เปิดประวัติ ผู้ว่าฯ อุบล ดีกรี 6 ปริญญา หลังมีคำสั่งย้ายช่วยประชาชนชายแดน
เปิดประวัติ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ ผู้ว่าฯ อุบล ดีกรี 6 ปริญญา หลังมีคำสั่งย้ายกลางภารกิจช่วยประชาชนชายแดน
ตามที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งย้าย ว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เข้ามาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย ภายหลังพบปัญหาในการเบิกจ่ายงบประมาณช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีการเบิกงบทดรองราชการเพียง 55,600 บาท ทั้งที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาให้ถึง 100 ล้านบาท
ประวัติ
ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2511 ปัจจุบันอายุ 56 ปี มีภูมิหลังที่ผสมผสานทั้งสายทหารและสายวิชาการ เขาเริ่มต้นชีวิตราชการใน “สายตรวจราชการ” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการตรวจสอบและผลักดันการทำงานของฝ่ายปกครองในภูมิภาค
การศึกษา
-เส้นทางวิชาการของว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ เขาสะสมวุฒิการศึกษาได้ถึง 6 ปริญญา ครอบคลุมหลายศาสตร์ทั้งวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ผังเมือง รัฐศาสตร์ และกฎหมายมหาชน
-ปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์, เศรษฐศาสตร์, นิติศาสตร์
-ปริญญาโท สาขาผังเมือง และรัฐศาสตร์
-ปริญญาเอก สาขากฎหมายมหาชน
ด้วยพื้นฐานความรู้ที่หลากหลาย เขาจึงเป็นข้าราชการที่เข้าใจทั้งมิติของกฎหมาย การบริหารจัดการ และการวางแผนเมือง ซึ่งสะท้อนผ่านบทบาทงานราชการในหลายมิติ
เส้นทางราชการ
หลังจากผ่านประสบการณ์ในสายตรวจราชการ เขาเริ่มก้าวเข้าสู่ตำแหน่งบริหารในระดับจังหวัด โดยไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด ในหลายพื้นที่ เช่น ลำปาง สิงห์บุรี และประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ และในเวลาต่อมา ได้รับการโปรโมตให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดขนาดใหญ่และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ของภาคอีสาน
นักวิชาการควบคู่กับนักบริหาร
นอกจากบทบาทในสายราชการแล้ว ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ ยังมีบทบาทในแวดวงวิชาการ โดยดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ที่มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย และเคยเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการผังเมือง
ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี แจงปมเบิกงบฯช่วยเหลือชายแดน 55,600 บาท
ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้ชี้แจงเรื่องให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า ขณะนี้จังหวัดมีเป้าหมายดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบกว่า 20,000 คน และบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจำนวน 129 หลังคาเรือน
ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลเพื่อดำเนินการจ่ายเงินซ่อมแซมที่อยู่อาศัย โดยคาดว่าประชาชนจะได้รับเงินช่วยเหลือภายในวันที่ 12 สิงหาคม 2568 นี้
ที่ผ่านมา จังหวัดได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 3 อำเภอหลัก ได้แก่ อำเภอน้ำยืน, อำเภอน้ำขุ่น และอำเภอนาจะหลวย อย่างต่อเนื่อง และเป็นไปตามระเบียบทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยมีรายละเอียดของการให้ความช่วยเหลือและการเบิกจ่ายงบประมาณ ดังนี้
รายการช่วยเหลือและการเบิกจ่ายงบประมาณ
1.โรงครัวพระราชทาน
ดำเนินการระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม-4 สิงหาคม 2568 จัดทำอาหารกล่องแจกจ่ายแก่ประชาชนรวมทั้งสิ้น 122,959 กล่อง คิดเป็นมูลค่า 1,238,784 บาท
2.สิ่งของบริจาคจากสภากาชาดไทย
สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสถานีกาชาดที่ 7 มอบสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน มูลค่ารวม 1,960,000 บาท
3.งบประมาณทดรองราชการเพื่อการช่วยเหลือเร่งด่วน
ด้านชีวิตและทรัพย์สิน : เบิกจ่ายแล้วเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 จำนวน 55,600 บาท
ด้านความเสียหายต่อที่อยู่อาศัยและปศุสัตว์ : อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ภายในวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เป็นเงินรวม 4,731,316 บาท
4.การสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ รวม 19 แห่ง ได้จัดสรรงบประมาณของตนเพื่อสนับสนุนด้านอาหารและสิ่งของจำเป็น รวมมูลค่าประมาณ 6,339,792 บาท
ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ ยืนยันว่า จังหวัดอุบลราชธานีได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในทุกด้านอย่างรอบด้านและต่อเนื่อง โดยยึดหลัก ความโปร่งใส รวดเร็ว และทั่วถึง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนให้ดีที่สุด