โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"พิชัย" รับข้อเสนอหอการค้าฯเยียวยา 7 จว.ติดเขมร แก้แรงงาน สินค้าเกษตร หนุนสัมมนาพื้นที่ชายแดน

Manager Online

เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

รมว.คลัง รับข้อเสนอปธ.หอการค้าฯ ขอเยียวยาผู้ได้รับกระทบ 7 จว.ชายแดนกัมพูชา เร่งแก้แรงงาน ยินดีเพิ่มค่าแรงงานไทยเสริมนำเข้าตปท. เช่น บังกลาเทศ จ่อช่วยสินค้าเกษตรขายส่วนกลาง จัดคาราวานทั่วไทย หนุนสัมมนาพื้นที่ชายแดนหากมั่นคงไฟเขียว

วันนี้ (21ส.ค.) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือกับ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมรับข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา กรณีผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย - กัมพูชาใน 4 หัวข้อสำคัญ ประกอบด้วย

1.มาตรการด้านภาษีค่าธรรมเนียม ขอให้กระทรวงการคลัง พิจารณากำหนดให้นิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนที่จัดประชุมสัมมนา หรือศึกษาดูงานและเข้าพักในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนที่กำหนดสามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่า ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง //ขอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณามาตรการลดภาษีในส่วนของภาษีท้องถิ่น ได้แก่ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีป้าย รวมถึงภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยให้ลดอัตราภาษีลงร้อยละ 90 จากอัตราที่กำหนดไว้เดิม //ขอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาใช้มาตรการภาษีเฉพาะพื้นที่ 7 จังหวัด โดยยกเว้นเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม สำหรับผู้เสียภาษีที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ต่ำเกินกว่าร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ไม่สงบ /ขยายเวลาการยื่นแบบและชำระภาษี 3–6 เดือน ครอบคลุมทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในพื้นที่ /ลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 1 เป็นเวลา 1 ปี สำหรับ ผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดน

2 มาตรการการเงินเพื่อสภาพคล่องผู้ประกอบการขอให้ธนาคารพาณิชย์ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและผู้ประกอบการในลักษณะที่สอดคล้องหรือใกล้เคียงกับมาตรการของสถาบันการเงินของรัฐที่ได้มีมาตรการช่วยเหลือออกมาแล้ว //ขอให้ธนาคารภาครัฐออกมาตรการ “เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำฉุกเฉิน” ในวงเงิน ไม่เกิน 50,000บาทต่อครัวเรือน และดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี โดยยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยใน 12 เดือนแรก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วนของครัวเรือนในพื้นที่ //พิจารณาจัดตั้ง “กองทุนฟื้นฟูชายแดน” วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

3.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ/การท่องเที่ยว

ขอให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พิจารณามาตรการสนับสนุนหรืองบประมาณแก่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน สำหรับการจัดกิจกรรมสัมมนาและศึกษาดูงานในพื้นที่ 7 จังหวัด

เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยกำหนดพื้นที่ที่มีความปลอดภัยเป็นลำดับแรกๆ ///ขอให้ภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่มีแผนจัดประชุม สัมมนา หรือศึกษาดูงาน พิจารณาเลือกใช้สถานที่ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนเป็นพื้นที่สำหรับ

การจัดประชุม สัมมนา หรือศึกษาดูงานเป็นลำดับแรกเพื่อเป็นการส่งเสริมการกระจายรายได้และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

4. มาตรการด้านแรงงานและการจ้างงาน

ขอให้กระทรวงแรงงานพิจารณาชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท สำหรับสถานประกอบการในประเภทธุรกิจโรงแรมและสถานบริการ และขอให้ยังคงใช้อัตราค่าจ้างขั้นต ่าตามที่เคยก าหนดไว้เดิม //ปรับลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตนลงให้เหลือ ร้อยละ 0.5 เป็นเวลา 1 ปี

รวมทั้งขยายกไหนดเวลาการน าส่งเงินสมทบของนายจ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ มาตรา39 (อ้างอิงกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย)

สนับสนุนนำเข้าแรงงานทดแทนจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติม เช่น สปป.ลาว หรือ เมียนมาโดยปรับขั้นตอนการนำเข้าแรงงานให้รวดเร็วและง่ายขึ้น และลดค่าใช้จ่ายใน การนำเข้าแรงงาน พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้แรงงานต่างด้าวในการลงทะเบียนและขออนุญาตทไงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเสนอให้นไแรงงานจากประเทศ อื่นๆมาเพิ่มเติม อาทิ จากประเทศบังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น และ สภาหอการค้าฯ พร้อมที่จะหารือกับกระทรวงแรงงานเพื่อแก้ไขปัญหาระยะสั้น และ เตรียมพร้อมรับมือแก้ปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืน

