ฟรีวีซ่าเรียนมวยไทย ช่วยต่างชาติฝึกมวยนานขึ้น
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 18 สิงหาคม 2568 เวลา 4.07 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทภูเก็ต 17 ส.ค. – มวยไทยเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้อย่างมหาศาลในจังหวัดภูเก็ต หลังจากรัฐบาลขยายฟรีวีซ่าให้ชาวต่างชาติมาเรียนมวยไทย
Muay Thai Phuket Festival 2025 ที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ร่วมกันจัดขึ้น นับเป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพของมวยไทยในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ พร้อมผลักดันสู่การเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าและชื่อเสียงให้ประเทศไทยบนเวทีโลก
มวยไทยเป็นมรดกศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทยมายาวนาน มีความโดดเด่น จนแพร่หลายในระดับนานาชาติจนโด่งดังไปทั่วโลก และจากการที่คณะซอฟต์พาวเวอร์มวยไทย ได้ไปโรดโชว์และประชาสัมพันธ์มวยไทยในต่างแดน ทำให้ยิ่งได้รับกระแสความสนใจ จนทำให้นักท่องเที่ยวลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลมาศึกษาเรียนรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย จังหวัดภูเก็ต ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดของไทยที่นอกเหนือจากความโดดเด่นเรื่องท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีค่ายมวยมากกว่า 320 ค่าย ยังสร้างรายได้จากการขายสินค้าต่างๆ เกี่ยวกับมวย ทำให้นักท่องเที่ยวนอกจากมาเที่ยวแล้ว ยังมาเรียนมวยไทยที่ตัวเองชื่นชอบได้อีกด้วย
คณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา นำโดย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา พร้อมคณะ ได้เดินทางเยี่ยมค่ายมวยไทยเกอร์ จังหวัดภูเก็ต เพื่อสำรวจและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการฝึกสอนมวยไทย พัฒนานักกีฬามืออาชีพ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ที่ชาวต่างชาติต่างตอบเสียงเดียวกันว่าชื่นชอบมวยไทย และชอบเที่ยวเมืองไทย
ค่ายมวยไทยเกอร์มีนักท่องเที่ยวกว่า 99% เป็นชาวต่างชาติที่มาเรียนมวยไทย โดยช่วงไฮซีซั่นมีผู้มาเรียนกว่า 700 คนต่อวัน ค่าเรียนเฉลี่ย 700-800 บาทต่อคน ส่วนช่วงโลว์ซีซั่นมีราว 300 คนต่อวัน ค่ายยังมีที่พักให้บริการในอัตราเฉลี่ยกว่า 1,000 บาทต่อคืน ทำให้เกิดรายได้จำนวนมากเข้าสู่ประเทศ รวมทั้งการให้วีซ่าฟรี จากเดิม 90 วัน เป็น 180 วัน กับนักท่องเที่ยวที่มาเรียนมวยไทย ทำให้พวกเขาไม่ต้องมีความกังวล
นอกจากนี้คณะซอฟต์เพาเวอร์มวยไทยยังได้เยี่ยมชมค่ายมวยซินบีมวยไทย ซึ่งเน้นการฝึกมวยไทยแบบดั้งเดิม ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสนใจมาเรียนมวยไทยจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งถือเป็น 1 ใน 2 ค่ายจาก 320 กว่าค่ายมวยไทยในจังหวัดภูเก็ต ที่สร้างรายได้จากมวยไทยจำนวนมหาศาลต่อปี การเดินทางครั้งนี้ของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ยังสะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและค่ายมวยในจังหวัดภูเก็ต เพื่อผลักดันมวยไทยสู่มาตรฐานสากล และสร้างเครือข่ายสนับสนุนอุตสาหกรรมกีฬาไปทั่วประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวแล้วยังได้ฝึกมวยไทยได้ทุกที.-สำนักข่าวไทย