"จั๋ง PERSES" จากอ้วนติดหวานสู่หุ่นลีนจนใจพัง! อยากหล่อแต่เกือบเสียสุขภาพจิต
รายการ Glow On podcast with Grace สัปดาห์นี้พบกับนักร้องหนุ่มสุดฮอต จั๋ง perses ที่ถือว่าเป็นต้นแบบของเด็กยุคใหม่ทั้งเรื่องของวินัยในการทำงานเรื่องของการดูแลตัวเอง มาแชร์เคล็ดลับเกี่ยวกับการดูแลรูปร่าง เผยประสบการณ์ลดน้ำหนักในอดีตสู่ผลกระทบทางอารมณ์และร่างกายที่จากการลดน้ำหนักผิดวิธี กินคลีนจนใจพัง อยากหล่อแต่เกือบเสียสุขภาพจิต
ถือว่าเป็นคนที่ทำงานหนักคนหนึ่ง ต้องทำงานทุกวันแล้วกินยังไง
จั๋ง perses : ผมเลือกกินครับ พอเริ่มรู้ระบบว่าต้องกินอะไร เราก็จะเลือกกินประมาณหนึ่ง แต่ก็จะมี Cheat Meal อยู่ อาทิตย์ละครั้ง
เป็นอาทิตย์ละครั้งที่เรานอกใจการกินคลีน
จั๋ง perses : ใช่ครับ คลีนเกือบทุกวันครับ มี Cheat Day แค่วันเดียว แต่ก็มีข้อยกเว้นบ้างครับ ถ้ามีงานใหญ่ ๆ อย่างเช่นไปงาน Festival ผมก็จะอัดน้ำตาลก่อน เพราะมันต้องใช้ Energy ครับ ใช้แค่โปรตีนอย่างเดียวไม่ได้
มื้อหลักเรากินอะไร
จั๋ง perses : เมื่อเช้าข้าวประมาณ 1 กำมือครับ แล้วก็กินเนื้อไก่กับเนื้อวัว ทุกมื้อจะต้องมีเนื้อ 2 ก้อน มีผัก แล้วก็ข้าวครับ ประมาณนี้
ซีเรียสเรื่องน้ำมันหรือความมันไหม
จั๋ง perses : ซีเรียสเรื่องของทอดมากกว่าครับ กับถ้ามีน้ำมันเยอะเกินก็จะเอาทิชชูซับ หรือถ้ามีหนังก็จะลอกหนังออก
ถือว่าเป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเองเรื่องกินมากเหมือนกัน
จั๋ง perses : ผมว่าติดนิสัยไปแล้วครับ (หัวเราะ) ผิวดีขึ้นด้วยครับ เมื่อก่อนสิวเห่อเลย เมื่อก่อนผมเป็นคนรักของหวานมาก ของทอดก็ชอบ กินตามใจปาก เมื่อก่อนกินบุฟเฟต์อาทิตย์ละประมาณ 4-5 ครั้ง แล้วก็คิดว่าต้องผอมเพราะเราเต้นตลอด แต่ก็คือไม่ผอม
เพราะว่าเรากินไปมากกว่าที่ใช้เยอะมาก
จั๋ง perses : เยอะสุด ๆ ไปเลยครับ
อะไรที่ทำให้กลับมาเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้อง
จั๋ง perses : คือผมเป็นคนที่ลดน้ำหนักมาตลอดตั้งแต่ ม.ปลาย เราอยากมีความรักไง อยากได้ใจสาว ๆ ตอนนั้นสภาพก็ค่อนข้างเป็นวุ้นอยู่ ไม่ใช่ทรงนี้เลยครับ ตอนนั้นหนักกว่านี้ไม่เยอะมากประมาณ 68 กิโลกรัม ตอนนี้ 63 กิโลกรัม แต่มันแค่ไม่เข้าที่ ตอนนั้นแบบผิวคล้ำเพราะเล่นกีฬา แขนก็มีแต่รอยจากการเล่นรักบี้ เล่นบอล เล่นบาส
