น่านกว่า 50 ครัวเรือนเสี่ยงดินโคลนถล่ม เตรียมอพยพ-ย้ายชุมชนใหม่
น่านกว่า 50 ครัวเรือนเสี่ยงดินโคลนถล่ม ที่ปรึกษามูลนิธิชัยพัฒนาแนะอพยพด่วน–เตรียมแผนย้ายชุมชนใหม่
วันที่ 26 ส.ค.68 พล.อ.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังรับทราบสถานการณ์น่าเป็นห่วง บ้านสบขุ่น หมู่ 7 ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน เสี่ยงเกิดน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนจากดอยยาว ถล่มบ้านเรือนประชาชน ซึ่งปลูกบ้านอาศัยอยู่ในแนวสัน โดยเสี่ยงสูงมากกว่า 50 ครัวเรือนกว่า 200 คน รวมถึงวัดและโรงเรียนในพื้นที่ ที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรง โดยมีพ.อ.ปิยะพงษ์ พรดาผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน 32 พร้อมด้วย นายยุทธนา ดวงประภากรนายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคา พร้อมด้วย นายธีระพันธ์ วาฤทธิ์ กำนันตำบลป่าคา และ นายปิติพงษ์ ธรรมลังกา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ร่วมให้ข้อมูล ซึ่งพบว่า ที่ผ่านมามีบ้านเรือนประชาชนถูกดินสไลด์แล้วกว่า 10 หลังคาเรือน เมื่อช่วงพายุวิภาที่ผ่านมาชาวบ้านต่างต้องพากันนำเสาปูน ไม้ทำแนวกั้นดิน ป้องกันไม่ให้สไลด์เข้าทับถมตัวอาคารบ้านเรือน ท่ามกลางความหวาดกลัวว่า หากฝนยังคงตกต่อเนื่อง ดินภูเขาอาจอุ้มน้ำไม่ไหวและเกิดการถล่มครั้งใหญ่ ซึ่งจะสร้างความเสียหายรุนแรงกว่านี้
นายปิติพงษ์ ธรรมลังกา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา เปิดเผยว่า สำหรับบ้านสบขุ่น ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากอยู่ในแนวเชิงเขาของดอยยาว ซึ่งในช่วงฤดูฝนหากมีฝนตกหนักต่อเนื่องก็มักจะเผชิญกับปัญหาน้ำป่าไหลหลากเป็นประจำ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้ดินอุ้มน้ำในปริมาณมาก จนไม่สามารถรองรับได้ เกิดการไหลหลากของน้ำป่าจากดอยยาวเข้าสู่หมู่บ้าน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่ฝนตกหนัก ชาวบ้านต่างต้องหวาดผวา และเฝ้าระวังกันตลอดทั้งคืน ต้องการให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาศึกษาแนวทางป้องกันภัยพิบัติอย่างยั่งยืน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี
อย่างไรก็ตามหลังรับทราบข้อมูล และตรวจสอบจุดเสี่ยงดินโคลนถล่ม ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ได้แนะนำในขั้นต้นในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยให้อพยพชาวบ้านหลังคาเรือนที่มีความเสี่ยงสูงไปอยู่อาศัยในพื้นที่ปลอดภัยในช่วงนี้ ซึ่งอาจมีฝนตกหนักและเกิดดินสไลด์ได้ และทำประชาคมคนในหมู่บ้านในการย้ายบ้านที่เสี่ยงภัยออกไปตั้งที่แห่งใหม่ เพื่อความปลอดภัยในระยะยาว ทั้งนี้จะนำข้อมูลที่ได้รับทราบไปหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป