โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เตือนคนกรุง! ไม่แยกขยะจ่ายเพิ่ม 3 เท่า1 ส.ค. เปิดลงทะเบียน ได้สิทธิจ่ายถูก

เดลินิวส์

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
กรุงเทพมหานครเตรียมบังคับใช้ข้อบัญญัติฉบับใหม่ว่าด้วยค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนร่วมมือในการลดและคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยเฉพาะขยะเศษอาหารซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึงครึ่งหนึ่งของขยะทั้งหมดในกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันกรุงเทพฯ มีปริมาณขยะเฉลี่ยวันละ 9,000–10,000 ตัน และต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บและกำจัดมากกว่า 7 พันล้านบาทต่อปี แต่กลับสามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากประชาชนได้เพียงราว 500 ล้านบาทเท่านั้น

เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง กทม. จึงปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมตามหลักผู้ก่อให้เกิดขยะต้องจ่ายตามปริมาณที่ทิ้ง หรือ“Pay As You Throw” (PAYT) โดยแบ่งกลุ่มผู้ชำระค่าธรรมเนียมออกเป็น3 ระดับตามปริมาณขยะที่ผลิตต่อวัน

แบ่ง 3 กลุ่มจ่ายค่าธรรมเนียม

สำหรับกลุ่มแรก คือสถานที่ที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน หากไม่มีการคัดแยกขยะ จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเดือนละ 60 บาท แบ่งเป็นค่าขนขยะ 30 บาท และค่ากำจัดขยะอีก 30 บาท แต่หากมีการคัดแยกขยะครบ 4 ประเภท ได้แก่ ขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป และขยะอันตราย จะได้รับสิทธิชำระค่าธรรมเนียมในอัตราลดเหลือเพียง 20 บาท
ต่อเดือน

ส่วนกลุ่มที่สอง ซึ่งมีปริมาณขยะเกิน 20 ลิตรแต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะถูกจัดเก็บในอัตรา 120 บาทต่อ 20 ลิตรต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3 เท่า ขณะที่กลุ่มที่สามซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือตลาด ที่ผลิตขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะถูกจัดเก็บค่าธรรมเนียม 8,000 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพิ่มจากเดิมถึง 4 เท่า

ลงทะเบียน 1 ส.ค. ผ่านเกณฑ์เหลือ 20 บ.

ควบคู่กับข้อบัญญัติฉบับใหม่ จึงได้เปิดตัวโครงการบ้านนี้ไม่เทรวม: แยกขยะลดค่าธรรมเนียม เพื่อสนับสนุนการคัดแยกขยะที่ต้นทาง โดยเปิดให้ประชาชนในกลุ่มที่1 ลงทะเบียนเข้าร่วมผ่านแอปพลิเคชัน“BKK Waste Pay” หรือ เว็บไซต์ ตั้งแต่วันที่1 สิงหาคม2568 เป็นต้นไป โดยหลังจากลงทะเบียนและยื่นหลักฐานการคัดแยกขยะครบทั้ง 4 ประเภท เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และหากผ่านเกณฑ์จะได้รับสิทธิลดค่าธรรมเนียมเหลือ 20 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป

บ้านที่ได้รับสิทธิจะได้รับสติกเกอร์ บ้านนี้ไม่เทรวม ติดหน้าบ้านเพื่อแสดงสถานะการเข้าร่วมโครงการ พร้อมถุงขยะสีเขียวสำหรับใส่เศษอาหารฟรีเป็นเวลา 1 ปี ขณะที่ผู้ที่ลงทะเบียนแบบกลุ่ม เช่น หมู่บ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียมที่มีนิติบุคคล จะได้รับถังขยะสีเขียวขนาด 100 ลิตรเพื่อรองรับการคัดแยกขยะอินทรีย์

ในระหว่างการเข้าร่วมโครงการ ระบบจะมีการสุ่มตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากพบว่าผู้ได้รับสิทธิไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการคัดแยกขยะตามที่กำหนด จะถูกระงับสิทธิเป็นระยะเวลา6 เดือน และต้องกลับไปชำระค่าธรรมเนียมในอัตรา 60 บาทตามปกติ นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้จัดให้มีรถจัดเก็บขยะแยกประเภทเพิ่มขึ้น อาทิ รถเก็บขยะเศษอาหารเฉพาะ รถเก็บขยะอันตราย และรถประจำทางที่มีช่องแยกขยะ เพื่อรองรับการคัดแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนปฏิบัติตามหลัก 3Rs ได้แก่ ลดการใช้(Reduce) ใช้ซ้ำ(Reuse) และ รีไซเคิล(Recycle) เพื่อส่งเสริมแนวคิดซีโร่ เวส