ใช้ชีวิตแบบสุด ๆ
จั๋ง perses : ใช่ครับ แต่พอไปเรียนพิเศษแล้วเจอผู้หญิงก็เลยแบบเราต้องดูแลตัวเองแล้ว แต่ตอนนั้นไม่มีคนมาไกด์ให้ว่าต้องกินอะไร เราก็เลยลดน้ำหนักผิดวิธีมาตลอดเวลา เช่น กินแค่มื้อเดียว กินทีละนิดทีละน้อย แล้วก็เข้าใจแค่ว่ากินให้น้อยกว่าที่ใช้ก็พอ โดยที่เราไม่ได้ออกกำลังกายแบบบอดี้เวทหรือเข้าฟิตเนสอะไรเพิ่มเติม
แล้วตอนนั้นเรื่องลดน้ำหนักและความรักสำเร็จไหม
จั๋ง perses : ตอนนั้นลดน้ำหนักสำเร็จครับ แต่ความรักไม่สำเร็จ ในช่วง ม.ต้น - ม.ปลาย คือผมค่อนข้างอักเสบเรื่องความรักมากเลยครับ ตอนนั้นไม่มีประสบการณ์เรื่องความรักมาก่อน เราจะเห็นแต่เพื่อน ๆ ที่ไปเข้าแถวตู้โทรศัพท์ตอนกลางวันเพื่อคุยกับโรงเรียนที่อยู่ข้าง ๆ โคตรเท่เลย ผมก็อยากคุยบ้างแต่ไม่มี
แต่เราก็ได้ลดความน้ำหนักตอนนั้น
จั๋ง perses : แต่มันก็ก็โยโย่นะพี่ เพราะเราลดผิดวิธี ลดด้วยการตัดคาร์บ กินเนื้อ กินน้อย กินแต่ฟักทองไม่กินข้าว ลดแบบมั่วซั่วไปหมดเลย คือเปิดจาก YouTube บ้าง ไปถามคนนั้นคนนี้บ้าง แล้วทุกสูตรมันก็รวมกันจนเละไปหมดเลยครับ
แล้วเคยกินไม่ดีไหมกับร่างกาย แล้วรู้สึกเสียใจกับตัวเอง
จั๋ง perses : ถ้ากินไม่ดี มีครับ มีช่วงหนึ่งที่เราตัดหวานมาก ๆ คือจริง ๆ ผมเป็นคนชอบหวานมาก่อนครับ ทีนี้เราเห็นมันอยู่ในตู้เย็น เราก็เลยอยากจะลิ้มรส ก็เลยเอามากินแล้วก็เคี้ยว ๆ แล้วก็ห่อทิชชูทิ้ง ซึ่งผมมีความสุขมาก เหมือนโดพามีนมันพุ่งแบบ ฟินมาก เป็นวิธีที่ไม่ดีเลย อย่าไปทำตาม คือตอนนั้นผมหมดหนทาง มืดแปดด้านมันอยากจริง ๆ แต่ก็คายออกมา เพราะรู้สึกว่าถ้ากลืนเข้าไปมันจะรู้สึกผิดกับร่างกายที่เราอุตส่าห์ไปวิ่งมา บอดี้เวทมา ผมว่าจริง ๆ มันสามารถบาลานซ์ได้ครับ ด้วยความที่ต้องรีบใช้งานด้วย เลยเคร่งกับตัวเองมาก ผมจะมี Mindset ในหัวอย่างหนึ่งว่าจะไม่กินเลย เพราะว่ามันจะผิดวินัย มันจะผิดระบบ อย่างเช่นถ้าผู้จัดการถือเค้กมาแล้วช่วงนั้นผมกินคลีนอยู่ แล้วผู้จัดการยื่นมาป้อน ผมจะบอกไม่เอาเสียระบบ เพราะถ้ากินไปอันหนึ่งแล้วความคิดมันจะรู้สึกแพ้ไปแล้ว แล้วจะรู้สึกผิดแล้ว
