รู้จัก “มลพิษทางเคมี” ภัยเงียบเทียบเท่าโลกร้อน จากสารเคมีนับล้านชนิด!
รายงานวิจัยล่าสุดเตือนว่า “มลพิษทางเคมี” กำลังกลายเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์และธรรมชาติ ที่มีความรุนแรงใกล้เคียงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) แต่กลับยังไม่ได้รับความสนใจหรือการดำเนินการที่เพียงพอจากสังคมโลก
การศึกษาดังกล่าวจัดทำโดยองค์กร Deep Science Ventures (DSV) ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิแกรนแธม (Grantham Foundation) โดยนักวิจัยระบุว่า อุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกได้สร้างสารเคมีใหม่หรือ “สิ่งแปลกปลอมที่ไม่พบในธรรมชาติ” (novel entities) มากกว่า 100 ล้านชนิด โดยมีสารเคมีอยู่ระหว่าง 40,000 ถึง 350,000 ชนิด ที่กำลังผลิตและใช้งานในเชิงพาณิชย์
แม้จะมีการปนเปื้อนสารเคมีในสิ่งแวดล้อมและร่างกายมนุษย์อย่างแพร่หลาย แต่งานวิจัยชี้ว่า ความตระหนักของสาธารณชนต่อผลกระทบทางสุขภาพยังอยู่ในระดับต่ำมาก ทั้งที่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่าสารเคมีหลายชนิดเชื่อมโยงกับโรคต่างๆ เช่น สมาธิสั้น (ADHD), ภาวะมีบุตรยาก และโรคมะเร็ง
รายงานระบุว่า สารเคมีหลายชนิดที่เราสัมผัสในชีวิตประจำวัน เช่น อากาศที่หายใจ น้ำที่ดื่ม อาหารที่กิน และผลิตภัณฑ์ในบ้าน เช่น แชมพู ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ ล้วนมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยอาจไม่ได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียดก่อนออกสู่ตลาด
ตัวอย่างเช่น สาร PFAS หรือ “สารเคมีนิรันดร์” ซึ่งพบในเกือบทุกคนที่เคยได้รับการตรวจร่างกาย และในหลายพื้นที่ แม้แต่น้ำฝนก็มีค่าการปนเปื้อนที่สูงเกินระดับปลอดภัยตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO)
งานวิจัยยังพบว่า สารเคมีเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นระบบสืบพันธุ์ ภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท หัวใจ ปอด ตับ ไต และระบบเผาผลาญ โดยเฉพาะสารกำจัดศัตรูพืช (pesticides) ที่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับปัญหาการแท้งบุตรและภาวะมีบุตรยากอย่างมีนัยสำคัญ
นักวิจัย DSV ยังชี้ว่า ระบบการทดสอบสารพิษในปัจจุบันมีข้อบกพร่องหลายประการ โดยเฉพาะในกรณีของสารเคมีที่รบกวนระบบต่อมไร้ท่อ (endocrine-disrupting chemicals) ซึ่งมีคุณสมบัติแทรกแซงฮอร์โมนในร่างกาย สิ่งที่น่ากังวลคือ สารเคมีเหล่านี้อาจมีผลกระทบแม้ในปริมาณน้อยมาก และพฤติกรรมของสารเคมีเหล่านี้อาจไม่เป็นไปตามสมมติฐานเดิมที่เชื่อว่าปริมาณน้อยจะปลอดภัยกว่า ซึ่งทำให้การตรวจสอบหลายครั้ง “มองข้าม” ความเสี่ยงที่แท้จริงไป
แม้ประเด็นเรื่องมลพิษทางเคมีจะได้รับงบประมาณสนับสนุนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่นักวิจัยมองว่าเป็นปัญหาที่สามารถเริ่มแก้ไขได้จากระดับ “ผู้บริโภค” โดยตรง หากผู้คนเริ่มตระหนักถึงอันตราย และมีความต้องการสินค้าที่ปลอดภัยขึ้น ก็สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอความร่วมมือจากรัฐบาลหรือองค์กรขนาดใหญ่เพียงฝ่ายเดียว
จากการวิจัยครั้งนี้ นักวิจัยได้เปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของตนเอง เช่น เลือกใช้กระทะเหล็กหล่อแทนเครื่องครัวเคลือบสารเคมี หลีกเลี่ยงการอุ่นอาหารในภาชนะพลาสติก และหันมาใส่ใจเรื่องอาหารออร์แกนิกให้มากขึ้น แม้จะมีราคาสูงกว่าก็ตาม สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ นักวิจัยแนะนำว่าอย่างน้อยควร ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนบริโภค เพื่อลดสารเคมีตกค้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปลี่ยนขยะเป็นสิ่งของใช้ใหม่ ผ่านแนวคิด Circular Economy
- โลกใกล้แตะ 1.5 องศาฯ จุดเปลี่ยนสู่หายนะ แม้เดินถูกทาง แต่ยัง “ช้าเกินไป”
- ทำความรู้จัก “Spogomi” กีฬารักษ์โลกแนวใหม่ ที่ช่วยปฏิวัติวงการเก็บขยะ
- “หลุมยุบ” มหันตภัยเงียบ ฝีมือมนุษย์และภาวะโลกร้อน
- ศึกพลาสติกโลกเดือด เจออิทธิพลธุรกิจฟอสซิล ขวางสนธิสัญญาลดพลาสติก