สาวเล่าประสบการณ์ จัดงานฌาปนกิจแม่วันเดียวจบ ไม่สนโดนคนอื่นต่อว่า
งานฌาปนกิจ นับว่าเป็นงานอวมงคลที่ไม่มีใครอยากเผชิญ แต่ทั้งนี้ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตมนุษย์ ดังนั้น หลายครอบครัวจึงเลือกที่จะพูดคุยและวางแผนเตรียมการล่วงหน้า เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นเมื่อถึงเวลานั้น เช่นเดียวกับกรณีของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ออกมาเผยเเพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก Napatcha Bualoeng โดยได้โพสต์เล่าประสบการณ์การจัดงานฌาปนกิจคุณแม่แบบ วันเดียวจบ ซึ่งกลายเป็นกระเเสที่ชาวเน็ตให้ความสนใจและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์
เจ้าของโพสต์ระบุว่า คุณแม่ของเธอป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ปี 2567 และรักษาตัวอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในช่วงต้นปี 2568 หลังจากนั้น เธอตัดสินใจจัดงานฌาปนกิจแบบวันเดียว ไม่ได้จัดงานหลายวันเหมือนงานทั่วไป โดยให้เหตุผลว่า ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่สร้างความเหนื่อยล้าให้กับญาติพี่น้อง ไม่ต้องหยุดงานหลายวัน และมุ่งเน้นการทำตามหลักพุทธแบบเรียบง่าย ไม่เน้นพิธีการเยิ่นเย้อ
ในวันเสียชีวิต เวลาประมาณ 05.36 น. ร่างคุณเเม่ของหญิงสาวรายนี้ถูกนำส่งถึงวัดเวลา 12.00 น. จากนั้นมีพิธีสวดอภิธรรมและฌาปนกิจในเวลา 15.00 น. วันรุ่งขึ้น เวลา 06.00 น. มีการเก็บอัฐิ และต่อมาในช่วงสาย 10.00-11.00 น. ได้นำอัฐิไปลอยอังคารด้วยตนเองโดยไม่มีพระนำ รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 35,000 บาท
เจ้าของโพสต์เน้นย้ำว่า งานฌาปนกิจควรเป็นสิ่งที่สอนให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ระลึกถึง มรณานุสติ มากกว่าจะเป็นภาระทางการเงิน จนต้องกู้หนี้ยืมสินมาจัดงานหรูหรา พร้อมทิ้งท้ายว่า ความกตัญญูควรทำตั้งแต่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เพียงมาสร้างภาพในงานวันสุดท้าย ทั้งนี้ หญิงสาวคนดังกล่าวยังเผยอีกว่า หลังพิธีเสร็จสิ้น คุณแม่ยังมาเข้าฝันด้วยสภาพที่ดี ทำให้มั่นใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
โพสต์ดังกล่าว
หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่แล้วต่างก็ชื่นชมในทัศนคติของเธอที่มองว่า งานฌาปนกิจไม่ควรสร้างความเดือดร้อนแก่คนที่ยังอยู่ และสิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลครอบครัวให้ดีที่สุดในตอนที่ยังมีชีวิต