โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ในพระราชสำนัก

24 ปีแห่งพระเมตตา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ กับการฟื้นชีวิตเด็กผู้ป่วยมะเร็ง

สยามรัฐ

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตลอดระยะเวลากว่า 22 ปีแห่งพระกรุณาธิคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงมีพระเมตตาอันเปี่ยมล้นในการช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กที่ยากไร้ทั่วประเทศ ผ่าน“กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ฯ” ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สะท้อนพระวิริยะอุตสาหะและการอุทิศพระองค์เพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง

กองทุนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดย มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2544 และได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เสด็จพระดำเนินเปิดโครงการด้วยพระองค์เอง พร้อมทั้งประทานเงินส่วนพระองค์ จำนวน ๑ ล้านบาท เป็นทุนเริ่มต้นกองทุน โดยทรงมีพระดำริชัดเจนว่า ความช่วยเหลือจากกองทุนฯ มิใช่เพื่อโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง แต่เพื่อกระจายไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศที่ร้องขอความช่วยเหลือเข้ามา

นอกจากนี้พระองค์ยังทรงประทานเงินสมทบเพิ่มเติมในปี 2560 และ 2561 ปีละ 1 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือ อีกทั้งยังทรงอนุญาตให้ปรับชื่อกองทุนเป็น “กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ”

เด็กไทยกับโรคมะเร็ง: ความจริงที่ต้องเผชิญ

ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรเดช หงส์อิง เลขาธิการ กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 15 ปี มีอุบัติการณ์มากกว่า1,200 รายต่อปี ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) พบมากที่สุด ร้อยละ 30 รองลงมาคือมะเร็งในสมอง ร้อยละ 20และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ร้อยละ 15 สาเหตุส่วนใหญ่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด และไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงดูหรือสิ่งแวดล้อมโดยตรง มีเพียงร้อยละ 1–3 เท่านั้นที่สัมพันธ์กับพันธุกรรมโดยตรง

เด็กที่ป่วยเป็นมะเร็งมักมีอาการซีด ไข้ เลือดออกง่าย และพบการโตของตับ ม้าม หรือต่อมน้ำเหลือง ซึ่งล้วนมาจากการทำงานผิดปกติของไขกระดูกที่เป็นแหล่งกำเนิดเซลล์เม็ดเลือด หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและต่อเนื่อง อาจเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายหรือเสียชีวิตได้

การรักษาที่เปิดประตูสู่โอกาสใหม่

ความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบันได้พลิกสถานการณ์อย่างน่าทึ่ง ทำให้เด็กที่ป่วยมีโอกาสหายขาดมากขึ้น ด้วยวิธีการรักษาที่หลากหลาย ได้แก่:

- การผ่าตัด โดยทีมศัลยแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้าน ทำให้ลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา

- การใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy): เป็นแนวทางหลักในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวในเด็ก โดยใช้ยากลุ่มต่าง ๆ เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งและควบคุมการแพร่กระจายของโรค

- การรักษาเป้าหมาย (Targeted Therapy): ใช้ยาที่ออกแบบเฉพาะเพื่อจับคู่กับโปรตีนหรือยีนในเซลล์มะเร็ง เช่นยาที่มุ่งเน้นไปที่การยับยั้งการทำงานของโปรตีนเฉพาะในเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวบางชนิด

- การรักษาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): การใช้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อช่วยต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง เช่น ยา BiTEs หรือการบำบัดด้วย CAR-T cells ซึ่งได้พัฒนาและนำมาใช้ในการรักษาในผู้ป่วยเด็กบางราย

- การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Transplantation): ในบางกรณีที่รุนแรงหรือไม่ตอบสนองต่อเคมีบำบัด อาจพิจารณาการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดจากผู้บริจาคพี่น้องของผู้ป่วย หรือจากบุคคลอื่นจากสภากาชาดไทย หรือพ่อหรือแม่ซึ่งปกติรักษาด้วยวิธีนี้ยากมาก มีไม่กีแห่งในประเทศไทยที่ทำกันได้

วิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันเปิดทางเลือกมากมายในการรักษาโรคมะเร็งในเด็ก ทั้งการผ่าตัดที่แม่นยำด้วยทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การใช้เคมีบำบัดที่พัฒนาขึ้นจนลดผลข้างเคียงได้มาก การฉายรังสีด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และการปลูกถ่ายไขกระดูกจากบุคคลในครอบครัวหรือผู้บริจาคภายนอกที่ไม่ใช่พี่น้อง โดยวิธีสุดท้ายนี้มีค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 2,000,000 บาทต่อราย ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้หากไม่มีการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมีการรักษามะเร็งในเด็กด้วย immunotherapy เป็นแนวทางที่น่าจับตามอง เน้นใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง ซึ่งมีข้อดีคือมักให้ผลข้างเคียงน้อยกว่าการเคมีบำบัดแบบดั้งเดิม และสามารถเจาะจงเป้าหมายได้ดีขึ้น ปัจจุบัน การใช้ immunotherapy ในเด็กสำหรับมะเร็งบางชนิดยังอยู่ในระยะทดลองหรือการนำมาใช้ในกรณีเฉพาะ แต่ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

พระเมตตาเพื่อโอกาสแห่งการมีชีวิต

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงมีพระเมตตาอันหาที่สุดมิได้ต่อพสกนิกรผู้ตกทุกข์ได้ยาก ทรงริเริ่มโครงการสาธารณสงเคราะห์ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก เช่น โครงการลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก และกองทุนยาพระวรราชาทินัดดามาตุ สำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์ นอกจากนี้ยังทรงเป็นนายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทยอีกด้วย

