24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2568

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2568

>> ระทึกกลางแม่น้ำ เรือข้ามฟากเจดีย์-ปากน้ำ เกิดหม้อน้ำระเบิด มีผู้โดยสารโดนน้ำร้อนหลายคน โชคดีอาการไม่สาหัส

07.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าเกิดเหตุ เรือให้บริการโดยสารข้ามฟากเจดีย์-ปากน้ำ เกิดหม้อน้ำระเบิด ระหว่างเดินทางช่วงปากร่องน้ำ บริเวณป้อมผีเสื้อสมุทร จ.สมุทรปราการ

เบื้องต้น ระหว่างเกิดเหตุบนเรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารค่อนข้างแน่น เมื่อหม้อน้ำบนเรือเกิดระเบิด ทำให้น้ำร้อนกระเด็นใส่ผู้โดยสารหลายราย

เบื้องต้นรับแจ้งว่า ไม่พบผู้ได้บาดเจ็บหนัก แต่มีผู้โดยสารโดนน้ำร้อนหลายคน ฝากเตือนให้ระวังทุกครั้งที่ใช้บริการเรือข้ามฟาก หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้เครื่องยนต์ เพื่อความปลอดภัย อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ป้องกันไว้ก่อน

>> แม่ขี่รถ จยย.ไปส่งลูกคนโต มีน้องๆ นั่งซ้อนท้าย ชนกับรถเก๋งกลางถนน เสียชีวิต 3 ราย และสาหัส 1 ราย

07.57 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยเพชรพนมวัง มูลนิธิกุศลศรัทธา มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัสหลายราย บนถนนเส้นทาง สุราษฎร์ธานี - นครศรีธรรมราช ช่วงทางกลับรถตาเริ่ม ในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล เบนซ์ สีเทา ป้ายทะเบียน สุราษฎร์ธานี ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ซูซุกิ สแมช สีดำ-แดง ป้ายทะเบียน สุราษฎร์ธานี ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 38 ปี และเด็กหญิง อายุ 7 ปี และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ทางอาสาสมัครเร่งช่วยเหลือปั๊มหัวใจ และนำส่ง รพ.กาญจนดิษฐ์ และได้รับแจ้งว่าเด็กชาย อายุ 1 ขวบ ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้บาดเจ็บอีก1 ราย เป็นเด็กหญิง อายุ 3 ปี อาการสาหัสรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู

เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นแม่ ขี่รถจักรยานยนต์จะไปส่งลูกสาวคนโต อายุ 7 ปีที่โรงเรียน โดยมีน้องทั้ง 2 คนนั่งซ้อนท้ายไปด้วย ก่อนจะประสบอุบัติเหตุชนกับรถนั่งส่วนบุคคลดังกล่าว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์

>> เพลิงไหม้บนห้องพักภายในคอนโด ย่านซอยไสวสุวรรณ เจ้าหน้าที่ใช้ถังดับเพลิงทำการดับ ก่อนจะลุกลาม

10.58 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยไสวสุวรรณ ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารคอนกรีต 8 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 2 ภายในห้องเลขที่ 267/34 เพลิงลุกไหม้เสียหายพัดลม ลุกลามที่นอน เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ และตู้เสื้อผ้า พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 9 ตารางเมตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่พัดลมตั้งพื้น ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางโพ

>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถไถการเกษตร มีผู้เสียชีวิต

11.45 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยบูรพา สมาคมพิษณุโลกการกุศลสงเคราะห์ ( ไซทีฮุกตึ๊ง ) จังหวัดพิษณุโลก รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถไถการเกษตร และมีผู้เสียชีวิต บนถนนบ้านเนินหนองบัว หมู่ที่ 9 ต.สวนเมี่ยง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง - ดำ ไม่พบป้ายทะเบียน ลักษณะชนกับรถไถการเกษตร สีแดง ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 50 ปี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชาติตระการ พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้อาสาสมัครนำร่างส่งชันสูตรนิติเวชโรงพยาบาลชาติตระการ

>> โฆษก ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิมชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา

