กมธ.บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เตรียมความพร้อม สร้างความเข้าใจแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำน่านอย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม และในฐานะกรรมาธิการ และที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สภาผู้แทนราษฎร ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมสร้างความเข้าใจแนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งกล่าวถึงความสำคัญของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ซึ่งเป็นลุ่มน้ำสายหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อการดำรงชีวิต การเกษตร และเศรษฐกิจของจังหวัดน่าน
นางสาวริญญาภัทร์ ลิมป์ธนกิตติ์ นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่บุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มผู้ใช้น้ำ เกษตรกร และประชาชนทั่วไป ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งเปิดเวทีให้ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานด้านชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและตอบข้อซักถาม เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำน่านอย่างรอบด้าน
ดร.เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ กรรมาธิการ และที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จังหวัดน่านนับเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรน้ำ โดยเฉพาะแม่น้ำน่านซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่เชื่อมโยงไปยังหลายพื้นที่ และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค อย่างไรก็ตาม จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศของลุ่มน้ำน่าน ทำให้เกิดปัญหาอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้ง สร้างความเสียหายต่อภาคเกษตรกรรม ระบบชลประทาน และการดำรงชีวิตของประชาชน
คณะกรรมาธิการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สภาผู้แทนราษฎร เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการหามาตรการแก้ไขปัญหาเชิงระบบ โดยเฉพาะการสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ และการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ โครงการสัมมนาครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีในการระดมความคิดเห็นและนำเสนอแนวทางการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การลดผลกระทบจากอุทกภัยและภัยพิบัติ รวมทั้งวางรากฐานให้เกิดการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และ คาดหวังว่าจะทำให้ผู้เข้าร่วมได้รับทั้งความรู้และแนวคิดใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ พร้อมกันนั้นยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้น้ำ และชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการบูรณาการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของจังหวัดน่านจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของทุกภาคส่วนได้อย่างสมดุล ลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ และสร้างความมั่นคงทางน้ำในระยะยาว เพื่อประโยชน์ของประชาชนในจังหวัดน่านและพื้นที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป