5 วิธีป้องกัน ‘Burnout’ ก่อนหมดไฟทำงาน
ใช้แรงทำเงิน& ให้เงินทำงาน กดSubscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
มีใครกำลังรู้สึก ‘หมดไฟ’ ในการทำงานอยู่บ้าง?…มาดู 5 วิธีป้องกันตัวเองจากอาการ ‘Burnout’ ก่อนที่จะหมดแรงทั้งกายและใจ
มีเวลาดูแลตัวเอง
ในสังคมที่ทุกอย่างเร่งรีบและยุ่งตลอดเวลา เราอาจละเลยการดูแลตัวเองไปได้ง่ายๆ ซึ่งการดูแลตัวเองนั้นเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้ห่างไกลภาวะหมดไฟ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย มาสก์หน้า ทำงานอดิเรกที่ชอบ ออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ และกิจกรรมอื่นๆ (แม้แต่การนอนดูซีรีส์เฉยๆ) ที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจ ไม่ต้องใช้เวลาทั้งหมดเพื่อเร่งพัฒนาตัวเองก็ได้ เดี๋ยวจะหมดไฟไปเสียก่อนนะ
กินอาหารดีๆ
อาหารดีๆ ไม่ได้ช่วยแค่บำรุงสุขภาพกาย แต่ช่วยบำรุงสุขภาพจิตใจ ลดความเครียดได้ด้วยเช่นกัน จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยในแต่ละมื้อควรมีสารอาหารครบถ้วน และควรมีอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง อย่างปลาที่มีโปรตีนแและถั่วชนิดต่างๆ หรือไม่ก็หาผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มารับประทานเป็นของว่าง รับรองว่าจะรู้สึกสดใสขึ้นทันตา
มองหาคุณค่างานที่ทำ
หลายคนทำงานที่ต้องรับผิดชอบไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร หรือจะสร้างประโยชน์ให้ใครได้บ้าง สิ่งเหล่านี้ทำให้ไฟในการทำงานมอดลงได้เช่นกัน และแม้งานที่สบายที่สุด ก็อาจทำให้รู้สึกหมดไฟได้หากเราไม่รู้ว่าทำไปทำไม
ไม่ว่าจะทำงานหน้าที่อะไร ลองมองดูดีๆ แล้วจะพบว่าเรากำลังสร้างประโยชน์ให้ใครสักคนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ หรือเรื่องใหญ่ก็ตาม เช่น ทำให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว มีสินค้าคุณภาพดีเพิ่มขึ้นให้ผู้บริโภค ช่วยให้เพื่อนในทีมไม่ต้องนั่งเครียดจนดึก หรือแม้แต่การได้ซื้ออาหารอร่อยๆ กลับไปสร้างรอยยิ้มให้คนในครอบครัว ถ้าเรามองเห็นคุณค่าเมื่อไหร่ แรงใจก็จะมาเต็ม!
พบปะผู้คน
โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้ว ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นสำคัญต่อสุขภาพจิตที่ดีเป็นอย่างยิ่ง แม้งานจะยุ่งแค่ไหน ก็อย่าลืมหาเวลาพบปะเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือคนรักอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยรักษาความสัมพันธ์กับคนดีๆ ในชีวิตแล้ว ยังช่วยให้ทุกฝ่ายรู้สึกอบอุ่น ไม่โดดเดี่ยว หรือสบายใจมากขึ้นที่ได้คุยกับคนสนิทที่เราไว้ใจ
คุยกับตัวเองบ้าง
ในช่วงเวลาว่างๆ ลองนั่งคุยกับตัวเองถึงความรู้สึกในช่วงต่างๆ ว่าช่วงนี้เหนื่อยเกินไปไหม รู้สึกอย่างไร มีอะไรติดค้างใจหรืออยากเปลี่ยนหรือเปล่า หรืออะไรที่เราต้องการจริงๆ ในชีวิต แต่ต้องคุยอย่างมีสติ ไม่ไหลไปกับความคิดจนเผลอตำหนิตัวเองในความผิดพลาดที่เคยทำ การสำรวจความรู้สึกตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้เรารู้ทันถึงปัญหาก่อนที่จะสายเกินแก้ ทั้งยังช่วยให้เราเดินไปตามทางที่เราต้องการได้จริงๆ ด้วย
วิธีเหล่านี้นอกจากช่วยป้องกันภาวะหมดไฟได้แล้ว ยังเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิตดีๆ ในมิติอื่นอีกด้วย แต่ถ้าหากใครรู้สึกว่าเริ่มเข้าภาวะหมดไฟแล้ว ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตทันที การรักษาจิตใจของเราให้มีแรงใจอยู่เสมอ เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เราคว้าทุกโอกาสได้สำเร็จ จึงไม่ควรหักโหมทำงานจนมองข้ามจิตใจตัวเอง