ปิดฉากตำนาน 10 ปี “ซน ฮึง-มิน” กับ สเปอร์ส

ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ ประกาศอำลา ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เรียบร้อยแล้ว หลังจากร่วมงานกันมาเป็นเวลา 10 ปีเต็ม และการตัดสินใจครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอล “ไก่เดือยทอง” เป็นอย่างมาก

ซน ย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน มาค้าแข้งกับ สเปอร์ส ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ และทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการยิงไป 173 ประตู จากการลงสนาม 454 นัด รวมทั้งพาทีมคว้าแชมป์แรกในรอบ 17 ปี ได้สำเร็จ หลังเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปาลีก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ดาวยิง วัย 33 ปี ซึ่งยังมีสัญญากับ สเปอร์ส จนถึงปี 2026 ย้ายไปร่วมทีม ลอสแอนเจลิส เอฟซี ในศึก เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร และเจ้าตัวก็ยอมรับว่า เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดในอาชีพนักฟุตบอล

ซน กล่าวว่า “ผมย้ายมาลอนดอนตอนเหนือตั้งแต่ยังเด็กมาก แม้ตอนนั้นผมยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่การเดินออกจากสโมสรแห่งนี้ในฐานะผู้ใหญ่เป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และการคว้าแชมป์ยุโรปกับ สเปอร์ส คือ ประสบการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนบรรลุเป้าหมายในฐานะนักฟุตบอลแล้ว”

ซน สวมปอกแขนกัปตันทีมลงเล่นนัดอุ่นเครื่องที่ สเปอร์ส เสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของเขาในสีเสื้อพลพรรค “ไก่เดือยทอง” ก่อนจะได้กล่าวคำอำลาต่อหน้าแฟนบอลในบ้านเกิด

โธมัส แฟรงค์ กุนซือคนใหม่ สเปอร์ส ที่เข้ามารับหน้าที่แทน อันจ์ ปอสเตโคกลู กล่าวว่า “ซน คือหนึ่งในตำนานที่แท้จริงของ ทอตแนม และเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก นี่คือเกมสุดท้ายของเขากับสโมสร การได้เล่นในบ้านเกิดจะเป็นช่วงเวลาที่น่ายิ่งใหญ่สำหรับแฟนบอลทุกคน”

นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับ สเปอร์ส ในปี 2015 ซน ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ไปทั้งหมด 333 นัด ซัดไปถึง 127 ประตู เทียบเท่ากับ จิมมี ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ อดีตกองหน้า เชลซี ที่รั้งอันดับ 16 ในรายชื่อผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาล และยังมีสถิติที่เหนือกว่าผู้เล่นระดับตำนานอย่าง ดไวท์ ยอร์ค, สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เอียน ไรท์ อีกด้วย

นอกจากนี้ ซน ยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่ได้รับรางวัลรองเท้าทองคำของ พรีเมียร์ลีก โดยคว้ารางวัลร่วมกับ โมฮาเหมด ซาลาห์ ปีก ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2021-22 ด้วยจำนวนประตู 23 ลูก และอีก หนึ่งปีต่อมา เขาก็กลายเป็นผู้เล่นคนแรกจากทวีปเอเชียที่ยิงประตูครบ 100 ลูก ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

การจากไปของ ซน ถือว่าสร้างความเสียหายในเกมรุกให้กับ สเปอร์ส อย่างมาก และเป็นปัญหาใหญ่ที่ แฟรงค์ ต้องหาคนมาทดแทน แต่ในฐานะนักเตะที่เคยสร้างความสำเร็จ และเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร นั้น ทุกคนในทัพ “ไก่เดือยทอง” ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของเจ้าตัวเช่นกัน

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก : Tottenham Hotspur