ข้อตกลงในครั้งนี้มีเป้าหมายชัดเจนเพื่อลดความสูญเสียของพลเรือน และยังไม่มีการหยิบยกเรื่องการเปิดจุดผ่านแดนมาหารือร่วมกันแต่อย่างใด
การพูดคุยในวันนี้เป็นการวางพื้นฐานเพื่อเดินหน้าสู่กระบวนการหารือในระดับทหาร ผ่านกลไกคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งผู้นำกองทัพของทั้งสองประเทศจะมีบทบาทในการหาทางออก โดยฝ่ายไทยยังคงยึดมั่นในหลักการว่าห้ามมีการรุกล้ำเขตแดนหรืออธิปไตยของชาติ และการอดกลั้นในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้หมายถึงการยอมถอยในหลักการที่ถูกต้อง
การสนับสนุนจากนานาชาติและบทบาทของผู้นำอาเซียน
เวทีเจรจาหยุดยิงในครั้งนี้ได้รับการประสานและสนับสนุนจากนานาชาติ ทั้งจากประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา จีน และประเทศสมาชิกอาเซียน โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นผู้ทำหน้าที่กลางในการไกล่เกลี่ย ซึ่งการพูดคุยในวันนี้สามารถตกลงได้ในหลักการว่าจะหยุดยิงอย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 29 กรกฎาคม
ข้อตกลงที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการยุติการสู้รบในระยะสั้นเท่านั้น แต่เป็นก้าวสำคัญของการเดินหน้าเข้าสู่กลไกเจรจาทางทหาร ที่จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างกองทัพภาค 1 และกองทัพภาค 2 ของไทย กับกองพลของกัมพูชาในช่วงเช้า เพื่อกำหนดแนวทางและข้อตกลงถาวรต่อไป
กลาโหมยันควบคุมพื้นที่ได้ ไม่มีการรุกล้ำ
พลเอก ณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนในขณะนี้ มีกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ของไทยควบคุมพื้นที่ได้อย่างเรียบร้อย โดยไม่มีจุดใดที่ถูกรุกล้ำเข้ามา
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมได้มีคำสั่งให้กองกำลังทั้งหมดรักษาพื้นที่ไว้อย่างมั่นคงจนถึงเวลา 24.00 น. คืนนี้ ตามข้อตกลงที่ได้มีการตกลงกันไว้ในระดับผู้นำ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมีวุฒิภาวะของประเทศที่เลือกใช้กลไกทางการเมืองและการทูตเหนือการใช้กำลัง
หลังจากการยุติการสู้รบในระยะแรก จะเข้าสู่การประชุมภายใต้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ตามลำดับ ซึ่งจะใช้เวลาพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบอีกระยะหนึ่ง โดยกระทรวงกลาโหมจะทำหน้าที่กำกับทิศทางของกลไกเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
ต่างประเทศชื่นชมบทบาทไทยในเวทีสันติ
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีเจรจาว่า ประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในสายตานานาชาติในฐานะประเทศที่สนับสนุนสันติภาพและไม่ใช้กำลังเป็นทางเลือกหลัก
การที่ไทยสามารถดึงให้กัมพูชากลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาในระดับทวิภาคี โดยเฉพาะผ่านกลไกทั้งสามระดับ ได้แก่ คณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญ ที่เปิดโอกาสให้ความร่วมมือกลับมาอยู่ในกรอบที่เป็นทางการ
นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้เสนอให้มีช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ เพื่อเสริมความต่อเนื่องของการประสานงาน และลดความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายใหม่ในการเจรจาอย่างมีวุฒิภาวะและจริงใจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- CNN วิเคราะห์กำลังทหารไทยเหนือกว่ากัมพูชามาก
- สัมพันธ์ไทย-กัมพูชาร้าวลึก ลดระดับสัมพันธ์การทูต ความขัดแย้งที่ยังไร้ทางลง
- กองทัพไทยหนุนเลี้ยงโควากิว หนองคายโมเดลสร้างรายได้เกษตรกร
- ผบ.ทบ.ไทย-กัมพูชา หารือทางออก ปมปะทะช่องบก กำลังทหารยังตรึงพื้นที่
- น้ำท่วมแม่สายเริ่มคลี่คลาย เร่งตรวจสอบสารปนเปื้อนต้นน้ำเมียนมา