"วิโรจน์" เตือนสติคนไทย รับมือให้ดี ชี้ "ฮุน เซน" เป็นบิดาสแกมเมอร์ ตัวพ่ออาชญากรรมไซเบอร์
(27 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยการประชุมลับที่เกี่ยวกับการตรวจสอบเครือข่ายทุนผิดกฎหมายในกัมพูชา ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับอาชญากรรมข้ามชาติในไทย อาทิ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ , การพนันออนไลน์ , การค้ามนุษย์ และยาเสพติด โดยเชิญตัวแทนเหล่าทัพ อดีตเลขาฯ ปปง. และหน่วยความมั่นคงเข้าร่วม
ทั้งนี้ กมธ.กำลังขอข้อมูลธุรกรรมการเงินย้อนหลัง 10 ปี ระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อวิเคราะห์เส้นทางเงิน หากพบธุรกรรมผิดปกติ อาจยื่นเสนอให้นำกัมพูชากลับเข้าสู่ “บัญชีเทา” หรือ “บัญชีดำ” ของหน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น ICRG ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกรรมทางการเงินกับกัมพูชาถูกจับตามองอย่างเข้มงวดอีกครั้ง
นายวิโรจน์ ระบุว่า บริษัท Huione ซึ่งเชื่อมโยงกับตระกูล “ฮุน” ของกัมพูชา อาจเป็นศูนย์กลางทางการเงินของเครือข่ายผิดกฎหมาย ดังนั้น หากรัฐบาลไทยจริงใจ ก็สามารถร่วมมือกับสหรัฐฯ และหน่วยงานสากลในการสอบสวนได้ และยังแสดงความกังวลกรณีที่สมเด็จฮุน เซน ขู่ว่าจะเปิดเผยรายชื่อนักการเมืองไทย 7 คน ที่พัวพันการฟอกเงินในกัมพูชา แต่รัฐบาลไทยกลับไม่แสดงท่าทีใดๆ โดยตั้งข้อสงสัยว่า อาจมีเครือญาตินายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีอยู่ในรายชื่อดังกล่าว หากเปิดเผยแล้วจะเข้าข่ายรวยผิดปกติ-ทุจริต และเป็นมูลเหตุให้ ปปง.เข้าสอบและอายัดทรัพย์ได้
นอกจากนี้ เสนอให้รัฐบาลไทยลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติ UNCC2024 ว่าด้วยอาชญากรรมไซเบอร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการร่วมมือระหว่างประเทศ ตรวจสอบ และขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ ส่วนการควบคุมด่านชายแดนอาจกระทบเศรษฐกิจในหลายจังหวัด แต่ทางออกที่ดีกว่าคือ “ตีไปที่กระเป๋าตระกูลฮุน” ด้วยมาตรการการเงิน จะมีประสิทธิภาพสูงสุดในการสกัดอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมเตือนว่าหากข้อมูลเรื่องการลอบสังหาร “ลิม กิมยา” จริง จะทำให้ฝรั่งเศสและนานาชาติกดดันกัมพูชาอย่างหนัก - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน