ศาลอินเดียสั่งย้ายสุนัขจรจัดจากกรุงเดลี หลังผู้ป่วยพิษสุนัขบ้าสูงขึ้น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (12 สิงหาคม) ศาลสูงอินเดียได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ในกรุงเดลี ให้เริ่มนำสุนัขจรจัด 5,000 ตัวออกไปจากพื้นที่เสี่ยงสูง ทำหมันพวกมัน และจัดการพาพวกมันไปไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ถาวร
“ทารก และเด็ก ๆ ไม่ควรตกเป็นเหยื่อของโรคพิษสุนัขบ้า ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และพวกเขาควรได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจโดยที่ปราศจากความหวาดกลัวว่าจะถูกสุนัขกัด และไม่ควรมีฝ่ายใดมีอารมณ์ความรู้สึกร่วมกับเรื่องนี้” ศาลระบุ
รัฐบาลอินเดียเปิดเผยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า มีรายงานสุนัขกัดคนทั่วประเทศเกือบ 430,000 กรณีในเดือนมกราคม ขณะที่ตลอดปี 2024 มีเหตุสุนัขกัดราว 3.7 ล้านกรณี
ขณะที่สถิติจากโรงพยาบาลพบว่า มีรายงานคนถูกสุนัขกัดเกือบ 2,000 กรณีต่อวันในกรุงเดลี ซึ่งศาลระบุว่าเป็นตัวเลขที่อันตรายมาก และมีผลเลวร้ายต่อสาธารณะ
ข้อมูลจากหน่วยงานสำรรวจสุนัขจรจัด พบว่า อินเดียมีสุนัขจรจัดราว 52.5 ล้านตัว ขณะที่มีราว 8 ล้านตัวที่อยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์แล้ว - ขณะที่เฉพาะในกรุงเดลี อาจมีสุนัขจรจัดมากถึง 1 ล้านตัว จึงมีรายงานสุนัขกัดเด็กในเมืองหลวงมากขึ้นเรื่อย ๆ และบางกรณีมีอาการร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นว่าให้ทำหมันพวกมันเพื่อป้องกันการขยายพันธุ์ แต่การทำเช่นนั้นยังไม่อาจยับยั้งโรคพิษสุนัขบ้าได้ทั้งหมด และยังมีเสียงวิจารณ์เรื่องการย้ายถิ่นสุนัขจรจัดเหล่านี้ ว่าจะนำไปไว้ที่สถานสงเคราะห์แห่งใด หรือที่ไหนที่จะสามารถรองรับในปริมาณมาก ๆ ได้ - ขณะที่บางคนแสดงความเห็นว่าควรต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าครั้งใหญ่และการทำหมันหมู่ ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่มีมนุษยธรรมและได้รับการพิสุจน์แล้วว่าสามารถลดปัญหานี้ลงได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พิษสุนัขบ้า กำลังระบาดหนัก เป็นแล้วไม่มีทางรอด ภูมิคุ้มแทบป้องกันไม่ได้
- อินเดียระงับซื้ออาวุธสหรัฐฯ ตอบโต้มาตรการภาษีทรัมป์
- ทรัมป์เพิ่มภาษีอินเดียอีก 25 เปอร์เซ็นต์ รวม 50 เปอร์เซ็นต์ สูงที่สุดในทุกชาติที่สหรัฐฯ เรียกเก็บ
- "อินเดีย" อ่วม ทรัมป์ขึ้นภาษีอีกรอบ พุ่งแตะ 50% ตอบโต้ยังซื้อน้ำมันรัสเซีย ชี้หนุนสงครามยูเครน
- รัสเซียประณามสหรัฐฯ ใช้ภาษีกดดันอินเดีย กรณีซื้อพลังงานรัสเซีย