ถอดรหัสซีเอสอาร์ ‘ตลท.’ไม่ใช่แค่ทำภาพ..แต่เน้นผลลัพธ์คุณค่าสังคม
“รองรักษ์” ขยายความว่า ตลท. และมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าการขับเคลื่อนสังคม ควบคู่เศรษฐกิจเติบโตสู่ความยั่งยืนของตลท. มาอย่างต่อเนื่อง ในหลาย ๆ ด้านหลาย ๆ โครงการ โดย โครงการเพื่อสังคม เราสนับสนุนช่วยเหลือทั้งกลุ่มเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง เช่น โครงการดนตรีพลังงาน ทำงานร่วมกับมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ที่ทำเรื่องของดนตรี มี “วงปล่อยแก่” สนับสนุนผู้สูงอายุ ให้ใช้ดนตรี และเสียงเป็นสื่อในการทำกิจกรรมร่วมกัน ชวนกันมาร้องเพลง พูดคุย เจอเพื่อน ๆ เจอสังคม มาทำกิจกรรมร่วมกัน ช่วยไม่ให้เป็นอัลไซเมอร์ พวกเขามีความสุข ทำให้รู้สึกตัวเองมีคุณค่า ล่าสุดงาน SET Awards เราก็เชิญวงปล่อยแก่มาร้องเพลงในงานด้วย
ตั้งวงปล่อยแก่-เด็กภูมิดี
“ตอนนี้วงปล่อยแก่ ครอบคลุมกว่า 10 จังหวัด 10 วง มีสมาชิกมากกว่า 1,000 คน บางวงมี 40-50 คน ก็สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป สิ่งที่ผมเห็น แล้วต้องยิ้มตาม เขามีโอกาสได้มาร้องเพลง เขาจะมีความสุข และผมเคยไปคุยกับผู้สูงอายุ เขาเล่าวว่า ตื่นเต้นทุกครั้งที่มีการรวมตัวกัน สัปดาห์ละ 1 หรือ 2 วันมาซ้อมร้อง สมมุติซ้อมประมาณ 9 โมง จะตื่นกันตั้งแต่ตี 5 เพราะชีวิตเขามีคุณค่า ได้ร้องเพลง ได้เจอเพื่อน และมีคุณครูมาสอน ท่องโน้ต อาจจะจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็รู้ว่า อยู่คีย์ไหน สมองได้ทำงาน จำเพลง จำเนื้อ จำโน้ต”
อีกกลุ่ม “วงเด็กภูมิดี” เป็นการสนับสนุนเด็กขาดโอกาส ให้มีทักษะด้านดนตรี ทั้งประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น ตอนปลาย จะเป็นในทํานองเดียวกัน นำเด็ก ๆ มาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพราะการสอนให้เด็กรู้จักดนตรี ทำให้ห่างไกลพวกอบายมุขยาเสพติดทั้งหลาย เกิดความภูมิใจในทักษะทางการดนตรี มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการต้นแบบรวมแล้ว 9 แห่ง มีนักเรียนเข้าร่วมแล้วกกว่า 1,000 คน สิ่งที่น่าดีใจ คือ พ่อแม่เด็ก ๆ กลุ่มนี้ดีใจมาก ที่ลูกเขาได้รับโอกาสเรียนด้านดนตรี ไม่ใช่เล่นแต่เกม หรือไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดี ซึ่งทั้งโครงการเด็ก และผู้ใหญ่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก
นอกจากนี้ยังมี โครงการพัฒนาทักษะสมอง เพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน โดยใช้ Executive Function (EF) พัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า เป็นการพัฒนาทักษะการใช้ชีวิตให้เป็น เราทำกับสถาบันรักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป เพราะเด็ก คือ อนาคตของประเทศ ตอนนี้ปัญหาของเด็กยุคใหม่ คือ สมาธิสั้น ไม่ค่อยใช้ชีวิตเหมือนสมัยก่อน ที่เน้นการเล่นกับเพื่อน แต่การละเล่นสมัยนี้ เด็กอยู่กับมือถือ เพราะฉะนั้นจึงทำให้ขาดทักษะในการใช้ชีวิต ทำให้เด็กหลายคนไม่รู้จักอดทนรอ หลายคนก็ไม่เคยช่วยงานบ้าน เด็กอาจขาดทักษะการใช้ชีวิต สิ่งที่เราพยายามเข้าไป ปลูกฝังเรื่องของทักษะการใช้ชีวิต
“เราทำกับสถาบันรักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป เริ่มที่จ.เชียงรายเป็นจังหวัดต้นแบบแห่งแรก และก็ยังขยายไปจังหวัดอื่น ๆ เช่น น่าน ลำปาง สิ่งที่เราเข้าไปทำแล้ว เรามองว่า เป็นความสําคัญต่อไปในอนาคต ทุกวันนี้การศึกษาในโรงเรียน ในระบบสมัยก่อน เราไปโรงเรียน เพื่อศึกษาความรู้ แต่ถามว่า ยุคใหม่เด็กสามารถหาความรู้จาก Google จาก internet ได้เร็วกว่าไปโรงเรียน”
สนับสนุนเด็กใช้ทักษะชีวิตเป็น
สิ่งที่เราพยายามจะปรับ คือ โรงเรียนไม่ใช่ให้ความรู้อย่างเดียว แต่โรงเรียนต้องให้ทักษะการใช้ชีวิตกันเองอีกด้วย สิ่งที่เกิดขึ้น หลาย ๆ ครอบครัว พ่อแม่รู้สึกได้ลูกตัวเองกลับมา นอกจากเด็กปรับพฤติกรรมแล้ว พ่อแม่ก็ต้องปรับพฤติกรรมด้วย แต่ก่อนพอมีเวลาก็โยนไอแพด โยนโทรศัพท์ แต่สิ่งที่เราเข้าไปบูรณาการ คือ ครูต้องบอกพ่อแม่มาคุยว่า ถ้าอยากจะเปลี่ยนพฤติกรรมของลูก พ่อแม่ก็ต้องเปลี่ยน มีเวลาคุยกับลูก ทำกิจกรรมร่วมกับลูก และเราทำร่วมกับเครือข่ายสาธารณสุข พอแม่ตั้งครรภ์ต้องปลูกฝังให้แม่เข้าใจในการเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จต้องให้เวลากับลูก ทำให้เขามีวิธีการเลี้ยงลูกที่ถูกต้อง พ่อแม่อยู่กับลูกเขามีความสุข เพราะฉะนั้นเด็กเมื่อมีจุดยึดเหนี่ยว ก็จะไม่หลงทาง
รวมทั้งได้ร่วมกับโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน ให้งบสนับสนุน พยายามทำให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ เป็นโรงเรียนที่นำเรื่องของจิตศึกษาเข้ามาบูรณาการเด็ก เขาจะมีวินัย ไม่มีห้องเรียนประจำ ไม่มีหน้ากระดาน โรงเรียนนี้ไม่มีการสอบเข้า ไม่มีการคัดเลือกแข่งขัน ใช้วิธีจับสลากวัดดวงตั้งแต่อนุบาล พ่อแม่มาลุ้น ถ้าเกิดลูกจับฉลากได้เรียนก็ได้เรียน ถ้าจับฉลากไม่ได้ก็ไม่ได้เรียน เพราะเขาต้องการทำเป็นต้นแบบให้เห็นว่า แม้ไม่ได้มีการคัดเด็ก เขาสามารถพัฒนาได้ มีครูวิเชียร ไชยบัง เป็นผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการโรงเรียน เขาทำเพราะใจรัก
ดึงเยาวชนไม่ให้หลุดการศึกษา
“ถ้าไปโรงเรียนนี้จะเห็นเด็กพอจะเข้าห้องเรียน ต้องวางรองเท้าถอดรองเท้า วางที่นอนก็จัดเป็นคิว และพอเด็กโตขึ้นการสอนของเขา ใช้เป็นลักษณะการให้โจทย์ แต่ไม่มีตายตัว ให้เด็กได้ใช้ความคิดเอง มีการตีกรอบความคิด แต่เด็กเขาประสบความสำเร็จ เพราะเด็กสามารถที่จะค้นพบตัวเองว่า ฉันชอบอะไร หรือการเล่านิทานเสร็จ ก็ให้เด็กคิดเองว่าเด็กได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ โรงเรียนนี้ คือถ้าเกิดพ่อแม่ ลูกคนไหนได้เข้าเรียนจะแฮปปี้ เพราะไม่ต้องกังวลอนาคตเขา เด็กสามารถที่อยากค้นหาตัวเองได้”
“รองรักษ์” ยังเล่าอีกว่า ยังได้สนับสนุนทุนการศึกษา ทำโครงการสานฝันการศึกษาเพื่อน้อง สนับสนุนนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และด้อยโอกาส เพื่อไม่ให้เด็กไทยหลุดจากระบบการศึกษา, โครงการทุนการศึกษาพยาบาลรามาธิบดี รวมทั้งโครงการฝ่าวิกฤติด้วยเศรษฐกิจและสังคมฐานราก ร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานพระราชดำริ, โครงการศูนย์การเรียนรู้ต่อเนื่องอย่างยั่งยืน ร่วมกับสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย เพิ่มบทบาทห้องสมุดประชาชนให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน และเป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อสร้างรายได้เสริม “อาชีพที่สอง” สนับสนุนด้านกีฬา ร่วมกับสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิส
“เราทำแต่ละเรื่องต้องใช้เวลา เราเน้นย้ำตลอดการทำซีเอสอาร์ ไม่ใช่แค่พีอาร์ ซีเอสอาร์ กับพีอาร์ต่างกัน พีอาร์คุณทำแล้วหวังผล ผู้บริหาร และกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ อยากให้เราทำอะไรที่สร้างอิมแพ็กต่อสังคม วิธีคิดในการเลือกโครงการต่าง ๆ ต้องบอกว่า เป็นโครงการที่
สามารถสร้างอิมแพ็กให้กับสังคม บางโครงการ เรามองว่า คนอื่นอาจจะยังไม่ให้ความสําคัญ เพราะอาจจะไม่ได้เห็นผลทันที ต้องใช้ระยะเวลา ของเราต้องใช้เวลา”
ส่วนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ได้ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจร่วมกันดูแลจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยการลดก๊าซเรือนกระจกในองค์กรผ่านเครื่องมือ Climate Care Platform ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยจัดการข้อมูล บันทึกข้อมูลการลดก๊าซเรือนกระจก รวมถึงคำนวณปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจก ครอบคลุมการลดก๊าซเรือนกระจกทุกทรัพยากรในองค์กร ได้แก่ การลดเชื้อเพลิง การลดไฟฟ้า การลดน้ำ กระดาษ พลาสติก และการจัดการขยะและของเสีย Climate Care Platform จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคสังคม มาร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม
ตั้งต้นดีนำผู้พ้นโทษสร้างรายได้
อีกหนึ่งงานด้านพัฒนาสังคม คือ การส่งเสริมผู้ประกอบการเพื่อสังคม(Social Enterprise : SE) เนื่องจาก SE คือผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงได้ส่งเสริมการดำเนินงานของ SE ผ่านการให้ความรู้ทางธุรกิจ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ SE เพื่อให้ธุรกิจ SE มีความเข้มแข็งสามารถไปดูแลสังคมต่อได้ เมื่อปี 66 มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการดำเนินงานจัดตั้ง SE โดยมีชื่อว่า บริษัท เซ็ท เอสอี จำกัด (SET SE) ขึ้นทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมในรูปแบบไม่แบ่งปันผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้น SET SE ดำเนินธุรกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมธุรกิจของ SE (SE Enabler) ให้มีการเติบโตอย่างเข้มแข็งควบคู่กับการดูแลสังคมอย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน SET SE ได้เข้ามาส่งเสริมโครงการทางธุรกิจของ SE เช่นการร่วมลงทุนในโครงการร้านอาหารครัวตั้งต้นดี สาขาศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ของ SE บริษัท ตั้งต้นดี เพื่อสังคม จำกัด ซึ่งเป็น SE ที่นำผู้พ้นโทษมาฝึกพัฒนาทักษะอาชีพ มีเป้าหมายในการลดอัตรากระทำผิดซ้ำของผู้พ้นโทษ และให้ผู้พ้นโทษอยู่ในสังคมได้อย่างมั่นใจ มีคุณค่าและมีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว โครงการร้านอาหารครัวตั้งต้นดี จะมีผู้พ้นโทษที่ได้รับการฝึกทักษะมาเป็นพนักงานในร้านอาหาร โดยคาดว่าร้านอาหารจะเปิดให้บริการในเดือน ก.ย.นี้.