ทรัมป์ขีดเส้น 50 วัน รัสเซียต้องเลิกสงคราม มิเช่นนั้นคู่ค้าเจอภาษี 100%
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวระหว่างการพบหารือกับนายมาร์ค รึตเตอ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่า "ไม่แฮปปี้อย่างมาก" กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และย้ำว่า ความอดทนของผู้นำสหรัฐ "สิ้นสุดลงแล้ว" จากการที่อีกฝ่ายปฏิเสธร่วมมือ ในการยุติสงครามกับยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี
ด้วยเหตุนี้ ทรัมป์ประกาศ "ขีดเส้นตาย" ให้กับปูติน เป็นเวลา 50 วัน นับตั้งแต่วันจันทร์ ในการต้องบรรลุข้อตกลงยุติสงครามกับยูเครน มิเช่นนั้น สหรัฐจะใช้มาตรการ "ภาษีรอง" หรือ "ภาษีทุติยภูมิ" ในอัตรา 100% กับทุกประเทศพันธมิตรที่ยังคงค้าขายกับรัสเซีย ซึ่งหมายถึงจีนและอินเดีย ที่ยังคงนำเข้าน้ำมันปริมาณมหาศาลจากรัสเซียในแต่ละปี
ขณะเดียวกัน ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐจะกลับมามอบความสนับสนุนด้านอาวุธให้แก่ยูเครน ซึ่งรวมถึงระบบขีปนาวุธแพทริออต กระสุนปืนใหญ่ และอาวุธป้องกันอีกหลายชนิด โดยจะเป็นการทำข้อตกลงกับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่จะเป็นผู้ซื้ออาวุธเหล่านี้ แล้วนำไปส่งมอบให้กับยูเครนต่อไป
ด้านรึตเตอยอมรับว่า เรื่องการซื้อขายอาวุธกับสหรัฐ "เป็นเรื่องใหญ่" แล้วอธิบายว่า ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ยูเครนได้รับอาวุธเร็วขึ้นและมากขึ้นภายในเวลาอันสั้น โดยในบางกรณี สมาชิกนาโตชาติอื่นสามารถส่งมอบอาวุธที่มีอยู่ให้แก่ยูเครนได้ทันที แล้วซื้ออาวุธจากสหรัฐเสริมเข้าคลังของตัวเองแทน
ขณะที่สื่อหลายแห่งรายงานว่า ข้อตกลงซื้ออาวุธลักษณะนี้ เสนอโดยประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ซึ่งออกมากล่าวขอบคุณและแสดงความซาบซึ้งต่อการตัดสินใจของทรัมป์และนาโต พร้อมทั้งเปิดเผยว่า มีการหารือเพิ่มเติมกับผู้นำสหรัฐ เกี่ยวกับ "แนวทางที่ดีกว่านี้" เพื่อปกป้องยูเครนจากการโจมตีของรัสเซีย.
เครดิตภาพ : AFP