ลดขยะได้วันละเป็นพันตัน

ข้อมูลจากการสำรวจของ กทม. ยังระบุว่า มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า309,127 ครัวเรือน หรือประมาณ7 แสนคน คาดว่าจะช่วยลดปริมาณขยะได้มากถึง1,183 ตันต่อวัน โดยเฉพาะในกลุ่มสถานประกอบการขนาดใหญ่ หากสามารถลดปริมาณขยะจาก 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เหลือเพียง 2 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมได้ถึง 2.4 หมื่นบาทต่อเดือน และยังเพิ่มรายได้จากการขายขยะรีไซเคิลอีกทางหนึ่ง

ขยะเศษอาหารที่ถูกคัดแยกแล้วจะถูกนำไปแปรรูปเป็นปุ๋ยหมัก ก๊าซชีวภาพ หรืออาหารสัตว์ เพื่อใช้ประโยชน์แทนการฝังกลบ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน ยังขยายพื้นที่โครงการมือวิเศษกรุงเทพ เพื่อรองรับขยะพลาสติกที่คัดแยกได้ โดยจัดตั้งจุดรับขยะในสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต สวนสาธารณะ 47 แห่ง และศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนนำขยะประเภท PET, HDPE, ฟิล์มยืด กล่อง UHT และพลาสติกอื่น ๆ มาคัดแยกและส่งต่อสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างเหมาะสม

โหลดแอปจ่ายจบ

สำหรับการชำระค่าธรรมเนียม ประชาชนสามารถดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันBKK Waste Pay หรือชำระกับเจ้าหน้าที่จัดเก็บได้ตามช่องทางที่สะดวก โดยกรุงเทพมหานครได้ขยายช่องทางการสื่อสารผ่านเว็บไซต์หลัก สื่อโซเชียลมีเดีย และสถานีโทรทัศน์ รวมถึงสำนักงานเขต เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อบัญญัติฉบับใหม่ได้อย่างทั่วถึง ก่อนมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

‘ต้าห์อู๋’ ลั่นชอบคนไทยรักกัน ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือสังคม-เผยความเชื่อชื่อบริษัทสุดเก๋!

58 นาทีที่แล้ว

“เจ้าป่า” ทุ่ม 43 ล้านปอนด์กระชาก “เอ็นดอย” เสริมแนวรุก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

พบหมู่บ้านสุดแปลก ถือว่าการตายเป็นเรื่อง “ผิดกฎหมาย”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

พิธีลงนามMOUครั้งแรก ระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กับมูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถานปากช่อง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

Broker ranking 31 Jul 2025

Manager Online

GULF ส่งต่อความห่วงใยให้ทหารไทย มอบถุงยังชีพ 1,000 ชุดให้ ‘กองทัพบก’ สนับสนุนปฏิบัติการภารกิจด้านความมั่นคงพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา

Manager Online

ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์! COCKPIT ชวนคุณเป็นเจ้าของศูนย์บริการรถยนต์ครบวงวงจร

SMART SME

พิชัย หวังไทยได้รับข่าวดี ภาษีการค้าสหรัฐ เกาะกลุ่มประเทศอาเซียนร้อยละ18-20

JS100

ขบวนการแฮกคริปโตโลกระบาดหนัก! “JSCEAL” ตบตาผู้ใช้กว่า 10 ล้านคนผ่านโฆษณาปลอม

Manager Online

KTC-KTO ชูประสบการณ์ K-Beauty ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่การสร้างอาชีพ

sanook.com

บิทคอยน์พุ่งแรงแตะ $119,000! สหรัฐฯทุ่มงบซื้อเพิ่ม 28,000 BTC ดันกระแส “สำรองเชิงยุทธศาสตร์”

Manager Online

ไอเทล กวาดยอดขายไตรมาส 2 ปีนี้ ทะลุ 4.4 พันล้าน รับดีมานด์แบรนด์ระดับโลก

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

อุตุเตือน 5 จังหวัด “เหนือ-อีสาน” ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก

เดลินิวส์

เดลินิวส์ 31 ก.ค. ไทยด้วยกันขอให้รักกัน เสด็จเยี่ยม แพทย์-ประชาชน

เดลินิวส์

เช็กเลย! เปิดคำทำนาย ‘หมอปลาย พรายกระซิบ’ ครึ่งปีหลัง68 ใครปัง-ใครร่วง

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...