ปธ.กกต. ระบุคดียุบ 6 พรรคยังอยู่ขั้นนายทะเบียนพรรคพิจารณา

แจ้งวัฒนะ 18 ก.ค.- ประธาน กกต. ระบุคดียุบ 6 พรรค ยังอยู่ขั้นนายทะเบียนพรรคพิจารณา หากเห็นด้วยเตรียมส่งศาล รธน.วินิจฉัยยุบหรือไม่ ชี้จ่อตีตกคำร้องคลิปเสียงนายกฯ เหตุไม่ใช่อำนาจ กกต.

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นยุบ 6 พรรคที่ถูกอ้างว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำ ว่า ยังไม่ได้ยื่น เพราะมีขั้นตอนที่เคยแจ้งผ่านสื่อมวลชนแล้ว ในกระบวนการคำร้องยุบพรรคนั้น จนถึงขณะนี้ยังอยู่ในการพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมือง นั่นก็คือนายแสวง บุญมี เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อผ่านกระบวนการของนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว ก็ต้องผ่านอีก 2 ขั้นตอน อย่างแรกคือกรณีที่เห็นว่าไม่มีมูล ก็ต้องยุติเรื่อง โดยแจ้งผู้ร้องและ กกต.เพื่อทราบ แต่หากเห็นว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 92 ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) พรรคการเมืองก็ต้องเสนอเรื่องให้ กกต.พิจารณา ว่าจะเห็นอย่างนั้นด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยก็จะส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ แต่ขณะนี้เรื่องยังอยู่แค่ในระดับนายทะเบียนพรรค

ส่วนได้มีการพูดคุยกับเลขาธิการ กกต.ในเรื่องนี้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันแต่การทำงานระหว่างกันหากกฎหมายระบุชัดเจนว่าต้องเป็นนายทะเบียนพรรคเป็นผู้พิจารณา ประธาน กกต.ก็จะไม่แทรกแซง แต่ก็มีการถามบ้างว่าไปถึงไหนแล้ว

อย่างไรก็ตามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจน ตนเข้าใจปรารถนาของสาธารณชนที่อยากทราบเรื่องนี้ แต่ขอให้เข้าใจถึงกระบวนการยุติธรรม ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพูดไปก่อนอาจสร้างความไขว่เขวและสับสน การทำงานของ กกต.และนายทะเบียน หากทำผิดพลาดหรือไม่ถูกต้องก็ต้องรับผิดอยู่ดี ดังนั้นที่ผ่านมาจึงไม่สามารถบอกได้ขอให้รอเวลาสักนิดหนึ่ง

ขณะที่กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ มายื่นร้องกรณีคลิปเสียงระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย และประธานวุฒิสภากัมพูชา นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่มีครับ เรื่องนั้นไม่น่าเกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนกฎหมาย การเลือกตั้งแต่พรรคการเมือง อาจจะมีหลงมาแต่บริบทการพิจารณาเรื่องนี้ ถ้าเป็นในกรอบมาตรฐานจริยธรรม ก็จะเป็นหน้าที่ของอีกหน่วยงานหนึ่ง ไม่ใช่ กกต.

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า คำร้องของนายเรืองไกร จะถูกตีตกใช่หรือไม่ นายอิทธิพร ระบุว่า หากจะพิจารณากันก็จะไม่รับ เพราะอะไรที่ไม่ได้อยู่ในกรอบอำนาจของ กกต.ก็จะไม่พิจารณา.-312.-สำนักข่าวไทย