ชี้สถานการณ์ไทย-กัมพูชาเป็นมากกว่าเรื่องดินแดน
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 0.53 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทนิวยอร์ก 27 ก.ค.- นิตยสารไทม์ของสหรัฐลงบทความวิเคราะห์สถานการณ์ไทยกับกัมพูชาในขณะนี้ว่า เป็นเรื่องอื่นที่มีความสำคัญมากกว่าเรื่องดินแดน
บทความของชาร์ลี แคมป์เบลล์ บรรณาธิการอาวุโสระบุว่า เหตุทะเลาะเบาะแว้งเรื่องดินแดนที่เกิดขึ้นทั่วโลก เห็นได้ชัดว่ามีเหตุจำนวนมากที่เป็นการเบี่ยงเบนด้วยกระแสคลั่งชาติ (jingoistic distraction) แม้เหตุเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่การปะทะที่ยืดเยื้อมักเกิดขึ้นจากจุดประสงค์ที่ชัดเจน
บทความเล่าถึงการปะทะที่เกิดขึ้นใกล้ปราสาทตาเมือนธมเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ทำให้พลเรือนในไทยเสียชีวิต 1 คน ทหารเสียชีวิต 1 นาย เป็นเหตุให้มีการตอบโต้กันทั้งทางการทหารและทางการทูตจนถึงขณะนี้ นายแคมป์เบลล์ระบุว่า ปัญหาบริเวณชายแดนที่ทั้ง 2 ประเทศมีพรมแดนติดกันยาว 817 กิโลเมตรไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนงุนงงกับการปะทะล่าสุด คือ การที่สองตระกูลทรงอิทธิพลทางการเมืองของสองประเทศกลับกลายมาเป็นปรปักษ์กัน ทั้งที่เคยสนิทสนมกันมาก่อน
ผู้เขียนชี้ว่า มีปัจจัยไม่กี่อย่างที่จูงใจอย่างชัดเจนให้นายฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชาทำให้เหตุทะเลาะครั้งนี้ยืดเยื้อ หนึ่งในนั้น คือ สภาพเศรษฐกิจกัมพูชาขณะนี้ไม่ดีนัก เขาอาจใช้โอกาสนี้เปิดทางให้นายฮุน มาเนต บุตรชายได้แสดงความเป็นผู้นำในฐานะนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้นายฮุน เซนยังอาจต้องการเบี่ยงเบนเรื่องที่บุตรชายล้มเหลวในการแก้ปัญหา “โรคหลอกลวงระบาด” (scamdemic) ตามที่สหประชาชาติเรียกขาน ประเมินกันว่า ธุรกิจผิดกฎหมายในกัมพูชา ทั้งบ่อนกาสิโน การค้ามนุษย์ และแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ครองสัดส่วนถึงร้อยละ 40 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ของกัมพูชา เรื่องราวซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่อรัฐบาลแพรทองธาร ชินวัตรเดินหน้านโยบายกาสิโนในไทย เพราะจะเป็นการตัดรายได้ก้อนใหญ่ที่จะไหลเข้าตระกูลฮุนและกัมพูชา
บทความปิดท้ายด้วยการอ้างนายฟิล โรเบิร์ตสัน ผู้อำนวยการกลุ่มสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและแรงงานเอเชีย (AHRLA) ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ว่า สุดท้ายแล้วทั้ง 2 ประเทศจะเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการปะทะครั้งนี้ ฝ่ายไทยจะดูอ่อนแอและแตกแยก ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาซึ่งเป็นภาพตัวแทนเหยื่อความโหดร้ายของทุ่นระเบิดได้ทำให้นานาชาติไม่พอใจอย่างยิ่ง เมื่อทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดที่กัมพูชาเพิ่งฝังใหม่ กัมพูชารับเงินบริจาคจากต่างชาติมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 16,215 ล้านบาท) เพื่อเก็บกู้ทุ่นระเบิดมากกว่า 6 ล้านลูกที่กระจัดกระจายอยู่ประเทศ เฉพาะสหรัฐบริจาคเงินให้กัมพูชาในการนี้ 208 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,745 ล้านบาท) มาตั้งแต่ปี 2536.-814.-สำนักข่าวไทย