โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เจาะลึกกลยุทธ์ "กลิ่น" มัดใจลูกค้า! Marketbuzzz เผยคนไทยเลือกกลิ่นเฉพาะตามประเภทสินค้า ชี้โอกาสทองของแบรนด์ที่เข้าใจการตลาดเชิงประสาทสัมผัส

Positioningmag

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • PR News

ประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างน่าทึ่ง ตั้งแต่กลิ่นหอมของตลาดอาหารริมทางที่คึกคัก ไปจนถึงกลิ่นสมุนไพรที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยมักพกติดตัวอยู่เสมอ
ผลการศึกษาล่าสุดโดยมาร์เก็ตบัซซ ในหัวข้อ ‘ความชื่นชอบกลิ่นหอมในประเทศไทย’ เผยถึงบทบาทของประสาทสัมผัสที่มีต่อพฤติกรรมการซื้อและความชอบกลิ่นที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเภทผลิตภัณฑ์ จากการสำรวจคนไทย 500 คน พบว่าคนไทยให้ความสำคัญอย่างมากกับสิ่งเร้าทางประสาทสัมผัส โดยเฉพาะ “กลิ่น” และ “สี” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดการเลือกซื้อสินค้าในแต่ละประเภท
ผู้หญิงคือกลุ่มหลักที่ตัดสินใจซื้อสินค้าที่มีกลิ่นหอม
ผลการวิจัยชี้ว่า สินค้าหลายประเภทที่มีกลิ่นเป็นส่วนสำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลเรือนร่าง มีผู้หญิงเป็นผู้ซื้อหลัก โดยแบ่งตามหมวดหมู่ได้ดังนี้
• ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลเรือนร่าง: 84%
• ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม: 76%
• ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว: 73%
• ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน: 71%
การที่ผู้หญิงเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการจับจ่ายโดยรวม และเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดประเภทและกลิ่นของผลิตภัณฑ์ในตลาด
กลิ่นดอกไม้ครองใจคนไทยมากที่สุด
ผลการสำรวจพบว่า คนไทยมีความนิยมกลิ่นหอม 5 อันดับแรก ได้แก่ "กลิ่นดอกไม้" เป็นอันดับหนึ่งด้วยคะแนน 45% ตามมาด้วย "กลิ่นมัสก์" (38%) ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และ "กลิ่นหวาน" (37%) ที่สร้างความรู้สึกสบาย นอกจากนี้ ยังมี "กลิ่นสดชื่นและกลิ่นธรรมชาติ" (35%) และ "กลิ่นซิตรัส" (32%)
ความชอบกลิ่นแตกต่างตามประเภทสินค้า
แม้กลิ่นดอกไม้จะได้รับความนิยมสูงสุด แต่ผลการศึกษาพบว่าคนไทยมีความชอบที่แตกต่างกันตามประเภทสินค้า ซึ่งเผยให้เห็นถึงการตัดสินใจที่ซับซ้อน
• ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล: ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skincare) มีแนวโน้มชอบกลิ่นหวาน ขณะที่ผลิตภัณฑ์อาบน้ำเน้นกลิ่นดอกไม้เป็นหลัก ส่วนน้ำหอมจะขึ้นอยู่กับเพศ โดยรวมแล้วกลิ่นมัสก์ได้รับความนิยมมากที่สุด
• ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน: ผลิตภัณฑ์ซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่ม กลิ่นดอกไม้ได้รับความนิยมสูงถึง 64% ขณะที่ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนทั่วไปจะเป็นกลิ่นผลไม้ (51%) และกลิ่นดอกไม้ (50%) ส่วนผลิตภัณฑ์ปรับอากาศในรถยนต์นิยมกลิ่นซิตรัส (49%)
ความหลากหลายของกลิ่นที่เลือกใช้ในแต่ละประเภทสินค้าแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่ซับซ้อน โดยเชื่อมโยงกับลักษณะการใช้งานและบริบทของผลิตภัณฑ์
กลิ่นสร้างความผูกพันทางอารมณ์และสีช่วยเสริมประสบการณ์
นอกเหนือจากเพียงแค่กลิ่น กลิ่นหอมยังกระตุ้นความรู้สึกที่แตกต่างกัน ข้อมูลชี้ว่าคนไทยเชื่อมโยงกลิ่นเฉพาะบางอย่างเข้ากับความรู้สึกผ่อนคลาย ความสดชื่น หรือความสบายใจ ซึ่งสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าแค่การสูดดม กลิ่นจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทรงพลังต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค
นอกจากนี้ สีก็มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสบการณ์ของผู้บริโภค โดยมีการเชื่อมโยงสีให้สอดคล้องกับกลิ่น เช่น สีส้มสำหรับกลิ่นซิตรัส สีชมพูสำหรับกลิ่นดอกไม้และกลิ่นหวาน และสีเขียวสำหรับกลิ่นสมุนไพร ซึ่งช่วยเสริมอารมณ์และข้อความที่ต้องการสื่อผ่านกลิ่นได้อย่างสมบูรณ์
โอกาสทางการตลาดผ่านการตลาดเชิงประสาทสัมผัส
คุณเอวา เกรซ ที่ปรึกษาการวิจัยหลักในการศึกษาครั้งนี้ เน้นย้ำว่า "พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยนั้นมีความละเอียดอ่อนกว่าที่คิด ความชอบที่แตกต่างกันในแต่ละหมวดหมู่สินค้าสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยตัดสินใจเลือกจากประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่เชื่อมโยงกับการใช้งานผลิตภัณฑ์จริง" และเสริมว่าแม้กลิ่นหลักจะยังคงได้รับความนิยม แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับเปลี่ยนตามเวลา เนื่องจากความชอบในการซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง
ด้วยเหตุนี้ นักการตลาดจึงสามารถยกระดับและใช้ประโยชน์จากประสาทสัมผัสทั้งหมด ทั้งกลิ่น สี และการเชื่อมโยงทางอารมณ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุดในตลาดไทย


คุณแกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาร์เก็ตบัซซ กล่าวสรุปว่า "การทำความเข้าใจความชอบทางประสาทสัมผัสและความผูกพันทางอารมณ์ที่คนไทยมีต่อกลิ่น จึงเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ แบรนด์ที่ใช้ทุกจุดสัมผัสในกลยุทธ์การตลาดอย่างสร้างสรรค์ จะสามารถดึงดูดความสนใจและส่งผลต่ออัตราการซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้มากขึ้น"

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...