โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2568

สวพ.FM91

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2568

>> ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สนธิกำลัง ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ทั้งผู้ค้า ผู้เสพ ทั่วอำเภอบางละมุง

06.06 น. นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางละมุง สภ.หนองปรือ สภ.เมืองพัทยา สภ.ห้วยใหญ่ สนธิกำลังกันปล่อยแถวออกกวาดล้างยาเสพติด

โดย สภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 2 จุด ในพื้นที่หมู่ 9 บ้านนาวัง ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จุดแรก เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านพักที่ปลูกอยู่ในป่าริมทาง ลักษณะเป็นกระต๊อบสังกะสี ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนจุดที่สอง เป็นบ้านพักอีกหลังในพื้นที่เดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจพบพฤติกรรมการเสพยาเสพติด และควบคุมตัวผู้เสพได้จำนวนหนึ่ง เพื่อนำตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

สภ.หนองปรือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ลงพื้นที่ตรวจค้น 5 เป้าหมาย คือ ภายในซอยมาบยายเลีย 14 ซอยพรประภานิมิตร 12 ใกล้เคียงซอยบุญสัมพันธ์ 9 ซอยหนองน้ำเต้า 8 และชุมชนใกล้แคมป์ช้าง ซึ่งสามารถจับกุมผู้กระทำผิดทั้งผู้ค้าและผู้เสพ ได้ยาเสพติดประเภทที่หนึ่ง ยาบ้า 62 เม็ด ยาไอ-ซ์ 10 กรัม และผู้ที่มีสารเสพติดอีกนับ 6 ราย

สภ.เมืองพัทยา พร้อมชุดปราบปรามยาเสพติด 10 นาย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เข้าตรวจสอบชุมชนจอมเทียนซอย 2 ผลการตรวจไม่พบผู้กระทำผิด และตรวจค้นรถซึ่ง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด คาดว่ากลุ่มผู้ค้า และผู้เสพเฝ้าระวังตัวจากการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้กระทำผิดได้ติดกล้องวงจรปิดเพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่อีกด้วย

สภ.ห้วยใหญ่ นาย ธฤต จันทร์จรูญ ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ ตรวจสอบเป้าหมายซอยน้ำตกโกรกหมาตาย ม.6 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง ได้ผู้ต้องหาตามหมายจับ นายเอ อายุ 29 ปี พร้อมลูกน้องสองคน และพบยาไอซ์ 2 ถุง ยาบ้าอีก 8 เม็ด และผู้ที่มีสารเสพติดในร่างกาย 5 คน

>> สธ.เผยคนไทยชายแดนกัมพูชา มีความเครียดสูง 2,151 คน เสี่ยงคิดสั้น 267 คน

10.00 น. กระทรวงสาธารณสุข อัปเดตข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบ (ฝั่งพลเรือน) จากสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ผลกระทบทางตรง เสียชีวิต 14 คน, บาดเจ็บสาหัส 12 คน, บาดเจ็บปานกลาง 13 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 13 คน รวม 52 คน

ผลกระทบทางอ้อม เสียชีวิต 3 คน รวมพลเรือน เสียชีวิต 17 คน ไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน (31 ก.ค. 68) และปัจจุบันมีผู้กำลังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 9 คน เป็นผู้ป่วยระดับสีแดง 6 คน สีเหลือง 3 คน กลับบ้านไปแล้ว 21 คน สำหรับโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ รวม 17 แห่ง ปิดบริการทั้งหมด รวม 9 แห่ง ปิดบางส่วน รวม 8 แห่ง ส่วน รพ.สต.ได้รับผลกระทบ รวม 137 แห่ง แบ่งเป็น ปิดบริการทั้งหมด 126 แห่ง ปิดบางส่วน 11 แห่ง

ส่วนทีมปฏิบัติการด้านสาธารณสุข กำลังลงปฏิบัติงาน จำนวน 457 ทีม เตรียมพร้อมไว้ทั้งหมดรวม 1,166 ทีม และ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันลงพื้นที่ โดยการดำเนินงานด้านการดูแลด้านสุขภาพจิต ได้คัดกรองไปแล้ว 55,955 คน พบเครียดสูง 2,151 คน และเสี่ยงฆ่าตัวตาย 267 คน

>> ไทยส่งทหารกัมพูชาป่วยหนัก 2 นายกลับประเทศ ตามหลักมนุษยธรรม

12.13 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ณ จุดผ่านแดนถาวร ช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ จุดประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอกาบเชิง ได้ดำเนินการส่งตัวทหารกัมพูชาจำนวน 2 นาย จากทั้งหมด 20 นาย กลับประเทศกัมพูชาตามกฎบัตรสหประชาชาติและอนุสัญญาเจนีวา ในสถานะเชลยศึก เนื่องจากมีอาการป่วยหนักและเป็นผู้ป่วยจิตเวช

ทหารกัมพูชาที่ถูกส่งกลับ ได้แก่ สิบเอก มอม ริทธี มีอาการแขนหักและบาดแผลติดเชื้อ ซึ่งได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว และ ว่าที่ร้อยตรี อาง เอือง ซึ่งมีอาการทางจิตจากการสู้รบและได้รับการบำบัดจนสามารถดูแลตนเองได้ ก่อนหน้านี้ทั้งสองนายเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์

เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนยืนยันการปฏิบัติงานตามหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้ง พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานและอุ้มหาย และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง โดยทหารทั้งสองนายได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่เข้าร่วมการรบกับฝ่ายไทยอีก ส่วนทหารกัมพูชาอีก 18 นายที่เหลือ อยู่ระหว่างการสอบสวนและเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหา "เข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต"

>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถนั่งส่วนบุคคลเข้าอย่างจังกลางถนน หนุ่มเมียนมา วัย 23 ปีเสียชีวิต

12.45 น. มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนแสงชูโต สายเก่า ใกล้เคียงทางเข้าหมู่บ้านเอื้ออาทรวังขนาย ม.3 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า วีออส สีเทา ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว ใกล้กันพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ทางอาสาสมัครช่วยเหลือและนำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายส่ง รพ.สมเด็จฯ19 (ท่าม่วง) ส่วนอีก 1 รายนั้น ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชาย อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา ในส่วนของสาเหตุอย่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง

>> "จอนนี่มือปราบ" เข้าพบ “บิ๊กเต่า” เพื่อขอความเห็นใจ คดีรีสอร์ตรุกที่ดินป่าไม้

13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ "จอนนี่ มือปราบ" เดินทางมาขอเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อนำพานพวงมาลัยมาไหว้ขอความเห็นใจ หลังตัวเองถูกตำรวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตรวจสอบดำเนินคดีกรณีสร้างรีสอร์ตบุกรุกพื้นที่ เข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี โดยไม่ได้รับอนุญาต ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวยอมรับว่า วันนี้ ด.ต.ยุทธพล หรือ "จอนนี่ มือปราบ" มาขอเข้าพบ พร้อมนำพานดอกไม้มาไหว้ขอความเห็นใจจริง ซึ่งตนรับฟังคำอธิบายของเจ้าตัว แต่ในส่วนของคดีจะผิดหรือถูก ต้องว่าไปตามหลักฐานข้อเท็จจริง ทั้งนี้ขอยืนยันว่า ตนกับ "จอนนี่ มือปราบ" ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางส่วนตัวกัน

ขณะที่ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า ขณะนี้ได้รับประสานจากอธิบดีกรมป่าไม้ว่า สัปดาห์หน้าจะส่งตัวแทนเจ้าหน้าที่ป่าไม้อุบลราชธานี เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปทส. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีรีสอร์ตดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องบุกรุกที่ดินป่าไม้ โดยหลังรับแจ้งความเรียบร้อยแล้ว จะทำหนังสือเรียกภรรยาของจอนนี่ มือปราบ ที่มีชื่อเป็นเจ้าของรีสอร์ต และเป็นผู้ทำเรื่องยื่นขอบ้านเลขที่ ไฟฟ้า รวมถึงน้ำประปา มารับทราบข้อกล่าวหา จากนั้นจะนำกำลังลงพื้นที่ปักป้ายอายัดพื้นที่รีสอร์ตและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดอีกที

>> อัยการเรียกสอบพยาน 6 ปาก ปมคลิปเสียงนายกฯ–ฮุนเซน มั่นใจสรุปสำนวนภายใน ส.ค.