วิจัยเพื่ออนาคตของเด็กไทย

นอกจากการช่วยเหลือในการรักษา กองทุนฯ ยังสนับสนุนงบประมาณให้แก่ชมรมโรคมะเร็งในเด็กตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 เพื่อพัฒนางานวิจัยเกี่ยวกับการรักษามะเร็งต่อมหมวกไตในเด็ก ซึ่งเป็นโรคที่รักษายากและมีความรุนแรง การสนับสนุนนี้ทำให้วงการแพทย์ไทยมีความก้าวหน้าทัดเทียมระดับนานาชาติ และเพิ่มอัตราการหายขาดของเด็กที่ป่วยอีกหลายราย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยในการผลิต CAR T cell ขึ้นใช้เองในประเทศไทย โดยถ้านำเข้า ค่าใช้จ่ายเข็มละ 15,000,000 บาท แต่ทั้งนี้สามารถลดค่าใช้จ่ายลงมาได้ถึง 10 เท่า

เด็กไทยไม่ควรต้องเลือกระหว่างการรักษากับความอยู่รอด

ด้วยความยากลำบากของครอบครัวผู้ป่วย กองทุนฯ จึงเข้าช่วยเหลือในหลายมิติ ทั้งค่ารักษา ค่าเดินทาง ค่าที่พัก อุปกรณ์ทดแทนแขนขาที่ถูกตัดออก รวมถึงยาจำเป็นที่อยู่นอกการครอบคลุมของโครงการสวัสดิการ หลายครอบครัวที่ไม่แม้แต่จะมีค่ารถเพื่อพาบุตรไปรักษา ได้รับโอกาสใหม่เพราะพระเมตตาและการจัดการของกองทุนฯ ปัจจุบัน กองทุนฯสนับสนุนงบช่วยผู้ป่วยเด็กของโรงพยาบาลกว่า ๒๐ แห่งทั่วประเทศ เช่น โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลศรีสะเกษ เป็นต้น เพื่อใช้ในการรักษา ฟื้นฟู และปลูกถ่ายไขกระดูก รวมทั้งสนับสนุนทางการวิจัย การสนับสนุนจากกองทุนฯ ทำให้เด็กหลายรายที่เคยเผชิญกับความเสี่ยงต่อความพิการสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ เช่น การมอบทุนในการจัดซื้อแขนขาโลหะเพื่อทดแทนกระดูกที่ถูกตัดออก ทำให้เด็กไม่จำเป็นต้องถูกตัดแขนขาทิ้งไป นอกจากนี้ยังครอบคลุมค่าที่พักและค่าเดินทางสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล ซึ่งเป็นอีกอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงการรักษา แม้แต่ยาบางชนิดที่อยู่นอกสิทธิ์การรักษาในระบบหลัก ก็ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ เพื่อให้เด็กได้รับยาอย่างครบถ้วนและทันเวลา

แพทย์ผู้รักษาในหลายโรงพยาบาลต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า การสนับสนุนจากกองทุนฯ ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสได้รับการรักษาที่ต่อเนื่องและเหมาะสม ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองเด็กต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระเมตตา ที่พระองค์ทรงดำริให้เด็กยากไร้ทุกคนได้รับโอกาสช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม และเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ในชีวิต

ท่านสามารถร่วมบริจาคช่วยสนับสนุนกิจกรรมของกองทุนได้ที่บัญชี “กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ฯ” SCB สาขาอ่อนนุช เลขที่บัญชี 133-2-08742-3 โทร 0-2718-3800 ต่อ 123 ใบเสร็จนำไปลดหย่อนภาษีได้ รายละเอียดที่ http://www.thaichildrencancerfund.org/

พระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้: พระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรยากไร้

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงอุทิศพระองค์ในการบำเพ็ญพระกรณียกิจด้านสังคมสงเคราะห์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะด้านผู้หญิงและเด็ก ทรงเยี่ยมเยียนประชาชนผู้ทุกข์ยาก ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อโครงการต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ การศึกษา หรือการดำรงชีวิต

กองทุนโรคมะเร็งในเด็กฯ จึงมิได้เป็นเพียงแหล่งเงินทุนหากเป็นสัญลักษณ์แห่งพระเมตตา ความหวัง และการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กไทย ที่ในอดีตอาจต้องเผชิญกับความทุกข์ยากและโรคร้าย แต่วันนี้ พวกเขามีโอกาสยืนหยัด กลับมาเติบโตอย่างงดงามในสังคมอีกครั้ง

13 กรกฎาคม นี้ เป็นวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันถวายพระพร ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ตลอดไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

ศึกเลือกตั้ง ส.ส.ศรีสะเกษ ทั้งเสือ และสิงห์ ต่างนำสาวจากพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยลงสมัครด้วยตนเอง

37 นาทีที่แล้ว

"ราชวินิตบางแก้ว" เหลือ 10 คน อัด "พณิชยการราชดำเนิน" 2-0 เก็บ 3 แต้มแรก ศึกลูกหนังขาสั้น "กรมพลศึกษา เดลินิวส์ คัพ 2024"

50 นาทีที่แล้ว

ลุ้น! "รมว.คลัง" ชงครม. (15 ก.ค.) เสนอชื่อ "วิทัย รัตนากร" ผอ.แบงก์ออมสิน นั่งเก้าอี้ผู้ว่าธปท.คนใหม่

56 นาทีที่แล้ว

สิ้นอดีตพระเอกดัง "ชัย ราชพงษ์" เสียชีวิตในวัย 80 ปี

57 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยอดนิยม