อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ส่อวิกฤต 'ฝนทิ้งช่วง' มีน้ำใช้แค่ 22% เตรียมแผนรับมือบูรณาการทุกภาคส่วน
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม นายสมชาย อังศิริลาวัลย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา ได้รายงานสถานการณ์น้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่ของ จ.นครราชสีมา ว่าอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ทั้ง 24 แห่ง มีปริมาตรน้ำเก็บกักรวม คงเหลืออยู่ที่ 149.61 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 44.62% เป็นน้ำใช้การได้ 124.24 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 40.08% ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง ของ จ.นครราชสีมา ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ที่ อ.สีคิ้ว, อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย, อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี และอ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาตรน้ำเก็บกักคงเหลือ รวมอยู่ที่ 341.53 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 38.57% เป็นน้ำใช้การได้ 304.09 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 35.86% โดยอ่างเก็บน้ำลำแชะเหลือน้ำมากสุด เกิน 50% ในขณะที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง เหลือน้ำน้อยสุด ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ “น้ำน้อยวิกฤต” โดยเหลือน้ำแค่ 69.27 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 22.03% และเป็นน้ำใช้การได้เพียง 46.55 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 15.96% เท่านั้น
นายสมชายกล่าวว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ถือเป็นเส้นเลือดหลักหล่อเลี้ยงชาว จ.นครราชสีมา ถึง 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่ต้นปี 2568 มีน้ำไหลลงอ่างฯสะสมอยู่ที่ 56.54 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 21.75% ของค่าเฉลี่ย 260 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่สถานการณ์ปัจจุบันของอ่างเก็บน้ำลำตะคองยังน่าเป็นห่วง เพราะปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างฯยังน้อย อีกทั้งเลยครึ่งปีไปแล้วแต่ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างฯยังมีเพียง 22% ของความจุเท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอ
นายสมชายกล่าวว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้กำหนดแผนบริหารจัดการน้ำและวางเป้าหมายไว้ว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ระดับน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำลำตะคองจะต้องมีน้ำต้นทุนคงเหลือไม่น้อยกว่า 80% เพราะจะต้องสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งให้เพียงพอ โดยหากเกิดกรณีน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง เหลือไม่ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ทางกรมชลประทาน จ.นครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมเตรียมแผนรับมือป้องกันสถานการณ์กรณีฝนทิ้งช่วงและภัยแล้งเป็นการล่วงหน้า โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย และติดตามรายงานปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างฯ และปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างฯ รวมไปถึงสร้างแหล่งกักเก็บน้ำใหม่ สร้างระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ
นายสมชายกล่าวว่า ที่สำคัญคือ บูรณาการทุกภาคส่วน ร่วมวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างจำกัดในสถานการณ์วิกฤต โดยให้ความสำคัญกับน้ำอุปโภคบริโภคเป็นหลักก่อน และรักษาระบบนิเวศลำน้ำ ควบคู่ไปกับสร้างความเข้าใจร่วมกันกับประชาชน ให้ช่วยกันประหยัดน้ำและตระหนักถึงความสำคัญของการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ซึ่งการผลิตประปาในเขตเทศบาลนครราชสีมา ประปาภูมิภาคสีคิ้ว รวมถึงประปาของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ที่ขอรับการสนับสนุนน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ยืนยันว่ายังมีน้ำรองรับการส่งจ่ายให้ผลิตประปาอุปโภค-บริโภคได้อย่างเพียงพอ ส่วนน้ำเพื่อภาคอุตสาหกรรมมีการส่งจ่ายตามแผนที่กำหนดไว้ และภาคการเกษตรในช่วงฤดูฝนให้อาศัยน้ำฝนเป็นหลักก่อน ซึ่งหากพื้นที่เกษตรในเขตชลประทานพื้นที่ใดประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูเพาะปลูกนี้ ทางชลประทานจะมีการส่งจ่ายน้ำไปช่วยเหลือตามแผนบริหารจัดการที่วางไว้
“คาดว่าในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จะมีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำลำตะคองมากขึ้น แต่ทั้งนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่นอนว่าปีนี้จะมีน้ำไหลเข้าอ่างเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายลักษณะอากาศในระยะ 3 เดือน ตั้งแต่สิงหาคม-ตุลาคม 2568 ว่าปริมาณฝนรวมประเทศไทยส่วนใหญ่จะมากกว่าค่าปกติร้อยละ 10 ยกเว้น บริเวณภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีปริมาณฝนรวมมากกว่าค่าปกติร้อยละ 5 โดยเดือนกันยายน ปริมาณฝนรวมบริเวณประเทศไทยจะใกล้เคียงค่าปกติ ยกเว้นบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีปริมาณฝนรวมมากกว่าค่าปกติ ร้อยละ 5 โดยจะมีปริมาณฝนรวมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 250-300 มิลลิเมตร” นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวว่า ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 สิงหาคมนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 3 (206/2568) เรื่อง พายุดีเปรสชั่น และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เนื่องจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ที่กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25-26 สิงหาคม ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ส่อวิกฤต ‘ฝนทิ้งช่วง’ มีน้ำใช้แค่ 22% เตรียมแผนรับมือบูรณาการทุกภาคส่วน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th