จัดตั้งศูนย์ประสานงานแรงงานระดับจังหวัด เพื่อช่วยจับคู่แรงงานกับผู้ประกอบการที่ต้องการแรงงานเร่งด่วน และประสานงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดและส่วนกลาง เพื่อให้ดำเนินการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สำหรับแรงงานกัมพูชาที่ประสงค์จะเดินทางกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย ขอให้พิจารณาผ่อนปรนให้สามารถกลับเข้ามาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยใช้บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) เป็นเอกสารแสดงตนในเบื้องต้น และเมื่อเดินทางเข้ามาแล้ว ให้ด าเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

สำหรับแรงงานต่างด้าวที่ปัจจุบันยังคงพำนักและทำงานอยู่ในประเทศไทย ขอให้พิจารณาเปิดช่วงเวลาให้นายจ้างหรือแรงงาน สามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนและจัดทำเอกสารให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายในระยะเวลา 2 เดือน เพื่อให้การจ้างงานเป็นไปอย่างโปร่งใสและสอดคล้องกับกฎหมายแรงงาน ในการจัดทำบันทึกความตกลง (MOU) รอบใหม่ สำหรับแรงงานกัมพูชาที่เคยเข้ามาทำงานในประเทศไทย ขอให้พิจารณามาตรการผ่อนปรนค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนแรงงาน เพื่อจูงใจให้มีการดำเนินการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเสนอ ให้ลดค่าใช้จ่ายลงร้อยละ 50 หรือมากกว่านั้น ตามความเหมาะสมเพื่อบรรเทาภาระของนายจ้างและแรงงาน และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ ภายหลังการหารือ นายพิชัย กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน โดยเฉพาะผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ซึ่งหอการค้าไทยได้เสนอมาหลากหลายประเด็น เพื่อมีมาตรการช่วยเหลือในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน เบื้องต้นจากการหารือ จะมีการจัดทำรายละเอียดต่อไป ส่วนปัญหาแรงงานขาดแคลน จะมีการหารือกันต่อ ว่าจะมีการจัดหาแรงงานเพิ่มเติมอย่างไร ซึ่งมีหลายวิธีทั้งแรงงานที่อยู่ในเมืองไทย ที่มีใบอนุญาตอยู่แล้ว อาจจะขยายเวลาอยู่ต่อหรือไม่ หรือแรงงานที่อยู่ไม่มีใบอนุญาต ก็ดำเนินการให้ถูกต้อง และหาแรงงานจากประเทศอื่นที่พร้อมส่งออกแรงงาน เช่น บังกลาเทศ เป็นต้น เพื่อมาเสริมแรงงานที่ขาดไป ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องมีการลงรายละเอียดในแต่ละส่วนต่อไป ขณะที่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ให้กลับมามีสถานการณ์ดีขึ้น โดยเฉพาะการให้คนเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลและเอกชน จะมีการจัดสัมมนา ดังนั้นก็จะหารือกับฝ่ายความมั่นคง ว่าจะอนุญาตอำเภอใด สามารถพร้อมที่จะให้เข้าพื้นที่ได้ ก็จะนำนโยบายภาครัฐที่มีการจัดสัมมนาหรือการท่องเที่ยว ก็จะสนับสนุนให้มีการลงพื้นที่ในพื้นที่นั้น ส่วนภาคเอกชน ก็จะมีมาตรการทางภาษีให้ เช่น ถ้ามีการไปจัดสัมมนาในพื้นที่ดังกล่าว อาจจะมีมาตรการลดหย่อนภาษีให้เป็นพิเศษ เป็นต้น

สำหรับมาตรการด้านอื่น ๆ ขณะนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการไปแล้วบางส่วน เช่น ภาษีเงินได้ สำหรับคนที่ได้รับผลกระทบจะมีการยกเว้นให้เลย หรือการหักภาษี ณ ที่จ่าย การยื่นชะลอลดอัตราภาษี ซึ่งรัฐบาลจะดูให้หมด และจะทำงานร่วมกับภาคเอกชนจากใกล้ชิด เมื่อรับข้อเสนอแล้ว จะมีการแจกแจงเป็นเรื่องๆ และส่วนไหนที่จะต้องรับผิดชอบ เพื่อมาทำงานร่วมกัน

นายพิชัย ยังกล่าวถึงมาตรการทางการเงินที่มีข้อเรียกร้องลดอัตราดอกเบี้ยต่ำ ว่ารัฐบาลจะไปดูเรื่องนี้ โดยภาครัฐยินดีให้อยู่แล้ว เหลือธนาคารพาณิชย์ จะมีการเรียกมาพูดคุยเพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยเหลือในช่วงนี้

นายพจน์ ยังกล่าวว่า ได้มีข้อเรียกร้องการลดเงินจ่ายเงินสมทบประกันสังคมในพื้นที่7 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบ ก็สืบเนื่องมาจากเรื่องค่าแรงที่ปรับขึ้นเป็น 400 บาท ซึ่งขณะนี้ประสบปัญหาโรงแรง ร้านอาหาร ไม่มีใครไปใช้บริการ แต่ผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าแรง ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องมีการพูดคุยกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงแรงงาน หามาตรการมาช่วยในด้านนี้ และยังระบุว่า เหตุผลที่มายื่นข้อเสนอในวันนี้ หอการค้าจังหวัดทุกแห่ง ได้ร้องเรียนมานานแล้ว และเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย และที่ผ่านมามีข่าวร้ายมาโดยตลอด ส่งผลให้เศรษฐกิจพังไปหมด ดังนั้น จำเป็นต้องหาทางให้มีข่าวดีกันบ้าง และพยายามพลิกฟื้นเศรษฐกิจขึ้นมา โดยเฉพาะในพื้นที่ 7 จังหวัดนี้ สิ่งไหนส่งเสริมได้ก็ต้องทำ โดยเฉพาะภาคเอกชน ที่วันนี้ได้รวบรวมมาตรการทั้งหมดเพื่อมาคุยกับรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่าเป็นมาตรการที่รัฐสามารถทำได้

ขณะที่ นายพิชัย ชุณหวชิร กล่าวว่าภาพรวมผลกระทบเศรษฐกิจที่ได้รับ หากประเมินเป็นตัวเลขยังประเมินไม่ออก แต่ถ้าแบ่งเป็นแต่ละอุตสาหกรรม วันนี้พอจะคาดเดาได้ เพราะใน 7 จังหวัดหากมองเข้าไปแล้ว จะพบว่ามีอาชีพหลักคือเกษตรกรรม ดังนั้น จะมีพืชผลทางการเกษตร ผลไม้ ซึ่งรัฐบาลจะมีมาตรการดูว่า จะมีแรงงานมาเก็บผลไม้หรือไม่ จากนั้น จะดูเรื่องตลาด ซึ่งในวันนี้กระทรวงพาณิชย์ คิดว่าไม่จำเป็นต้องขายในพื้นที อาจจะให้แต่ละจังหวัดนำผลไม้มาขายในส่วนกลาง หรือในกรุงเทพมหานคร เพราะกระแสของคนกรุงเทพฯเข้าใจถึงปัญหาใน 7 จังหวัดชายแดน หากเกิดเรื่องใดยินดีจะช่วยเหลือหมด ดังนั้น ก็จะมีการจัดขายพืชผลทางการเกษตรที่กรุงเทพมหานคร ทยอยทีละจังหวัด แต่หากจะเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ต้องหารือกับฝ่ายความมั่นคงก่อน เพื่อให้ดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจังหวัดใดพร้อมที่จะเข้าไปเริ่มดำเนินการช่วยเหลือ

ขณะที่ นายพจน์ กล่าวเสริมว่า หอการค้าจังหวัด และกรมการค้าภายในได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร หรือ ศูนย์ AFC ซื่งทำงานร่วมกันอยู่ โดยตั้งใจว่าจะจัดเป็นคาราวานออกไปทุกจังหวัด และจะมีความร่วมมือจากค้าปลีกค้าส่ง เพื่อกระจายสินค้าทั้งหมดออกไป สำหรับการขนส่ง ยังถือว่าอยู่ได้ เพราะมีการผ่าน สปป.ลาว เข้าสู่เวียดนาม

