ช็อกวงการ! พบศพผู้กำกับหนังชื่อดัง “ร็อบ ไรเนอร์” พร้อมภรรยาในบ้าน คาดโดนลูกชายฆาตกรรม
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานการเสียชีวิตของ “ร็อบ ไรเนอร์” ผู้กำกับภาพยนตร์คนสำคัญแห่งฮอลลีวูด โดยมีการพบศพของเขาและ มิเชล ซิงเกอร์ ไรเนอร์ ผู้เป็นภรรยา ภายในบ้านพักในลักษณะที่โดนทำร้ายด้วยอาวุธมีคม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ขณะนี้ ตำรวจลอสแอนเจลิสกำลังสอบสวนการเสียชีวิตของ ไรเนอร์ และภรรยา ในฐานะ "คดีฆาตกรรม” ขณะที่คนในวงการจำนวนมาก ต่างแสดงความเศร้าเสียใจต่อการจากไปของผู้กำกับ ที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ยอดนิยมอย่าง "When Harry Met Sally…”, “The Princess Bride” และ “Stand By Me”
นิตยสารเดอะ พีเพิล รายงานว่า ไรเนอร์ และภรรยาของเขา ถูกสังหารโดย นิค ไรเนอร์ ลูกชายของพวกเขาเอง โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวใกล้ชิดที่ได้พูดคุยกับสมาชิกในครอบครัว แต่ขณะนี้ตำรวจยังไม่ยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าว
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ภัยและดับเพลิงแห่งลอสแอนเจลิส ตอบรับการแจ้งเหตุฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือทางแพทย์ที่บ้านหลังหนึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 15.30 น.
แต่เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาก็พบร่างของชายอายุ 78 ปี และหญิงอายุ 68 ปี ซึ่งเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ และต่อมาได้รับการยืนยันว่าเป็น ร็อบ และ มิเชล ไรเนอร์
ด้านตำรวจระบุว่า นิค ไรเนอร์ วัย 32 ปี ยังมีชีวิตอยู่และกำลังถูกสอบปากคำ แต่ยังไม่มีการจับกุมใด ๆ
ร็อบ ไรเนอร์ เป็นผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้างและนักแสดง ซึ่งมีผลงานภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จในฮอลลีวูดหลายเรื่อง ได้แก่ This Is Spinal Tap (ค.ศ. 1984), Stand by Me (ค.ศ. 1986), The Princess Bride (ค.ศ. 1987), When Harry Met Sally… (ค.ศ. 1989), Misery (ค.ศ. 1990) และ A Few Good Men (ค.ศ. 1992)
สำหรับผลงานด้านการแสดงนั้น ไรเนอร์สร้างชื่อเสียงจากการรับบทเป็น ไมค์ “มีตเฮด” สติวิก ในละครซิทคอมทางโทรทัศน์เรื่อง All in the Family ที่ออกอากาศในยุคทศวรรษ 1970
ไรเนอร์ เกิดที่ย่านบร็องซ์ นครนิวยอร์ก ในวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1947 บิดาของเขาคือ คาร์ล ไรเนอร์ นักแสดงตลกในตำนาน และมารดาของเขาคือ เอสเตล เลอบอสต์ นักแสดงและนักร้อง
เขากับ มิเชล พบกันระหว่างที่ ไรเนอร์ กำกับภาพยนตร์เรื่อง When Harry Met Sally ทั้งคู่แต่งงานกันในปี ค.ศ. 1989 มีบุตรด้วยกันสามคน ได้แก่ เจค, นิค และโรมี
ก่อนหน้านี้ ร็อบเคยแต่งงานกับ เพนนี มาร์แชล ซึ่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 2018 ด้วยวัย 75 ปี จากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
ระหว่างที่ นิค ไรเนอร์ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเดอะ พีเพิล เมื่อปี ค.ศ. 2016 เขาเคยพูดถึงการต่อสู้กับการเสพติดยาเสพติดที่ยาวนานหลายปีของเขา ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นตอนต้น และท้ายที่สุดทำให้เขาต้องไปใช้ชีวิตตามท้องถนน
นิค กล่าวว่า เขาเข้ารับการบำบัดหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่อายุประมาณ 15 ปี แต่เมื่อการเสพติดของเขาทวีความรุนแรงขึ้น เขาก็ห่างจากบ้านมากขึ้น และใช้ชีวิตเร่ร่อนในหลายรัฐเป็นเวลานาน
นิค ยังกล่าวว่า ช่วงเวลาที่วุ่นวายของการติดยาเสพติด ซึ่งรวมถึงการนอนตามถนนหลายคืนหรือหลายสัปดาห์ กลายเป็นวัตถุดิบของภาพยนตร์กึ่งอัตชีวประวัติเรื่อง Being Charlie ที่ไรเนอร์เป็นผู้กำกับ และตัวเขาเองเป็นผู้ร่วมเขียนบทด้วย
ที่มา : people.com
เครดิตภาพ : AFP, GETTY IMAGES