13.39 น. รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เผยความคืบหน้าคดีคลิปเสียงนายกฯ แพทองธาร กับสมเด็จฮุนเซน โดยระบุว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญพยาน 6 ปาก ประกอบด้วยผู้กล่าวหา เจ้าหน้าที่ไซเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญเฟซบุ๊ก และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์เข้าสอบปากคำเพิ่ม

ย้ำยังไม่ถึงขั้นเรียกสอบนายกฯ เพราะต้องสอบฝ่ายร้องก่อน หากสอบไม่ทันในสัปดาห์หน้า อาจขยายเวลาได้อีกไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ แต่ยืนยันจะสรุปสำนวนเสนออัยการสูงสุดชี้ขาดได้ภายในเดือนสิงหาคม

กรณีฮุนเซนอ้างว่าเป็นเฟซบุ๊กปลอม อัยการย้ำสามารถตรวจสอบผู้ใช้ได้จากหลักฐานดิจิทัล พร้อมรอผลวินิจฉัยว่าจะมีการออกหมายจับหรือหมายแดงหรือไม่ ทั้งนี้ คดีจะถือว่าสิ้นสุดหากอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง

ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 ระบุมีหลักฐานเพียงพอดำเนินคดีหลังได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด เบื้องต้นพบแอดมินผู้โพสต์คลิปเสียงอยู่ในกัมพูชา ชี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้

>> รถแบ็คโฮเก็บขยะน้ำท่วมพบ "ลูกระเบิดปืน ค." กลางเมืองน่าน

14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดเหตุระทึกกลางเมืองน่าน เมื่อเจ้าหน้าที่ทีมเก็บขยะจากน้ำท่วมของเทศบาลเมืองน่าน พร้อมรถแบ็คโฮเข้าดำเนินการเคลียร์เศษซากวัสดุและขยะในพื้นที่บริเวณระหว่างซอยโรงกลึงอำนวยพร – บ้านนายนรินทร์ เหล่าอารยะ อดีตนายก อบจ.น่าน

ขณะทำงาน เจ้าหน้าที่พบ วัตถุต้องสงสัย ลักษณะคล้าย ลูกระเบิดปืน ค. (คละขนาด) ปะปนมากับขยะมูลฝอยและเศษวัสดุหลังน้ำลด ซึ่งยังอยู่ใน สภาพที่อาจใช้งานได้ สร้างความตกใจให้แก่เจ้าหน้าที่เป็นอย่างมากเจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้ง ศูนย์วิทยุ 191 จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชาญณรงค์ รัชตประทาน ผกก.สภ.เมืองน่าน ทราบรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมประสานงานกับ ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ของจังหวัดน่าน และจนท.ฝ่ายทหารเข้าตรวจสอบโดยด่วน ขณะเดียวกัน ได้ทำการกั้นพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย และป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว

ล่าสุด หน่วยเก็บกู้ระเบิดอยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และดำเนินการตามขั้นตอนมาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยคาดว่าจะมีการเก็บกู้เพื่อนำไปทำลายอย่างปลอดภัยต่อไป

เหตุการณ์ครั้งนี้ตอกย้ำถึง ความเสี่ยงแฝงในพื้นที่หลังน้ำท่วม ซึ่งอาจมีวัตถุอันตรายซุกซ่อนอยู่ในซากขยะและดินโคลน จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ระมัดระวัง และหากพบสิ่งผิดปกติรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

>> ไฟฟ้าลัดวงจรภายในห้องพัก ซอยมิตรวิถี 2 ประชาชนช่วยกันใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

14.01 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยมิตรวิถี 2 ถนนพระราม 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุ เป็นอาคารเช่าพักอาศัยโครงสร้างไม้ 2 ชั้น ประกอบกิจการให้เช่าพักอาศัย แบ่งออกเป็นจำนวน 8 ห้อง ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นที่ 2 ห้องที่ 3 ซึ่งภายในห้องแบ่งให้เช่า เพลิงลุกไหม้เสียหายปั๊มลมไฟฟ้า เบรกเกอร์ไฟฟ้า ลุกลามวงกบ ประตู ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปั๊มลมไฟฟ้า ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหัวหมาก

