GEN Z เตือนว่า “อย่าเยอะ!” ฉากที่ 1
เล่ากันให้มันแฟร์ นักเมนท์ในร้านกาแฟ ตัดผม อาบอบนวด วงเหล้า รถไฟ อย่าได้คุยอะไรซี้ซั้ว แต่ก่อนเขาลือกันว่า “คบเด็กสร้างบ้าน คบคนหัวล้านสร้างเมือง ชีวิตจะยุ่งยาก” เดี๋ยวนี้เห็นทีเราจะต้องพิจารณากันใหม่ วัยรุ่นหลากหลายเขาเตือนใจกันเองว่า “อย่าเยอะ!” ไม่รู้ว่า ผู้ใหญ่ เขาเตือนใจให้คิดกันเองบ้าง หรือ…เปล่า (ฮา)
ผมอยากรู้ใจจะขาดว่า ฮุน เซน แปลว่า จั๋งซั่น ค้นไปไขมาหาเจอจนได้ AI อธิบายคำว่า “ฮุน” ไม่มีความหมายโดยตรงในภาษาไทย สามารถชี้ได้ว่า หมายถึง ชื่อคน หรือ เป็นส่วนหนึ่งของคำอื่นที่มีความหมายแบบเฉพาะเจาะจง อย่างเช่น ในตำราภาษา ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ “ฮุน” (Hoon) หมายถึง “คนขับรถโดยประมาท”
อัยยะ ถ้ามีใครตะโกนว่า “รถฮุนมาแล้ว” รีบหลบจากฟุตบาทเข้าร้าน 7-11 คำแนะนำกรณีนี้ 7-11 ยิ้มแป้น (ฮา) “ฮุน” ในภาษาอีสาน “คนชั่วช้าเลวทราม” เขาเรียกกันว่า “คนฮุน” (ฮา) คำศัพท์ Hoon ใน Longdo Dict แปลว่า “พายุไต้ฝุ่น คือ พายุโซนร้อนที่มีกำลังแรงมาก ความเร็วลมบริเวณใกล้ศูนย์กลางเกินกว่า 120 ก.ม. ต่อ ช.ม. มักจะเกิดในทะเลจีน (ฮา)
“ฮุน” ในภาษาเหนือ แปลว่า “ยับยั้ง ชะลอไว้” ยังดีนะที่ ฮุน เซน ไม่ได้ใช้ชื่อ ฮุนตุน (Hundun) เพราะว่า ฮุนตุน ในปรัชญาจีน แปลว่า “ความโกลาหลดั้งเดิม” หรือ “ความสับสนวุ่นวายก่อนที่สวรรค์และโลกจะแยกจากกัน” (ฮา) ถ้าความหมายทั้งกองเป็นถ้อยคำบอกใบ้ให้หวย ใครอยากจะรวยให้ไปแปลเอาเอง คาดว่า เจ้ามือหวยคงจะขำกลิ้ง โอกาสจะแทงถูกน้อยมาก โอกาสจะถูกแทงคงจะนับไม่ทัน (ฮา)
ชะโงกค้นรากศัพท์จับจุดคำว่า ทรัมป์ (Trum) หมายถึง ต้นกำเนิด บุคคลที่ดี, คนที่กล้าหาญ การเล่นไพ่ เข้าไปค้นในเก๊ะ คำว่า “Trump” รากศัพท์ของภาษาฝรั่งเศสชี้ว่า “Triomphe” หมายถึง “ชัยชนะ” หรือ “ชุดไพ่พิเศษในเกมไพ่ที่สามารถเอาชนะชุดไพ่อื่นได้ทั้งหมด” รากศัพท์จากภาษาเยอรมัน ซึ่งใช้คำว่า “Drum” รากศัพท์ภาษาอังกฤษสืบทอดมาจากภาษาฝรั่งเศสโบราณว่า “Trompeor” แปลว่า “Trumpeter” หรือ “Maker of Trumpets” หมายถึง เสียงแตร ทรัมเป็ต ภาพรวมจากความหมายหลายคำแปลก็จัดว่าดูดี
ปธ. Trump ท่านเป็นรุ่นพี่ น่าจะรู้ดี และ ยังคงจำได้ เพราะว่า ผมเองเป็นรุ่นน้อง ผมก็ยังจำไม่ลืม เรื่องที่ผมจำได้เป็นกรณีที่ผม เป็นห่วง และ แปลกใจ อยู่พอสมควร วันที่ 4 ก.ค.ของทุกปี ผู้คนเขามารวมตัว จุดพลุตรงริมสระน้ำ ปิ้งย่าง และ ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เขาไม่ได้มาปาร์ตี้ธรรมดาๆ วันหยุดชุดนี้เขาเพื่อรำลึกนึกถึง “การปฏิวัติที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้เรื่องภาษี!”
