18 ปีรักยั่งยืน 'นุ่น' เผยสามีเสมอต้นเสมอปลาย ไม่หลอกขายโปรฯ 'ท็อป' รับติดภรรยามาก
18 ปีรักยั่งยืน ‘นุ่น’ เผย สามีเสมอต้นเสมอปลาย ไม่หลอกขายโปรโมชั่น ‘ท็อป’ รับติดภรรยามาก
ความรักหวานเสมอต้นเสมอปลายกันจริงๆ สำหรับคู่รักของนักแสดงสาวมากฝีมือนุ่น ศิรพันธ์ และสามีหนุ่มท็อป พิพัฒน์ ที่ล่าสุดเพิ่งผ่านวันครบรอบแต่งงาน 10 ปีของทั้งคู่เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา
เมื่อทั้งสองควงกันมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ทาโร รักษ์โลก โชคเด้ง” ณ โถงหน้าห้องโรงละคร ชั้น 3 ไปรษณีย์กลาง ก็ได้เผยถึงโมเมนต์ความหวานในวันครบรอบแต่งงานให้ฟังว่า
เพิ่งครบรอบแต่งงาน 10 ปีเมื่อปลายเดือนสิงหาคม?
ท็อป: “ไม่ง่ายนะ 10 ปีเนี่ย ล้อเล่น”
ถ้ารวมระยะเวลาทั้งหมดกี่ปี?
นุ่น: “ถ้ารวมก็ 18 ปี เป็นแฟนกันมา 8 ปีและแต่งงานกันมา 10 ปี ก็ 18 ปี”
18 ปี ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันในตัวผู้หญิงคนนี้มีอะไรบ้าง?
ท็อป: “คือผมยิ่งรักเขามากขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ คือผมไม่ได้พูดเพราะว่าเจอสื่อนะ แต่วันนี้จากเดิมที่ผมชอบเจอเพื่อน ออกไปปาร์ตี้หรืออะไร ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากไปไหนนะ แล้วผมรู้สึกติดนุ่น คือไม่ค่อยอยากให้เขาไปไหนไกลๆ นานๆ จริงๆ แล้วเราอาจจะตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกันสองคนไม่ได้มีลูกด้วย มันก็เลยทำให้เวลานี้ที่เราอยู่ เราก็อยากที่จะดูแลกันและกัน ผมก็อยากให้เขากินข้าวตอนเช้าให้ตรงเวลา หรือว่าไม่อยากให้ปวดท้องหรืออะไรแบบนี้ คือผมมารู้สึกแบบนี้ปีนี้แหละ”
นุ่น: “เอ้า!!! ตะกี้นี้ดีใจไปนานมากเลยนะ”
ท็อป: “ขออธิบายเพิ่ม คือก่อนหน้านี้มันก็มีช่วงจังหวะทะเลาะกันหรืออะไรแบบนี้ใช่ไหม แล้วเวลาที่เรามีนุ่นอยู่ข้างๆ บางทีเราอาจจะไม่ได้เห็นความสำคัญขนาดเท่าตอนนี้ จริงๆ นะพอมาปีนี้รู้สึกว่าถ้าเกิดเราไม่ได้มีนุ่นอยู่ข้างๆ ป่านนี้ผมอาจจะ…แบบสมมุติว่าผมโมโหผมจะพีคไปแบบสุดๆ เลย โดยที่ไม่ได้มีนุ่นมาคอยแอบสะกิดว่าให้ใจเย็นๆ ก่อนหน้านี้มันอาจจะเป็นการรู้สึกแหละแต่ไม่ได้ตกตะกอนว่าการมีอยู่มันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะ”
แต่ก็เพิ่งมารู้ตัวตอนปีที่ 18?
ท็อป: “ปีนี้ว่าแบบเฮ้ย!! การมีแล้วมันดีมาก เราก็เลยพอเวลารู้แบบนี้ ตกตะกอนเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปผมก็คิดว่ายังไม่สาย ก็ต้องดูแลให้มากขึ้นจากที่ดูแลอยู่แล้วก็ต้องดูแลให้มากขึ้น”
นุ่นเห็นการเปลี่ยนแปลงของท็อปไหมว่าเขาติดเราเบอร์ไหน ถึงขั้นตามไปนู่นไปนี่ไหม?
