ชาวบ้านชายแดนบุรีรัมย์ ไม่เชื่อเขมรจะทำตาม ข้อเจรจา RBCเหตุทหารไทยยังเหยียบกับระเบิดเจ็บ
ชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ นั่งจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ หลังเสร็จการประชุม RBC ที่ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ โดยต่างไม่ปักใจเชื่อว่ากัมพูชาจะทำตามข้อตกลงในการเจรจา ประกอบกับในช่วงเย็นที่ผ่านมาก็ได้มีทหารไทยเหยียบกับระเบิด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควายได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านของพื้นที่ ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่มีกระสุนปืนใหญ่และจรวด BM21 ของกัมพูชาถูกยิงตกลงมาในพื้นที่ จนทำให้ในหมู่บ้านได้รับผลกระทบและความเดือดร้อน มีจรวด BM21 ถูกยิงตกลงมากลางบ้าน และมีวัวของชาวบ้านถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตจำนวน 2 ตัว และยังมีผู้ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ
ได้นั่งจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ ถึงกรณีที่ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC) สมัยวิสามัญระหว่างไทย-กัมพูชา ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในที่ประชุมได้มีการหารือโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเจรจา เสริมสร้างความเชื่อมั่น ลดความตึงเครียด และธำรงไว้ซึ่งสันติภาพตามแนวชายแดน โดยมุ่งใช้ทุกกลไกที่จำเป็นในการแก้ไขความแตกต่างด้วยสันติวิธี หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และยึดมั่นบนพื้นฐานของความเป็นมิตรประเทศเพื่อนบ้าน ความสัมพันธ์อันดี และความสามัคคีนั้น
โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ ก็ไม่เชื่อว่า ฝ่ายกัมพูชาจะมีการทำหรือปฎิบัติตามข้อตกลง ที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันในวันนนี้ทั้ง 11 ข้อ เพราะการกระทำของฝ่ายกัมพูชาในปัจจุบัน ส่อไปในทางยั่วยุและพยายามละเมิดข้อตกลงที่ได้มีการลงกันมาโดยตลอด รวมทั้งในช่วงบ่ายของวันนี้ยังพบว่า ได้มีทหารไทยซึ่งกำลังปฎิบัติหน้าที่ตรวจลาดตระเวน บนเส้นปฏิบัติการของฝ่ายเรา บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านขวาของปราสาทตาควาย จำนวน 3 นาย ได้เหยียบกับระเบิดชนิด PMN-2 ที่ฝ่ายกัมพูชาแอบนำมาวางไว้ได้รับบาดเจ็บด้วย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าคำพูดกับการกระทำของฝ่ายกัมพูชาสวนทางกันมาโดยตลอด
นางช้อย อายุ 83 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวชาวบ้านใน ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า สิ่งที่กัมพูชากระทำอยู่ในทุกวันนี้สวนทางกันมาโดยตลอด ทั้งมีการสนับสนุน และยั่วยุไปในทางให้เกิดความรุนแรงมาโดยตลอด ทั้งการนำประชาชนออกมาเคลื่อนไหว ประท้วง ตัดและรื้อรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นการกดดันฝ่ายไทย ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้มันจะเป็นการกระทำที่สันติวิธีได้อย่างไร และเมื่อมีการเจรจาข้อตกลงกันทุกครั้งก็ไม่เห็นว่าฝ่ายกัมพูชาจะยอมทำตามข้อตกลงแม้แต่น้อย เพราะเขมรเชื่อใจไม่ได้ เราก็อยากให้เกิดสันติวิธีในพื้นที่ เพื่อที่ประชาชนของทั้งสองประเทศได้ทำมาหากินกันอย่างปกติสุข
"ไม่เชื่อเลยยายจะไม่เชื่อเขมรพูดไม่จริงใจเลยสักคำ ข้อตกลงเจรจาต่างๆก็ไม่เคยยอมรับ และปฎิบัติตามเลยสักครั้ง และเชื่อว่ากัมพูชาก็จะยังคงทำในสิ่งต่างๆอยู่ มันไม่หยุดหรอกและอาจจะได้ต่อสู้กันอีก แล้วคราวนี้ประชาชนจะอยู่กันยังไง ซึ่งทุกวันนี้ยายไม่สบายใจเลยจะทำอะไรก็กลัวแต่จะเกิดเหตุการณ์ ทั้งนอนก็ไม่ค่อยหลับเพราะยังคงผวากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"
นางช้อย ยังบอกด้วยว่า ในวันเกิดเหตุที่มีกระสุนปืนใหญ่หรือจรวด BM21 ของกัมพูชายิงตกลงมาในหมู่บ้าน ตนก็กำลังจัดเตรียมข้าวของขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ หลานก็บอกว่าที่พนมดงรักเขายิงกันแล้ว ซึ่งตนก็ได้พูดว่าเขายิงก็ยิงไปคงจะมาไม่ถึงเราหรอกมั้ง พอสิ้นคำพูดไม่พอ 5 นาที ก็มีเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นในหมู่บ้านของตน ซึ่งตอนนั้นตกใจมาก เพราะบริเวณที่กระสุนปืนใหญ่ตกก็อยู่ไม่ไกลจากร้านขายก๋วยเตี๋ยว และก็ยังตกใจอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
ด้าน นางจิราวรรณ อายุ 51 ปี บอกว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์สู้รบทำให้ทุกวันนี้อยู่ด้วยความหวาดระแวง จะใช้ชีวิตประจำวันก็ยังวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา เพราะวันที่มีระเบิดลงก็ไม่รู้ว่าระเบิดมันจะลงตรงไหนยังไงบ้าง เพราะตอนที่ระเบิดลงในหมู่บ้านมีเสียงดังรอบตัว ในตอนแรกคิดว่าตกเพียงไม่ 4-5 ลูก แต่ที่ไหนได้ในหมู่บ้านของตนมีระเบิดลงมากกว่า 20 ลูก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังจดจำฝังอยู่ในใจตลอดเวลา