โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อสังหาริมทรัพย์

จับตาโอกาสใหม่เรียลดีมานด์ ‘จีน’ ปักหลักเรียน-ทำงาน-ลงทุนในไทย

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

“จีนมาไทย” จึงไม่ใช่แค่เดจาวูของกรุ๊ปทัวร์อีกต่อไป! หากแต่เป็นการอพยพเชิงคุณภาพ กลายเป็นแรงขับเคลื่อนตลาด บ้าน และคอนโดมิเนียมอย่างเงียบๆ โดยเฉพาะในกลุ่มระดับกลาง-บน

สุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย กล่าวว่า ครึ่งปีแรก 2568 นักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนไทย 16.7 ล้านคน ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 5% แต่ไฮไลต์อยู่ที่ “นักท่องเที่ยวจีน” ลดลงถึง 34% อยู่ที่ราว 2.27 ล้านคน เทียบปีก่อนหน้าที่เกิน 3 ล้าน แน่นอนว่าลูกค้านักท่องเที่ยวลดลง กระทบต่ออุตสาหกรรมเป้าหมายชัดเจน

หากแต่สิ่งที่เรานึกไม่ถึงคือ “ชาวจีน” ที่มาอยู่อาศัยจริงจัง! เข้ามาทำงาน ลงทุน เปิดกิจการ เรียนหนังสือ นี่คือ “DNA” ใหม่ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

ตัวเลขที่สะท้อนภาพนักลงทุนจีนหน้าใหม่ ประกอบด้วย ทุนจดทะเบียนนิติบุคคลสัญชาติจีน ปี 2568 เดือนพ.ค. มีทุนจดทะเบียนจากจีนรวมกว่า 454,551 ล้านบาท คิดเป็น 10.34% ของทั้งหมด นับว่าติด TOP3 ของประเทศไทย พร้อมกับญี่ปุ่นและสิงคโปร์

สะท้อนให้เห็นว่า “จีน” กำลังตั้งฐานธุรกิจในไทยอย่างจริงจัง และไม่ใช่แค่รายวันที่หมดไป ถัดมา จำนวนผู้ถือใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ชาวจีนที่ได้งานในไทยมีจำนวน 47,128 คน ณ เดือน พ.ค. 2568 เพิ่มขึ้นจากญี่ปุ่น ซึ่งมีฐานะอันดับ 1 ในกลุ่มต่างชาติที่ทำงานในไทย นี่ไม่ใช่เพียงตัวเลข แต่คือกลุ่มคนที่ “กินอยู่…ใช้ชีวิต” ในไทยแบบระยะยาว

และอีกความน่าสนใจคือ นักศึกษาต่างชาติ “จีน” คือผู้นำจำนวนนิสิต นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2567 มีชาวต่างชาติราว 49,410 คน คนจีนกว่า 23,243 คน ครองอันดับ 1 ในระดับก่อนมหาวิทยาลัย มีนักเรียนต่างชาติกว่า 188,428 คน ซึ่งราว 40% มาจากจีน เกาหลีใต้ เวียดนาม ฯลฯ คนกลุ่มนี้ คือ อีกแรงขับเคลื่อนอสังหาริมทรัพย์ เพราะต้องมีที่อยู่อาศัยของตัวเอง หรือ ผู้ปกครอง ตลอดระยะเวลาที่เรียนในเมืองไทย

คนจีนสร้าง impact ยิ่งใหญ่?

ชาวจีนไม่ได้มาแค่ท่องเที่ยว แต่ “Patch In” เข้าโครงสร้างเศรษฐกิจไทย คนจีนที่มาพร้อมกับใบอนุญาตทำงาน หรือจดทะเบียนบริษัท มีแนวโน้มอยู่นาน ลงทุนจริง ช่องทางการซื้อ-เช่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น กลายเป็น Real Demand ไม่ใช่แค่ Speculation หรือเก็งกำไร! และแตกต่างจากกลุ่มทัวริสต์ที่มาแล้วไป

“คนจีนกลุ่มนี้มีความต้องการจริง เช่น ต้องการซื้อคอนโดมิเนียม หนังสือเดินทางไทย บางคนเช่าบ้านเดี่ยวกลางเมือง ทำให้ตลาดเริ่มขยับ หากจับกลุ่มลงทุน หรือผู้ที่มาอยู่จริง ไม่ใช่แค่กลุ่มทัวริสต์ จะเป็นโอกาสที่ดี”

คนจีนกลุ่มนี้ยังสร้างและบริหารธุรกิจในไทยไม่ว่าจะสายเทคโนโลยี โรงงาน กระตุ้นให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยระยะยาว ส่งผลกระทบที่ชัดเจนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตามความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้แตกต่างไปจากเดิม กล่าวคือ ต้องการที่อยู่อาศัยในระดับราคาตลาดระดับกลาง จนถึงระดับบน ที่มีความเฉพาะที่ชัดเจน มากกว่าคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ กลุ่มคนจีนที่มาอยู่จริงนิยมทำเลใกล้รถไฟฟ้า ย่านศูนย์กลางธุรกิจ ทำเลศักยภาพสูงในกรุงเทพฯ หรือหัวเมืองท่องเที่ยว

“สิ่งที่น่าสนใจ คือ นิติบุคคลสัญชาติจีนที่เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นแบบชัดเจนและต่อเนื่องช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แม้จะยังอยู่อันดับ 3 แต่น่าติดตามในระยะยาวว่าจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนหลังจากนี้ ”

นอกจากนี้ คนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยมีทั้งในฐานะพนักงาน หรือธุรกิจของตนเอง ที่น่าสนใจ คือ การเพิ่มขึ้นของคนจีนที่ได้รับใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ขึ้นมาอยู่อันดับ 1 แซงหน้าชาวญี่ปุ่นไปแล้ว! สอดคล้องกับการครองอันดับ 1 ของการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในไทย แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียม แต่จำนวนขนาดนี้เพียงพอที่จะสร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

ขณะที่ “15 อันดับแรก” ของนักศึกษาต่างชาติในระดับอุดมศึกษาที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2567 นักศึกษาจากจีนเป็นอันดับที่ 1 ด้วยจำนวน 23,243 คน ตามด้วยนักศึกษาจากเมียนมา เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมรอบมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั้งในรูปแบบซื้อและเช่า

โดยภาพรวมคนจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะประเทศไทยค่อนข้างเอื้อประโยชน์ในการเข้ามาทำธุรกิจ หรือลงทุน อีกทั้งการตรวจสอบหรือขั้นตอนในการขออนุญาตต่างๆ ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน ทำให้การเข้ามาของคนจีนเพื่ออยู่อาศัยระยะยาวทุกระดับมีมากขึ้น

นี่คือปรากฏการณ์ใหม่ที่ดีเวลลอปเปอร์ไทยต้องจับตา!

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...