ทรัมป์แบะท่าสนับสนุนทางอากาศ ยันไม่ส่งทหารภาคพื้นดินไปยูเครน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา แถลงเมื่อวันอังคาร (19 ส.ค.) ว่า สหรัฐฯ จะไม่ส่งกำลังทหารภาคพื้นดินเข้าสู่ยูเครนอย่างเด็ดขาด แต่พร้อมพิจารณาให้การสนับสนุนทางอากาศ หากเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากทรัมป์ประกาศมอบหลักประกันด้านความมั่นคงแก่ยูเครนที่ทำเนียบขาว แม้เส้นทางสู่สันติภาพยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรกำลังหารือถึงรูปแบบการสนับสนุนทางทหารที่อาจมีให้ยูเครนในอนาคต
แนวทางสนับสนุนยูเครนยังไม่ชัดเจน
ทรัมป์ระบุผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ Fox & Friends ว่า “เมื่อพูดถึงความมั่นคง ยุโรปพร้อมที่จะส่งคนลงพื้นที่ ส่วนเราพร้อมช่วยในหลายด้าน โดยเฉพาะทางอากาศ” อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ทำเนียบขาวยืนยันผ่านโฆษกสื่อมวลชน คารอลีน ลีวิตต์ ว่าการสนับสนุนทางอากาศเป็น “หนึ่งในทางเลือก” แต่ย้ำว่าสหรัฐฯ จะไม่มีทหารประจำการบนแผ่นดินยูเครน การสนับสนุนดังกล่าวอาจอยู่ในรูปแบบการป้องกันทางอากาศหรือการใช้เครื่องบินรบกำหนดเขตห้ามบิน
สถานการณ์การโจมตีและท่าทีของรัสเซีย
ถัดจากการหารือที่ทำเนียบขาว รัสเซียได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน โดยกองทัพอากาศยูเครนระบุว่ารัสเซียยิงโดรนกว่า 270 ลำและมิสไซล์อีก 10 ลูก เป้าหมายรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันในแคว้นโปลตาวา และเมืองเครเมนชุกซึ่งเกิดเพลิงไหม้รุนแรงในสถานีพลังงาน
ขณะเดียวกัน รัสเซียยังได้ส่งมอบศพทหารยูเครนกว่า 1,000 นายกลับคืน ขณะที่รัสเซียได้รับศพทหารตนเองเพียง 19 นาย ตามรายงานของสำนักข่าว TASS
ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยังคงแสดงท่าทีไม่อ่อนข้อ โดยยืนยันว่าจะไม่ยอมรับการปรากฏตัวของทหารนาโตในยูเครน และยังคงยึดมั่นข้อเรียกร้องดินแดนเพิ่มเติม แม้บางพื้นที่ยังอยู่นอกการควบคุมของรัสเซีย
พันธมิตรยูเครนหารือมาตรการกดดันรัสเซีย
ในวันเดียวกัน กลุ่มพันธมิตรที่เรียกว่า Coalition of the Willing ได้หารือเรื่องการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเพื่อกดดันรัสเซีย และวางแผนร่วมกับสหรัฐฯ ในการจัดทำหลักประกันด้านความมั่นคงให้แก่ยูเครน ขณะเดียวกัน ผู้นำนาโตมีกำหนดประชุมหารือเรื่องยูเครนเพิ่มเติมในวันพุธนี้