นุ่น: “ไม่ๆ แต่เวลาที่นุ่นอยากไปนวดเพราะนุ่นชอบนวด ไปนวด 2- 3 ชั่วโมงในเวลาที่เขาว่าง หน้าเขาจะไม่ค่อยโอเคละ เหมือนแบบว่างแล้วทำไมไม่อยู่ด้วยกัน เราก็แบบฉันก็อยู่กับเธอตลอดนะตื่นเช้าไปเข้าออฟฟิศก็เข้าด้วยกัน เราก็อยากมีเวลาไปนวดคอบ่าไหล่ปวดเมื่อยเป็นออฟฟิศซินโดรมอะไรอย่างนี้ หรือบางทีอยากไปเชียงใหม่แบบ 2-3 วัน พี่ท็อปเขาก็จะแบบไปสัก 2 วันได้ไหมแล้วก็กลับมาอะไรอย่างนี้ เขาก็จะเป็นอย่างนี้ น่ารักๆ แต่วันนี้รู้สึกฉันจะเก็บคลิปนี้ไว้ (ยิ้ม)”
ท็อป: “แต่ผมขอออกตัวนิดหนึ่งผมไม่ได้ติดขนาดว่าไม่ให้เขาไปไหนนะ คือคู่กันผมรู้สึกเองนะว่ามันต้องมีสเปซให้กันด้วย บางทีถึงแม้เราจะไม่ได้อยากให้เขาไป แต่ถ้าเขาอยากไปมันก็ต้องปล่อย แล้วเราก็ไปหากิจกรรมอย่างอื่นทำไป ไม่ได้ดึงให้เขาอยู่กับเราเดี๋ยวมันจะเครียดเปล่าๆ”
นุ่นเพิ่งรู้ไหมว่าเขาขาดเราไม่ได้?
นุ่น: “จริงๆ ก็รู้มาตั้งนานแล้วแหละ (หัวเราะ) เปล่า เพราะว่าทุกอย่างในบริษัทอยู่ในมือเรา เขาไม่สามารถรันคนเดียวได้อยู่แล้ว แต่เพิ่งมารู้อินเนอร์วันนี้แหละขอบคุณนะคะ (ยกมือไหว้สามี)”
จริงๆ เวลาอยู่ด้วยกันมีโมเมนต์แบบนี้ไหม?
นุ่น: “เหมือนเป็นไบโพลาร์เบาๆ สมมุติว่าเวลาเข้าออฟฟิศ เขาก็จะอีกลุคนึง มันจะเป็นเหมือนแบบเอาหลักการอะไรมาไฝว้กันหรือทำงาน แต่เราก็ต้องยอมเพราะว่าเขาเป็นซีอีโอ เป็นคนนำทีมหรือวิสัยทัศน์อะไรอย่างนี้ แต่พอเวลาเขากลับบ้านเขาจะกลายเป็นแมวน้อย เราก็แบบนี่มันคนเดียวกับที่อยู่ในออฟฟิศหรือเปล่าวะ ทำไมอยู่ออฟฟิศเธอเป็นอีกอย่างหนึ่ง”
18 ปีสำหรับนุ่น ปัจจุบันท็อปเขาเปลี่ยนยังไง?
นุ่น: “พี่ท็อปอ่อนโยนขึ้น เยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่นุ่นรู้สึกนุ่นโชคดีมากๆ ก็คือพี่ท็อปเขาเสมอต้นเสมอปลายในเรื่องของการสมมุติว่าน้อยยังไงเขาก็จะน้อยอย่างนั้น ไม่เคยได้ดอกไม้ก็ไม่ได้ วันสำคัญก็ไม่เคยได้ของอะไรขนาดนั้น แต่ทุกๆ วันตื่นเช้ามาเขาทำข้าวเช้า คือเปิดประตูมาปุ๊บหน้าพี่ท็อปก็อยู่ตรงหน้าเตา กิวขนมปังชงกาแฟ น้ำแข็งกี่ก้อนคือเขาจำดีเทลได้ แล้วเราก็ล้างจาน
เราก็รู้สึกว่าอันนี้มันคือความเสมอต้นเสมอปลาย ที่เรารู้สึกว่ามีค่า อันนี้คือตอบเรื่องความยั่งยืนในชีวิตจริงๆ ว่าไม่ได้มาหลอกขายโปรโมชั่น แต่เขาเป็นอย่างนี้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เขาก็ยังเป็นอยู่ แล้วมัน น่ารักขึ้น แต่ไม่ได้แบบโอ้โห วันครบรอบเราจะมีดอกไม้ เราจะไปไหน ก็ไม่ เราก็แค่ไปกินข้าวไปที่ที่เราเคยไปออกเดตกันครั้งแรก ไปนั่งดูน้ำ กินข้าว เหมือนคุยกันแบบตายาย ไม่มีเซอร์ไพรส์ของขวัญพิเศษอะไรเลย อย่างที่บอกเพราะมันน้อยยังไงมันก็น้อยอย่างนั้น แต่มันน่ารัก พลังบวกเชิงลบเหมือนกันเนาะ (ยิ้ม)”
ก็เลยเป็นที่มาที่พนักงานออฟฟิศทำให้ที่เป็นคลิป ECO wedding?
