พรรคประชาชนไม่หวั่นถูกฟ้อง 300 ล้าน เดินหน้าสู้ทุนพลังงาน
(20 ส.ค. 68) ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ นายศุภโชติ ไชยสัจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวการเดินหน้าปกป้องผลประโยชน์ประชาชนจากทุนพลังงานผูกขาด
โดย นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาชนของพวกเรา ได้ต่อสู้เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพลังงานไฟฟ้าที่เป็นธรรม โปร่งใส และสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะเล็งเห็นว่าค่าไฟฟ้าที่เป็นตัวเลขอยู่บนบิลค่าไฟ ไม่ได้เป็นตัวแรกที่มองเห็นเท่านั้น แต่เป็นต้นทุนในการดำรงชีวิต และต้นทุนในการประกอบธุรกิจของประชาชนทุกคนในประเทศนี้ และเราได้สะท้อนปัญหาในหลายเรื่อง อย่างต้นทุนแฝง แต่น่าเสียดายว่า เมื่อเรามองในแผนพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ ก็ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาในเรื่องนี้จริงจัง ทั้งยังมีการเปิดช่องให้ทางรัฐบาลสามารถรับซื้อพลังงานไฟฟ้าที่ล้นเกินเพิ่มขึ้นต่อไปได้อีก หรือไม่ก็ยังมีการเปิดช่องให้สร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมที่เกินความจำเป็นซ้ำรอยเดิมที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายที่จะทำให้เราไม่สามารถแก้ไขได้อีกในอนาคต เช่น เมื่อมีการเซ็นสัญญาลงนามไปแล้ว ก็ยากที่จะแก้ไข และจะเป็นภาระของลูกหลานของเราต่อไปในอนาคต จากการที่รัฐบาลยังได้อาศัยจังหวะที่ข่าวคราวนี้เงียบลง เดินหน้าปรับการซื้อพลังงานไฟฟ้าต่อ โดยเปลี่ยนวิธีที่พวกเราเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการดังกล่าว เป็นการเจรจาลดราคารับซื้อจากเอกชนแทนนั้น
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ สะท้อนปัญหา 4 ประการคือ 1.เป็นกระบวนการที่ไม่เปิดประมูลในการรับซื้อ โดยใช้ราคารับซื้อเดิม ทั้งที่ราคาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนมีแนวโน้มลดลงขึ้นทุกปี จึงตั้งคำถามว่า รัฐบาลซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนที่เกินจริงหรือไม่ 2.ไม่มีการเปิดเผยกระบวนการการรับซื้อ 3.ไม่มีเหตุผลรับรองใดๆ เลยว่า พวกเราจะต้องสำรองไฟฟ้าเพิ่มเติมไปทำไม ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้มีไฟฟ้าที่เกินจำเป็นอยู่แล้วในประเทศ และ 4.พวกเราเห็นว่า เป็นการกีดกันการแข่งขัน เพราะล็อกให้กลุ่มทุนเดิมๆ หรือไม่
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงทำให้พรรคประชาชนได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบกระบวนการรับซื้อพลังงานไฟฟ้า หรือนโยบายไฟฟ้าของประเทศนี้ ตั้งแต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
มากไปกว่านั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่เกิดขึ้นในวันนี้ คือการทำหน้าที่ของในฐานะ ส.ส.ของพวกเรา ที่กำลังถูกบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ฟ้องร้องดำเนินคดี ข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมกับเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจำนวน 100 ล้านบาท จากกรณีที่ตนได้มีการแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ ส่วน นายวรพ และนายศุภโชติ ก็ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาในลักษณะเดียวกัน พร้อมกับเรียกค่าเสียหายทางแพ่งอีกคนละ 100 ล้านบาทเช่นเดียวกัน จากการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร รวม 3 คน 3 คดี มีมูลค่าความเสียหายทางแพ่งทั้งหมด 300 ล้านบาท
“ผมอยากยืนยันว่า การแถลงข่าวและการอภิปรายทั้งหมดของพวกเราที่ผ่านมา ในการเรียกร้องทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรมให้กับประชาชนทุกคน เป็นการทำหน้าที่โดยสุจริต ในฐานะผู้แทนราษฎร เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน การฟ้องร้องดำเนินคดีพวกเราในครั้งนี้ ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มทุนไหน กลุ่มทุนพลังงาน หรือกลุ่มคนใดๆ จะไม่ทำให้พวกเราหวั่นไหว หรือหยุดการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรตรงนี้ต่อไป” นายณัฐพงษ์กล่าว
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในไต่สวนมูลฟ้องศาล ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ที่ศาลอาญารัชดา ตนจะเดินทางเข้าสู่กระบวนการด้วยตนเอง จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันติดตามการทำหน้าที่ของพวกเรา ในการทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรมต่อไป และติดตามความคืบหน้าในคดีที่พวกเราทั้ง 3 คนถูกดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อทวงคืนค่าไฟที่โปร่งใสและเป็นธรรมให้กับประชาชนทุกคน