ตอนนั้นนานยัง
จั๋ง perses : มีหลายช่วงครับ ช่วงเมื่อก่อนที่ลดความอ้วนก็มีรอบหนึ่งช่วงประมาณปี 1 ปี 2 แล้วก็อันล่าสุดก็คือช่วงที่เริ่มจริงจังกับการฟิตเนสมาก ๆ ครับ
พอเลิกทำแบบนั้นได้แล้วเป็นยังไง กลับมาสู่กิจวัตรประจำวันที่ถูกต้องตอนนี้
จั๋ง perses : คิดว่าสภาพจิตใจมันก็ดีขึ้นด้วยครับ ตรงที่เราไม่ต้องฝืนตัวเองมากเกินไป เพราะว่าตอนมีช่วงที่ผมต้องถ่ายแมกกาซีนแล้วต้องโชว์ซิกแพค มันก็ต้องตัดน้ำ ตัดหวาน แล้วช่วงนั้นผมมีโชว์บนเวทีใหญ่ร่วมกับศิลปินท่านอื่นด้วย แล้วก็ขึ้นไปด้วยความที่สมองอ๊องไปหมดเลย เพราะว่าตอนนั้นปากเราก็แห้ง สมองก็เหมือนไม่มีของหวาน ไม่มีน้ำมันมึนไปหมดเลย แต่ก็คุ้มสำหรับภาพที่มันออกมา
การลดได้อย่างถูกวิธีจริง ๆ แบบนั้นคืออะไร
จั๋ง perses : จริง ๆ ผมให้เครดิตกับพี่เทรนเนอร์ผมเลยครับ เราได้เทรนเนอร์ดีมาก ๆ ไปเทรนกับทาง Bestfitt ครับ
ทุกวันครับ ทุกเช้า ส่วนใหญ่ตารางผมจะเริ่มประมาณ 11 โมง ปกติผมตื่นประมาณ 10 โมง แต่พอเริ่มเข้าระบบก็คือตื่น 6:30 น. ไปฟิตเนส 7 โมง แล้วก็เสร็จฟิตเนสก็ประมาณ 9 โมง 10 โมง แล้วค่อยกลับห้อง
นอนกี่โมง
จั๋ง perses : แล้วแต่วันเลยครับ บางวันก็เที่ยงคืน บางวันก็ตี 1 ตี 2 ก็มี แต่ก็ปลุกตัวเองขึ้นมาครับ จริง ๆ มันก็ถือว่านอนไม่พอ แต่เรากลัวเสียระบบ แต่ทำอย่างนี้เรื่อยๆก็ไม่ดีครับ สิ่งที่จะแย่คือฮอร์โมน แต่ตอนนั้นเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนไง แบบว่าผมเป็นคนที่ต้องทำให้สำเร็จด้วยแหละ ตอนนั้นจะต้องถ่าย จะต้องทำงาน จะต้องใช้หุ่นตอนนี้เลยใช่ไหม เราเลยกล้าทุ่มเลยตอนนั้น ก็นอนประมาณ 4-5 ชั่วโมงครับ เขาก็จะเน้นพวกบอดี้เวทไปถึงก็วิดพื้น เน้นเติมส่วนที่เราไม่มีอย่างเช่นอกบน ไหล่หน้า ไหล่ข้างครับ แล้วก็เน้นท้องหนักสุดเลย
แอลกอฮอล์ตัดไหม
จั๋ง perses : แอลกอฮอล์ก็ตัด แต่ผมไม่ค่อยกินแอลกอฮอล์อยู่แล้วด้วย ตัดของหวาน แล้วก็พวกของมัน ของทอดก็ตัดเลย แล้วก็เพื่อน ๆ ชวนไปกินข้าวช่วงใกล้ถ่ายแบบประมาณ 1 เดือน ผมก็จะไว้ก่อนเพื่อน หรือไม่ก็ไปกินอะไรที่มันมีเนื้อให้พอจะเคี้ยวได้ เน้นเนื้อ เน้นผัก ซุปไม่เอานะครับ ส่วนน้ำจิ้มก็จิ้มบาง ๆ