นุ่น: “อ๋อ เพื่อนทำให้ ไม่มีฟุตเทจใดๆ เพื่อนสงสาร เพื่อนเลยทำให้ ขอบคุณเพื่อนมา ณ ที่นี้ค่ะ (ยกมือไหว้) เพื่อนแบบ..แกวันครบรอบแกไม่ลงอะไรเหรอ เราก็บอกไม่มีอะไรจะลง เพื่อนทำให้”
มีถ่ายรูปคู่กันเองไหม?
นุ่น: “น้อยมาก ไม่ค่อย พี่ท็อปไม่ชอบถ่ายรูป แล้ววันที่เราได้พักเราจะชอบนอนเฉยๆ ดูทีวีหรือคุยกัน”
เรียกพ่อหนุ่มไมโครเวฟได้ไหม?
ท็อป: “คืออะไรนะ (ผู้ชายอบอุ่น) ศัพท์วัยรุ่นมีหลายเรื่องเลยที่ผมไม่เข้าใจ โอ้โห ตายละ หลังๆ ผมเริ่มพูดแบบเวลาขึ้นรถไฟฟ้า ผมก็จะขึ้นบีไปเอ็มอะไรอย่างนี้ พยายามพูดสั้นๆ ละ?
นุ่น: “อย่างที่บอกปีนี้เราคิดว่าเราอยากจะไปโฟกัสกับน้องๆ เจนซี เด็กรุ่นใหม่อะไรอย่างนี้ โชคดีมากอานิสงส์ของ I’m OK // Not OK เขาก็แบบ อุ๊ย รู้จักอะไรอย่างนี้ เราก็เลยเนียนๆ กับน้องๆ ได้”
แล้วเราอยู่กับเด็กๆ ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนใจหรือยังว่าเราอยากจะมีลูก?
นุ่น: “มันไม่ทันแล้วล่ะเธอ”
หลายๆ คนก็อยากลุ้นอยู่เผื่อวันนึงจะใจอ่อน?
นุ่น: “ขอเลี้ยงแมวดีกว่า”
ท็อป: “คิดว่าคงไม่ คือเราสองคน สมมุติเรื่องสิ่งแวดล้อมตัดสินใจมา 10 กว่าปีก็ทำเรื่องเดียวนั่นแหละ เรื่องนี้ก็น่าจะเหมือนกัน แต่ขอบคุณนะที่ให้กำลังใจ ที่ยังถาม แต่ก็ต้องบอกว่าคนที่อยากมีไม่ได้ผิดอะไรนะ บางทีแล้วเขาจะรู้สึกว่าทำไมสองคนนี้ไม่ได้อยากมี แล้วฉันเป็นคนที่อยากมีแล้วผิด หรือคิดต่างแล้วมันเป็นอะไรหรือเปล่า ผมว่ามันมีสิทธิ์ในการคิดต่างกันได้ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน”
แสดงว่าเราสองคนคิดตรงกันมันก็เลยจบได้สวย?
นุ่น: “ที่บ้านด้วยค่ะ เพราะว่าที่บ้านก็ไม่ได้มีการกดดันใดๆ ก็โชคดีที่เราเลือกทางนี้แล้วคนก็สนับสนุน”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : 18 ปีรักยั่งยืน ‘นุ่น’ เผยสามีเสมอต้นเสมอปลาย ไม่หลอกขายโปรฯ ‘ท็อป’ รับติดภรรยามาก
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th