นายพิชัย ยังกล่าวถึงในส่วนของสินค้าชายแดน 7 จังหวัดที่แก้ปัญหาไม่ได้ จะมีแนวทางอย่างไร ว่าสิ่งที่ทำในวันนี้ หากในพื้นที่มีสินค้าหรือพืชผลใดก็ต้องดึงเข้ามาในพื้นที่ส่วนกลางเพื่อหาช่องทางจำหน่าย แม้กระทั่งแรงงาน ก็ต้องมีการช่วยเหลือ หลังจากนี้จะศึกษาผลกระทบระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งในแผนระยะยาวต้องดูไปพร้อมกับฝ่ายความมั่นคง ว่าจะมีผลสรุปออกมาเช่นไร และการช่วยเหลือจะเป็นสั้นยาวอย่างไร ต้องขอดูอีกที และโดยสรุปแล้ว จะเข้าไปดูแลแต่ละกลุ่มของผู้ประกอบธุรกิจ ว่ามีสิ่งไหนบ้างที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แม้กระทั่งภาคแรงงานหากมีไม่เพียงพอ ก็ยินดีเปิดรับ หากแรงงานไทยมีความชำนาญ พร้อมที่จะทำ และจะต้องจ่ายเพิ่ม เพราะว่าอยู่ในสถานการณ์เหตุการณ์ไม่ปกติ ก็ยินดีจะหามาตรการจ่ายเพิ่มให้ได้ ถ้าเป็นแรงงานไทย

ส่วนมาตรการการช่วยเหลือของภาครัฐจะต้องรอจนถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย- กัมพูชา ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 กันยายนนี้หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องทั้งหมดอยู่ที่ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์และส่งมาให้ ซึ่งจะรู้ว่าจะดำเนินการได้เมื่อไหร่ ดังนั้นช่วงที่ยังเริ่มไม่ได้ วิธีง่ายๆ คือ ดึงสินค้าออกมานอกพื้นที่ เพื่อมาจำหน่ายให้ส่วนกลาง แต่หากช่วงไหนเข้าพื้นที่ได้ก็เข้าไปช่วยได้ทันที

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

“นฤมล” เผย บอร์ดสกสค.เคาะตั้งสหกรณ์กลางแก้หนี้ครู จ่อชงครม.อนุมัติแสนล.เชื่อคุณภาพชีวิตดีขึ้น

34 นาทีที่แล้ว

เปิดใช้แล้ว!ทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว แก้ตอขวดจุดตัด "พระราม 2 "ช่วงสมุทรสาคร

39 นาทีที่แล้ว

ฝ่ายค้านซัด "ไชยา" ปิดสภาหนีญัตติMOU43–44 รบ.ไร้เสถียรภาพทำสภาง่อย ชี้เขื่อนแตกความจริงเริ่มปรากฏ

39 นาทีที่แล้ว

จบด้วยดี!"ดิว อริสรา" มอบสร้อยบูการี - กระเป๋าแอร์เมส คืน"เมย์วาสนา"ถอนฟ้องทุกคดี

48 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

เลี่ยง! ทางพิเศษกาญจนาภิเษกฯ เช็กจราจร กับ เจาะ จุด แจม : 21 สิงหาคม 2568

สวพ.FM91

วีรพัฒน์มองคดี 112 ทักษิณมีโอกาสพ้นผิด ชี้ยุค คสช.กระบวนการยุติธรรมไม่ปกติ ถูกทหารกดดัน

THE STANDARD

อธิบดีธรณี ย้ำชัด! แผ่นดินไหวไม่กระทบ กทม. ตึก รพ.กลาง วัดแรงสั่นได้น้อยมาก

เดลินิวส์

ขยับขรก."กรมปค." 67 ตำแหน่ง อธิบดีเซมเบ้ อัพเกรด ผอ.ส่วนกลาง พรึ๊บ! คาด"ปลัด อ.น้ำปาด" นั่งโฆษก หน.งานวินัย ควบ"ผอ.ศูนย์ดํารงธรรม"

Manager Online

รถชนกัน 4 คัน บนด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ บาดเจ็บหลายราย

สวพ.FM91

ธ.ก.ส. จับมือ วว. ประกาศความร่วมมือทางวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยี มุ่งเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรไทย

JS100 - Post&Share

กรมชลฯ เปิดปฐมนิเทศฯ เวที 2 เดินหน้าโครงการประตูระบายน้ำเด่นชัย

The Bangkok Insight

ทบ. โต้กลับ มาลี ชี้ไทยควรเรียกร้อง หลังกัมพูชายังพยายามละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

Thaiger

ข่าวและบทความยอดนิยม

กกต.เตือนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 7 เชียงรายเพิ่มถอนชื่อได้ถึง 3 ก.ย.

Manager Online

กมธ.มั่นคงฯ หารือลับปมชายแดนไทย–กัมพูชา “โรม” ชี้สถานการณ์ยังตึงเครียด ต้องหาทางลดแรงกดดัน

Manager Online

“นพดล” รับคำท้า "มัลลิกา" ฟ้องแพ่ง–อาญา ชูลูกอีสานหลานย่าโมไม่ให้ความเท็จทำลายชื่อ จี้เข้มสู้เขมร

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...