DSI เรียกสอบกลุ่มนายจ้าง บริษัทเอกชน-บริษัทจัดหางานแรงงานต่างด้าว ไขปมถูกรีดจ่าย 2,500 บาท
DSI เรียกสอบกลุ่มนายจ้าง บริษัทเอกชน-บริษัทจัดหางานแรงงานต่างด้าว ทั่วประเทศไขปมถูกรีดจ่าย 2,500 บาท อ้างค่าต่อใบอนุญาตออนไลน์ หลัง บอร์ด กคพ. มีมติรับคดีหักหัวคิวแรงงานกัมพูชา เป็นคดีพิเศษ
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงกรณีที่ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจค้น 4 จุดเป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพ ซึ่งเป็นบริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ เป็นผู้ดำเนินการรับต่อใบอนุญาตทำงานให้แก่แรงงานสัญชาติกัมพูชา ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ เพื่อรวบรวมเก็บพยานหลักฐาน ขบวนการรีดหัวคิวแรงงานกัมพูชา รายละ 2,500 บาท จำนวน 1.8 แสนคน
โดยพบว่ามีเส้นทางการเงินจากบัญชีม้าคนไทยและคนต่างด้าวเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชา ทั้งยังพบความเกี่ยวข้องระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐของไทยและกัมพูชา ต่อมาพนักงานสืบสวนยังได้มีการเรียกสอบปากคำพยานต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มนายจ้าง ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน รวมถึงกรรมการบริษัทเอกชน ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
นอกจากนี้ กลุ่มบัญชีม้าคนไทยในนามบุคคลและนิติบุคคลก็ได้มาให้ข้อมูลกับคณะพนักงานสืบสวนเรียบร้อยแล้ว ว่า ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติเห็นชอบให้คดีความผิดทางอาญาอื่น จำนวน 1 เรื่อง กรณี การกระทำความผิดของชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมกันกระทำเป็นขบวนการหลอกลวงหรือกระทำด้วยวิธีการอื่นใด โดยเรียกรับเงินจากนายจ้างและแรงงานต่างด้าว เพื่อให้ได้รับการต่อใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยอันมิชอบด้วยกฎหมาย ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 24 ก.ย.67 สำหรับแรงงานชาวกัมพูชาเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เรียบร้อยแล้ว
จากนี้หน้าที่ของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คือ การออกหมายเรียกพยานสอบปากคำเพิ่มเติม อาทิ กลุ่มบุคคลที่รับโอนเงินจากค่าใช้จ่ายส่วนต่างดังกล่าวที่บริษัทนายจ้างต้องจ่ายให้กับแรงงานกัมพูชาของตนเอง ซึ่งมีจำนวนเงินหลายล้านบาทเข้ามาเกี่ยวข้อง
พ.ต.ท.ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ในห้วงเวลาที่ผ่านมาก่อนที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) จะรับดำเนินการไว้เป็นคดีพิเศษนั้น ทางเราได้มีการสอบสวนปากคำพยานเมื่อครั้งเป็นเรื่องสืบสวนที่ 27/2568 โดยได้สอบปากคำไว้หลาย 10 ปาก ส่วนหลังจากนี้ เมื่อเป็นคดีพิเศษ เราก็ยังคงต้องขยายผลดูในส่วนของการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม
เพื่อรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุดและรอบคอบที่สุด เบื้องต้นเราจะต้องสอบสวนปากคำกลุ่มนายจ้างบริษัทเอกชน หรือบริษัทจัดหางาน (บนจ.) ที่มีลูกจ้างแรงงานชาวกัมพูชาเพิ่มเติม ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อที่จะตรวจสอบกรณีที่นายจ้างหลายรายถูกอ้างว่าต้องจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเพื่อที่ลูกจ้างจะได้ต่อใบอนุญาตการทำงานผ่านระบบออนไลน์ ให้สามารถทำงานต่อในราชอาณาจักรไทยได้ ว่าเป็นการโอนเงินไปยังบัญชีปลายทางอย่างไรบ้าง จำนวนเงินกี่บาทต่อลูกจ้างชาวกัมพูชากี่ราย เป็นต้น
พ.ต.ท.ธนวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า ส่วนเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าปลายทางบัญชีธนาคารที่รับโอนเงินจากบัญชีนายจ้างชาวไทย รวมถึงบริษัทจัดหางานเอกชนที่มีแรงงานต่างด้าวนั้น ส่วนใหญ่มีทั้งบัญชีธนาคารชื่อคนต่างชาติ และคนไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนก็จะต้องเชิญมาสอบถามรายละเอียดเช่นเดียวกัน ว่าเป็นการรับเงินโอนเงินจากนิติกรรมเรื่องใด เหตุใดจึงเป็นบัญชีธนาคารปลายทางที่มารับโอนเงินในส่วนนี้
ทั้งนี้ หากต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐาน พยานวัตถุ หรือพยานเอกสารเพิ่มเติม คณะพนักงานสอบสวนก็จะมีการขอศาลออกหมายค้นสำหรับเปิดปฏิบัติการ เพื่อที่จะได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ส่วนขบวนการดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่รัฐของไทยและของกัมพูชาเข้ามามีบทบาทอย่างไร คณะพนักงานสอบสวนก็จะมีการขยายผลตรวจสอบคู่ขนานไปกับการสอบปากคำพยานหลายกลุ่มอย่างละเอียด ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่ต่าง ๆ เกี่ยวกับแรงงานก็ต้องประสานกับกระทรวงแรงงาน เพื่อดำเนินการต่อไป
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : DSI เรียกสอบกลุ่มนายจ้าง บริษัทเอกชน-บริษัทจัดหางานแรงงานต่างด้าว ไขปมถูกรีดจ่าย 2,500 บาท
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th