>> ไทยบรรลุข้อตกลงภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 19%

14.40 น. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมเรื่องมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) โดยรัฐบาลไทยได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการถึงอัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจากประเทศไทยที่สหรัฐอเมริกาจะเรียกเก็บในอัตราร้อยละ 19 ถือเป็นข้อตกลงเบื้องต้น ยังไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย และจะต้องเข้าสู่กระบวนการเจรจารายละเอียดต่อไป

ทั้งนี้ รัฐบาลมีแผนเตรียมมาตรการรองรับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนด้านภาษี พร้อมทั้งยืนยันว่า การใช้สิทธิภาษี 0% สำหรับสินค้าบางรายการยังต้องดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย และอาจมีการจำกัดปริมาณหรือขอเวลาผ่อนปรนเพิ่มเติมในบางกรณี

>> ตรวจทำลายวัตถุระเบิดที่ยังไม่ได้ระเบิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภัยอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สิน

16.50 น. ตํารวจภูธรภาค 3 ได้รับแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด สภ.น้ำขุ่น พ.ต.อ.ภูเพชร ลีเลิศ ผกก.สภ.น้ำขุ่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในสังกัดฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองประกอบด้วย จ่าอากาศเอกวิทมนต์ ไชยมงคล นายอำเภอน้ำขุ่น และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอน้ำขุ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร และเจ้าหน้าที่เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด และ ผู้ครอบครองที่ดินที่วัตถุระเบิดตกอยู่

ร่วมกันออกตรวจสอบวัตถุระเบิด ลูกจรวดหรือ ลูกปืนใหญ่ จากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชาระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 ถึง 29 กรกฎาคม 2568 จำนวน 1 ลูก ในพื้นที่ หมู่ 5 บ้านโนนแสงเพชร ตำบลโคกสะอาด อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจากการตรวจสอบ ทุกฝ่ายพิจารณาแล้วมีความเห็นร่วมกันว่าเห็นควรทำลายวัตถุระเบิดที่ยังไม่ได้ระเบิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภัยอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินและภายหลัง จึงได้ทำลายเป็นที่เรียบร้อย

>> ไม่รอดด่านตรวจ ตำรวจ สภ.ฉลอง จับหนุ่มไนจีเรีย ซุกโคเคนเพียบ

17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง พร้อมด้วย ฝ่ายปกครองตำบลฉลอง ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา เป็นผู้ชาย สัญชาติไนจีเรีย พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคเคน รวมถุง 73.31 กรัม สามารถจับกุมได้ที่ ถนนเหมืองเจ้าฟ้า ม.1 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้มีการตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัดบริเวณถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ระหว่างนั้นได้มีรถเก๋งขับเข้ามาที่ด่านซึ่งมีชาวต่างชาติเป็นผู้ขับขี่และได้เร่งเครื่องยนต์หลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถไล่ตามจนสามารถจับกุมได้ในที่สุด และได้มีการค้นภายในรถจนพบโคเคนดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคเคน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงจัดทำบันทึกจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อไป

>> พบร่างชายวัย 49 ปีเสียชีวิตที่ร่องกลางถนนหมายเลข 41 จ.สุราษฎร์ธานี

17.41น. รับแจ้งจาก อาสากู้ภัยพุนพิน ตรวจสอบเหตุ พบผู้เสียชีวิต ที่ร่องกลาง ถนนหมายเลข 41 ใกล้เคียงหน้าตลาดนายพัน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

ที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณร่องดินตรงกลางริมถนนระหว่างฝั่งขาเข้าและขาออก พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ลักษณะ นอนหงาย ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ นายวีรพงษ์ อายุ 49 ปี

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน มอบให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตร ร.พ ท่าโรงช้าง เพื่อหาสาเหตุและประสานญาติมาดำเนินการต่อไป

>> รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน กลางถนนเทพรัตน (บางนาตราด) ขาเข้า ช่วง กม.10 ในช่องทางหลัก มีผู้เสียชีวิตและเจ็บหลายราย

00.45 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บนถนนเทพรัตน (บางนาตราด) ขาเข้า ช่วง กม.10 ช่องทางหลัก กีดขวางช่องทางขวา, กลาง ในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