ตอนที่เราคุมตัวเองมาก ๆ ตัดหวานหงุดหงิดไหม
จั๋ง perses : เหมือนรถไฟเหาะเลยตอนนั้น รู้สึกได้เลยว่าเราคุมอารมณ์ตัวเองได้ยากขึ้นมาก จากเมื่อก่อนที่เป็นคนใจเย็นมาก แล้วก็เป็นคนที่มีสติทันอารมณ์ตลอดเวลา กลายเป็นว่ารู้ตัวแต่ควบคุมไม่ได้ เหวี่ยง อาจจะไม่ได้ถึงกับวีน อารมณ์เสียง่ายมาก ผมเก็บไม่ค่อยอยู่ จนกระทั่งน้องๆ มาบอกว่าทำไมช่วงนี้พี่จั๋งช่วงนี้อารมณืเสียง่ายเหมือนกันนะ แล้วก็ด้วยความที่ผมจริงจังกับงานมาก ก็จะเครียด กลับไปบ้านก็เก็บไปคิด เพราะเราทำเบื้องหลังด้วย ทำเพลง ก็จะอารมณ์เสียโดยที่เราไม่รู้ตัว พอเขามาเตือนเราก็ขอโทษน้องเลย มีเคลียร์ใจกับเจ้าของค่ายด้วย ประชุมใหญ่เลย
ในช่วงที่เราตัดหวานมาก มีปัญหาถึงขั้นสภาพจิตใจอะไรอย่างนี้ไหม
จั๋ง perses : มีครับพี่ เหมือนผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะหวานหรือเปล่า แต่พอด้วยความที่มันเกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ตัวเองมาก ๆ แล้วกลายเป็นว่าเหมือนพลังงานลบมันเข้ามาเยอะกว่าเมื่อก่อน มันก็เลยเหมือนมันช็อกกับพลังงานที่เราได้รับมา แล้วกลายเป็นคนคิดมากโดยปริยาย แล้วก็กลายเป็นคนที่พอควบคุมตัวเองไม่ได้มันเลยรู้สึกเฟลกับตัวเองไปด้วย มันเลยยิ่งหนัก ๆ เข้าไปอีก แล้วก็มีช่วงหนึ่งผมมึนอ๊องแล้วก็ปรึกษาเพื่อน ปรึกษาค่ายว่าหรือเราควรไปพบคุณหมอ ควรระบายอะไรให้เขาฟังดีไหม เพราะว่าตอนนั้นเราควบคุมไม่อยู่ แต่ผมว่ามันก็อยู่ด้วยที่งานมันหนักขึ้นด้วยครับ
ถือว่าเป็นคนทำงานหนักแต่ว่าก็ยังดูโอเคอยู่นะ
จั๋ง perses : ครับ ตอนนี้พอมันผ่านช่วงที่เราถึงเป้าหมายแล้ว เราก็กลับมาบาลานซ์ชีวิตตัวเอง
แล้วในช่วงที่เราต้องลดเยอะเป็นพิเศษ สมมุติว่าต้องถ่ายงานแบบด่วนอีก 5 วัน
จั๋ง perses : ถ้าตอนนี้ผมก็จะพร้อมครับ ก็จะลดแป้งลง แล้วก็เพิ่มโปรตีนนิดหนึ่ง เพิ่มโปรตีนขึ้นลดแป้งลงแล้วก็ตัดมันตัดหวาน แล้วก็ถ้าต้องใช้ท้องผมก็จะตัดน้ำครึ่งวันก่อนนอนอะไรอย่างนี้ ส่วนท่าเล่นท้องที่เล่นบ่อยสุดคือ Roll-out ครับ ทรมานสุดแล้วครับสูตรพี่เบสเลยนะ อันนี้ไม่รู้ขายได้หรือเปล่าถือว่าแชร์กันแล้วกันนะพี่เบส ของผมก็จะของพี่แชมป์ เขาจะให้ท้อง 100 ครั้ง แล้วก็มีเตะขาตัว เตะขา 100 ครั้ง แล้วก็มี Side Cycle 100 ครั้ง ใช่ครับ 3 อันนี้ ที่จะทำทุกครั้งที่ไปเล่นฟิตเนส
แล้วซิกแพค ทำยังไงเวลาที่ต้องใช้
จั๋ง perses : ซิกแพคต้องใช้ก็ถ้าต้องโชว์ ผมก็จะใช้สูตรเดิมกับที่เพิ่งถ่ายมาก็คือ ตัดน้ำ 1 วัน แล้วก็กินโปรตีนลดแป้ง แป้งก็อาจจะเปลี่ยนจากข้าวกล้องก็จะเปลี่ยนเป็นพวกฟักทองแทน เพราะมันย่อยง่ายกว่าหรือซึมง่ายกว่าครับ
เราพอใจกับรูปร่างนี้แล้ว
จั๋ง perses : จริงๆ ก็ยัง ผมอยากตัวใหญ่กว่านี้ ปั้นไหล่ ประมาณหุ่นแบบ เจย์ ปาร์ค
เขาบอกว่าคุณมีทฤษฎีในการออกกำลังกายและให้รางวัลตัวเองด้วยการกิน
จั๋ง perses : หลังออกกำลังกายครับ คือผมเป็นคนที่ชอบกินมาก ๆ แล้วผมเป็นเมื่อก่อน อย่างที่บอกว่าผมชอบกินบุฟเฟต์ ผมชอบกินแบบกินแบบอั่ก ๆ ๆ ๆ ยัด เพราะฉะนั้นเวลาเราออกกำลังกายเสร็จปุ๊บ สมมุติร่างกายเหนื่อย ๆ ล้า ๆ เลยปุ๊บเราก็จะสั่งข้าวทิ้งไว้ตอนที่เราเดินชันเสร็จปุ๊บก็ซัดเลย โอ๊ย แฮปปี้ดีมาก แต่เราเลือกกินนะจะกินแต่เนื้อ
ตอนนี้คำว่าสุขภาพดีใกล้หรือยัง
จั๋ง perses : ยังไม่ค่อยใกล้แต่ว่ากำลังไป On The Way เพราะรู้สึกว่ายังพักผ่อนน้อย แล้วก็ทำงานเยอะ
ถามนอกเรื่องเมนูที่ชอบตอนนั้น ที่รู้สึกว่าแย่ที่สุดที่เคยกินคือเมนูอะไร
จั๋ง perses : ผมชอบช็อกโกแลตมาก คือสิ่งที่ผมรักที่สุด กินได้แบบทั้งวันทั้งคืน มีตอนเด็กๆ ผมเอาช็อกโกแลตบาร์ มาประมาณ 10 อันเอามาซ้อนกัน แล้วผมก็แบบค่อย ๆ แทะ ผมคือเด็กอ้วนคนหนึ่ง ผมคือแบบเด็กที่รักการกินของหวาน ถ้านึกสภาพไม่ออกนะ ให้นึกภาพผมอยู่บนโซฟา มีกล่องป๊อปคอร์น แล้วก็มีขนมถุงเยอะมากๆ กับช็อกโกแลต 10 อันแล้วผมนั่งแบบ ที่เรียงกันอย่างงี้ กินทีละอันกับท่านั่งที่สบายที่สุดเท่าที่จะหาได้ แล้วเปิดทีวีดูไปด้วย อันนี้คือผมเมื่อก่อน
สามารถติดตาม " Glow On podcast with Grace " ได้ที่ช่องทาง Facebook: Alive Dot , Youtube : Alive Dot
คลิกชมรายการย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=mA6TBx42ws4