UK มีพลเมืองน่ารักเยอะแยะ อย่างเช่น “ซาราห์ แบรดลี ฟุลตัน” สังคมยกย่องให้เป็น “ธิดาแห่งเสรีภาพ!” เธอชักชวนผู้คนให้เข้าร่วมก่อตั้งกลุ่ม Daughters of Liberty ประท้วง “พระราชบัญญัติชา” ด้วยการคว่ำถ้วยชาเพื่อต่อต้าน เธอจึงได้สมญานามว่า “มารดาแห่งพรรคชาบอสตัน”
มวลชนคนทุกระดับเขารู้ว่า ผู้บริหารบ้านเมือง UK ส่วนหนึ่ง พลิกสไตล์กลายเป็น “ผู้บริหารบ้านมึง” ไม่นึกถึงความลำบากของรากหญ้า มัวแต่เฮฮาจึงไม่ใส่ใจเป็น “ผู้บริหารบ้านกู” ใครที่เคยเกิดที่ UK สมัยนั้น เขามีอารมณ์ทั้ง ขุ่นเคือง และ ขบขัน เพราะว่าเขาเก็บภาษีแบบไม่สนใจใคร เสียดายที่เด็กสมัยนั้นไม่ได้กระซิบว่า “อย่าเยอะ!” ภาษีที่ “กุมารทึ่ม!” เข้าสิง คือ “ภาษีหน้าต่าง!” (ฮา)
ถ้า ท่านชวน หลีกภัย ได้เกิดที่นั่น หากมีสื่อมาสัมภาษณ์ว่า ทำไมถึงทำกันอย่างนั้น ผมจะเชียร์ให้ ท่านชวน แนะนำนักข่าว ตรงไป ตรงมา ว่า “คุณต้องไปถาม คุณพ่อ คุณแม่ ของ “ผู้บริหารบ้านมึง” จะดีกว่ามั้ง!”(ฮา)
ภาษีบ้าอะไรใครอุตริ มันเป็นภาษีแบบแปรผัน เก็บภาษีกันตามจำนวนหน้าต่าง บ้านไหนที่ติดตั้งสิบบาน รายจ่ายก็จะบานประมาณ 17 ปอนด์ บวกลบ บ้านใดติดตั้งหน้าต่างตั้งแต่สิบถึงยี่สิบบาน รายจ่ายก็บานประมาณ 35 ปอนด์ บวกลบ บ้านที่มีหน้าต่างมากกว่ายี่สิบบาน รายจ่ายจะบานประมาณ 70 ปอนด์ บวกลบ มันน่าสงสัยเหมือนกันนะว่า ชาติก่อนมันคงจะเคยติดคุกอยู่ในห้องขังเดี่ยว (ฮา)
อันที่จริงแล้ว “ปัญหา!” ไม่ได้โปะอยู่ตรงจุดที่ว่า ภาษีถูกเก็บเท่าไหร่ แต่ “ประเด็น!” มันอยู่ที่ว่า ใครมีสิทธิ์มาจัดเก็บภาษีนั้น ในเมื่อไม่มีผู้แทนในรัฐสภา ถึงแม้ว่าจะมีถ้าไม่มีผู้แทนน้ำดี ชาวอาณานิคมก็ไม่มีสิทธิ์ออกเสียง “การเก็บภาษีโดยไม่มีผู้แทน” จึงปะทุเสียงเรียกร้องให้เพื่อนพ้องน้องพี่ช่วยกันคัดค้าน คำประกาศอิสรภาพกล่าวถึงเรื่องภาษีเพียงครั้งเดียว แต่การเก็บภาษีเป็นหัวใจสำคัญของความไม่พอใจจากชาวอาณานิคม
ผมยังจำได้จากในโรงหนัง นั่งลุ้นกันด้วยความคับแค้นใจ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนผม ผมยังจำได้ถึงวันนี้ ปธ. Trump เป็นรุ่นพี่ชั้นดีที่ไม่มีวันลืม ถ้ายังจำได้ต้องรู้ว่า “พระเอก USA ถือกำเนิดมาจากภาษี!” ผมไม่รู้อะไรไปกว่านี้ จึงสันนิษฐานเอาว่า ท่านคงไม่ได้อ่านวรรณคดีเรื่องอิเหนา “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง”
“แมงดาสองขา” มันใช้ชิวตแบบไม่แยแสใคร คึกคักขึ้นมาก็ลากโสเภณีไปออกกำลังกาย ขัดขืนก็โดนมันตบตามใจชอบ ปล้ำเสร็จก็ล้วงเงินจากกระเป๋าโสเภณี พฤติกามเคยชินเหล่านี้มันมักจะเกิดขึ้นบ่อยในซ่อง สัตว์เดรัจฉานเขาคงไม่รู้ว่าซ่อง คือ อะไร มันถึงได้สมสู่กันตรงริมถนน ขอโทษนะครับ ประเทศชาติไม่ใช่ซ่อง!
ใครจะเมนท์กันอย่างไรก็แล้วแต่ใจจะปรารถนา สำหรับผมขอรำพึงตามประสาคนเกิดวันศุกร์ ว่า ประเทศที่มีเกรดระดับอารยะประเทศ จึงไม่ควรรีดเลือดจากปูข่มขู่ด้วยภาษี ถ้ายังคงข่มขู่ด้วยภาษี ผมว่าเกรดคงไม่ต่างไปจาก แมงดาสองขา ที่หาจริยธรรมในใจไม่เจอ ทั้งนี้ ผมยังไม่เชื่อว่าประเทศใด ฝักไฝ่พลิกประเทศเป็นซ่อง
คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย…ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4121