อาสากู้ภัยจุดบางพลี คืบหน้า ที่เกิดเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน 5 คัน ตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย อายุประมาณ 20 ปี และ มีผู้บาดเจ็บรวม 4 ราย อาสานำส่ง รพ.พริ๊นซ์ สุวรรณภูมิ 1 ราย และยังมีบาดเจ็บ 3 ราย ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือ และพบว่ามีเสียชีวิตต่อมา ชาย 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมตอนนี้ 2 ราย ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว

>> คนร้ายขับกระบะลงมารัวยิง หนุ่มวัย 38 ปีดับหน้าอพาร์ทเมนท์ย่านท่าข้าม ก่อนขับรถหลบหนี ตร.เร่งสอบสวนติดตามจับกุม

02.19 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เบื้องต้น ตรวจสอบเหตุผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืน เป็นชาย 1 ราย อายุ 30 -35 ปี มีบาดแผลที่หน้าท้องลำตัว บริเวณหน้าอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ซอยท่าข้าม 6 ในพื้นที่ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

อาสา ม.ป่อเต็กตึ๊ง จุดท่าข้าม คืบหน้า เมื่อเวลา 01.40 น. รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันและมีผู้บาดเจ็บ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นบริเวณทางเดินข้างตึก พบร่างของผู้บาดเจ็บ ชาย 1 ราย ลักษณะถูกยิงด้วยอาวุธปืน ไม่ทราบชนิด มีบาดแผลที่ลำตัว นอนหมดสติ ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นชายไทย อายุประมาณ 38 ปี

จากการสอบถามชาวบ้าน เบื้องต้น ได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตนั่งดื่มเบียร์อยู่ข้างตึกกับผู้หญิง 1 คน ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุ เป็นผู้ชาย ได้ขับรถกระบะมาจอด แล้วเดินลงไปตกลงกับผู้เสียชีวิต ก่อนจะมีปากเสียง แล้วเสียงปืนดังขึ้น ก่อนรถกระบะจะขับหลบหนีไป ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม อยู่ระหว่างการสอบสวน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สวพ.FM91

รัฐบาล เตือน "โรคไข้ดิน" อันตราย ป่วยแล้ว 2,036 ราย เสียชีวิต 92 ราย

30 นาทีที่แล้ว
วิดีโอ

จับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ จับ 100 เม็ด สู่ยึด 100 ไร่

35 นาทีที่แล้ว
วิดีโอ

ปรากฏการณ์หายาก! พบปูเจ้าฟ้าสีขาว-ม่วง อวดโฉมบนพะเนินทุ่ง ก่อนปิดพื้นที่อนุรักษ์

57 นาทีที่แล้ว
วิดีโอ

PDPA ปรับแล้ว 1.2 ล้านบาท หลังพบ ถุงขนมโตเกียวรียูส (Reuse) จากเวชระเบียนผู้ป่วย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

สยบข่าวปลอม กอล์ฟ ช่วยเป็นกระบอกเสียง ให้ชาวโลกได้รับรู้ความจริง

สยามนิวส์
วิดีโอ

ชาวสุรินทร์ เชื่อ กัมพูชา อยากได้ปราสาทตาควาย เพราะลากเขตแดนได้ถึงเกาะกูด

THE ROOM 44 CHANNEL

รัฐบาล เตือน "โรคไข้ดิน" อันตราย ป่วยแล้ว 2,036 ราย เสียชีวิต 92 ราย

สวพ.FM91

โฆษก ทบ. แจง ปม “ช่องอานม้า” กองทัพไทยสามารถควบคุมสถาปนาพื้นที่ได้เพิ่มขึ้น

THE ROOM 44 CHANNEL

กระทรวงดีอีปรับ รพ. 1.2 ล้าน เคสถุงขนมโตเกียว จากเวชระเบียนคนป่วย

สยามนิวส์

สมศักดิ์ เผยสถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัย น้ำมีแนวโน้มลดลง แต่ยังต้องจับตาต่อเนื่อง

สยามนิวส์

“บิ๊กเล็ก” ยอมให้สหรัฐฯ-จีน ส่งผู้สังเกตการณ์ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ได้เฉพาะ 7 ส.ค.

THE ROOM 44 CHANNEL

"กองทัพบก" ยืนยันปฏิบัติต่อเชลยศึกตามหลักสากล พร้อมเปิดให้ ICRC ตรวจสอบ ย้ำ ข้อกล่าวหากัมพูชาเป็นการบิดเบือน

สวพ.FM91

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...