EGCO โชว์กำไรครึ่งปีแรกพุ่ง เตรียมปิดดีลโรงไฟฟ้าทั้งก๊าซฯ-พลังงานหมุนเวียน
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Groupประกาศผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยมีกำไรสุทธิ 5,734 ล้านบาทเพิ่มขึ้น2,679 ล้านบาท หรือคิดเป็น88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการดำเนินกลยุทธ์ “Triple P” ที่ให้ความสำคัญกับนโยบายการบริหารสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ (Asset Recycling)ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังEGCO Groupเตรียมปิดดีลโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์Wheatsboroughในสหรัฐอเมริกา รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจาเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน 2-3 โครงการ
ดร. จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Groupเปิดเผยว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวน ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และมาตรการกีดกันทางการค้า อย่างไรก็ตามEGCO Group ยังคงสามารถบริหารและจัดการการเดินเครื่องโรงไฟฟ้า ต้นทุนเชื้อเพลิง ต้นทุนทางการเงิน และสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีโดยความเคลื่อนไหวทางธุรกิจที่สำคัญของ EGCO Group ในไตรมาสที่ 2 ถึงปัจจุบันคือ การปิดดีลซื้อหุ้น49% ในโรงไฟฟ้าพลังงานลม Downeast Wind กำลังผลิต126 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกจาก 2แห่ง ในกลุ่มโรงไฟฟ้า Pinnacle llในสหรัฐอเมริกา ที่ EGCO Group เข้าถือหุ้น ขณะเดียวกันCDI Group บริษัทให้บริการครบวงจรด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่ง EGCO Group ถือหุ้น 30% ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 EGCO Group มีรายได้ 22,198 ล้านบาทและมีกำไรจากการดำเนินงาน 3,504ล้านบาทจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของโรงไฟฟ้าไซยะบุรี น้ำเทิน 1 บ้านโป่ง Compass รวมถึง CDI Group ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,734ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2567ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการรับรู้กำไรจากการขายหุ้นทั้งหมดในโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ 2 แห่ง ตามกลยุทธ์ “Triple P” ที่เน้นนโยบายการบริหารสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ คือ การขายสินทรัพย์ในระยะเวลาที่เหมาะสมและนำเงินที่ได้จากการขายไปลงทุนใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทยังรับรู้ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงซึ่งเป็นผลมาจากการแข็งค่าของค่าเงินวอนต่อเงินดอลลาร์
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568EGCO Group รับรู้รายได้ 11,360 ล้านบาทและรับรู้กำไรจากการดำเนินงาน 1,895ล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 ไซยะบุรี APEX และCDI Group ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่2,157ล้านบาท เพิ่มขึ้น55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567ซึ่งมีปัจจัยบวกมาจากการรับรู้ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
“การดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2568 EGCO Group จะมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากการเตรียมปิดดีลซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Wheatsboroughกำลังผลิต 125 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 ในกลุ่มโรงไฟฟ้า Pinnacle llในสหรัฐอเมริกาและการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ที่มีปริมาณน้ำมากขึ้นตามฤดูกาล รวมถึงการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Supply Agreement - PSA) ฉบับใหม่ กำลังผลิต 400 เมกะวัตต์ ระยะเวลา 15 ปี ในไตรมาสที่ 4ขณะเดียวกัน EGCO Groupยังคงแสวงหาโอกาสลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการลงทุนรูปแบบ M&A และ Greenfieldรวมถึงอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน 2-3 โครงการ แนวทางดังกล่าวตอกย้ำพันธกิจของ EGCO Group ที่ “มุ่งมั่นเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน”ดร.จิราพร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- CKPower เผยกำไรสุทธิครึ่งปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง
- สตาร์ตอัป MIT เริ่มขุดเจาะใต้ดินด้วยเทคนิคใหม่เพื่อผลิตไฟฟ้า ปูทางขุดหลุมลึกที่สุดในโลก 20 กม.
- “บังคลาเทศ” มุ่งผลักดันพลังงานแสงอาทิตย์ แก้ปัญหาไฟดับบ่อย
- เปิดเงื่อนไข ติด "Solar Rooftop" ลดหย่อนภาษี 2 แสนบาท รัฐบาลเดินหน้าหนุนพลังงานทดแทน
- โรงไฟฟ้า “โซลาร์เซลล์ลอยน้ำ” ใหญ่ที่สุดในยุโรป เปิดตัวแล้วในฝรั่งเศส