12.16 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น

การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ทางไทยและกัมพูชาล้วนได้ให้สัตยาบัน เข้าเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาดังกล่าวด้วย กองทัพบกจึงขอเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวนี้ต่อสาธารณะ พร้อมขอความร่วมมือประเทศสมาชิกอาเซียนรวมถึงนานาประเทศ ร่วมประณามการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรงของประเทศกัมพูชา นอกจากนี้กรมข่าวทหารบกจะได้มีการเชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย มารับทราบข้อเท็จจริงในกรณีเหตุการณ์ดังกล่าวในวันพรุ่งนี้อีกด้วย

>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ บาดเจ็บ 1 และเสียชีวิต 1 ราย

13.56 น. รับแจ้งจากศูนย์นเรนทรเชียงราย ว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนหนองช้างคต หมู่ที่ 8 ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ-แดง ป้ายทะเบียน เชียงราย ลักษณะชนกับรถกระบะ ฟอร์ด สีขาว ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ 2 ราย อากาสาหัสและหมดสติด้วยกันทั้งคู่ ทาางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ ก่อนมอบให้รถกู้ชีพนำผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นผู้หญิง ส่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ส่วนอีก 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 20 - 30 ปี ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย

>> รวบผู้ต้องหาระดับหัวหน้า “คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม” หลอกสมัครสมาชิก

14.37 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ฐาน “เป็นอั้งยี่, เป็นซ่องโจร และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” โดยจับกุมได้ บริเวณลานขายของ ภายในวัดแห่งหนึ่ง อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2563 นายบี (นามสมมุติ) ร่วมกับ นายเอ (นามสมมุติ) และพวก ได้ร่วมกันก่อตั้งคณะบุคคลที่มิชอบด้วยกฎหมาย ในชื่อ “คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม” โดยมีนายบี (นามสมมุติ) เป็นหัวหน้า และอ้างตนเป็นประธาน ขณะที่ นายเอ (นามสมมุติ) รับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ส่วนกลางและผู้ดูแลกลุ่มไลน์ของคณะฯ กลุ่มดังกล่าวเผยแพร่นโยบายเท็จ และมีการชักชวนให้สมัครสมาชิกของกลุ่มนี้ โดยแบ่งเป็น 5 ระดับ พร้อมเรียกเก็บค่าสมัครตั้งแต่ 200 – 1,000 บาท และอ้างว่าสมาชิกจะได้รับตำแหน่งในองค์กร รวมถึงค่าตอบแทนหลักแสนบาทต่อเดือน มีการขายเสื้อคณะฯ และสิทธิต่างๆ พร้อมกล่าวอ้างว่าโครงการมีเงินสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ อีกทั้งยังแสดงเอกสารปลอม เช่น พันธบัตรรัฐบาลและตั๋วเงินสด ซึ่งจากการสอบสวน พบว่ามีประชาชนหลงเชื่อและชำระเงินเข้าบัญชี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 29 ล้านบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายบี (นามสมมุติ) ได้แล้ว แต่กลุ่มผู้ต้องหายังคงเคลื่อนไหว ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าหลังเกิดเหตุนายเอ (นามสมุติ) ได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร จึงเฝ้าติดตามและจับกุมตัวได้ในที่สุด ทั้งนี้ จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

>> อุทยานฯ ทับลานส่ง จนท.ช่วยเหลือ คนงานดูแลสวน ถูกหมู่ป่า ทำร้ายบาดเจ็บขณะเก็บหน่อไม้

15.16 น. นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้รับรายงานจาก นางสาวชิดชนก ปราบทุกข์ หัวหน้าเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 2 (สวนห้อม) ว่า ได้รับแจ้งจากกำนันตำบลวังน้ำเขียวว่ามีราษฎรถูกหมูป่าทำร้าย คณะเจ้าหน้าที่ นำโดยหัวหน้าเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 2 (สวนห้อม) เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุบริเวณ บ้านศาลเจ้าพ่อ หมู่ที่ 1 ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา พบนายหม่อง อายุ 56 ปี สัญชาติพม่า ซึ่งมีหน้าที่ดูแลสวนบริเวณที่เกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถูกเขี้ยวหมูป่าแทงบริเวณชายโครงและขาขวา เบื้องต้นได้นำส่งโรงพยาบาลวังน้ำเขียวเพื่อประเมินอาการ ก่อนจะส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช

จากการสอบถามผู้บาดเจ็บ ทราบว่าขณะที่ตนกำลังลงไปเก็บหน่อไม้บริเวณท้ายสวน ได้ยินเสียงสุนัขเห่าจึงเดินไปดู และพบกับหมูป่าที่หลบซ่อนอยู่ ก่อนจะถูกทำร้ายในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ซึ่งมีลักษณะเป็นป่ารกทึบ เจ้าหน้าที่พบหมูป่าเพศผู้ ขนาดประมาณ 100 กิโลกรัม หลบซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ โดยมีบาดแผลที่ขาหลังซ้ายจากการติดบ่วงสลิงขนาดเล็ก ซึ่งเป็นสาเหตุให้อาการดุร้ายและพุ่งเข้าทำร้ายคน พื้นที่เกิดเหตุอยู่ในเขตทำกินที่มีการสำรวจครอบครองตามมาตรา 64

>> กกต.มีมติฟันอาญา "หมอเกศ" ปมหลอกลวง ใช้วุฒิศาสตราจารย์สมัคร สว. มีโทษจำคุก 10 ปี ตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี

15.22 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับมติคำวินิจฉัยของ กกต. ในคดีที่ร้องขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. กรณีวุฒิการศึกษา โดย กกต.มีหนังสือลงวันที่ 18 ก.ค. 2568 แจ้งผลวินิจฉัยว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงลงสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา และมีมติให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เกศกมล ในความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งและคดีอาญา กรณีใช้คำว่า “ศาสตราจารย์” ซึ่งจะมีอัตราโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี และตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี "ผมขอประกาศตรงนี้ มันหมดเวลาของเธอแล้ว คำวินิจฉัยส่งถึงผมเรียบร้อยในฐานะเป็นคนร้อง แต่เดิมทำเป็นจะเอาเรื่องของวุฒิการศึกษาปริญญาเอก แต่ผมมาคัดค้าน ท้ายที่สุดก็ยอมใส่คำว่าศาสตราจารย์ไป ไม่เหลือแล้ว"

ทั้งนี้ ฝากไปถึง กกต.ขอให้ส่งเรื่องของ น.ส.เกศกมล ไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ภายในวันศุกร์นี้ เพื่อให้ศาลวินิจฉัยต่อ เนื่องจากไม่มีเหตุให้ดึงเรื่อง

>> เพลิงไหม้บ้านเรือน ซอยพหลโยธิน 54/1 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำทำการดับทันก่อนจะลุกลาม

16.25 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยพหลโยธิน 54/1 แยก 3 ถนนพหลโยธิน แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวคอนกรีต 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง ภายในห้องเก็บของ เพลิงลุกไหม้เสียหาย ปลั๊กไฟต่อพ่วง ลุกลามชั้นวางของ และฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 5 ตารางเมตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสายไหม

>> เหตุระเบิด ที่บ้านน้ำดำ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 4 นาย นำส่ง รพ.แล้ว อาการปลอดภัย

16.50 น. ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี

ที่เกิดเหตุ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย เป็น อส.ชคต.น้ำดำ เป็นชุดรักษาความปลอดภัย รปภ.สนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ มีอาการแน่นหน้าอก /หูอื้อ เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย (หูอื้อ) ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการนำส่ง รพ.ใกล้เคียงแล้ว ในส่วนของรายละเอียด อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งยางแดง

>> รถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง บาดเจ็บ 1 และเสียชีวิต 1 ราย

18.05 น. รับแจ้งจาก ศูนย์กู้ภัยมูลนิธิคุณวีโรกุศลสงเคราะห์ (เอ็ง เต็ก ตึ๊ง) มหาสารคาม มีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ริมถนนถึนานนท์ ฝั่งมุ่งหน้าเข้าอำเภอเมือง ก่อนถึงห้างบิ๊กซี ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ เชฟโลเล็ต สีเทา ป้ายทะเบียน มหาสารคาม ลักษณะชนกับเสาไฟฟ้าสภาพรถพังเสียหาย ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 45 - 50 ปี มีแผลฉีกขาดที่ศีรษะ และมีแผลถลอกตามร่างกาย หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสุทธาเวช นำส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลมหาสารคาม และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้หญิง อายุ 40 - 50 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม

>> เพลิงไหม้บ้านเรือน ซอยอิสรภาพ 39 หวิดวอดทั้งห้อง

18.26 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยอิสรภาพ 39 ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านคอนกรีต 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นบน ภายในห้องนอน เพลิงลุกไหม้เสียหาย เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่นอน กองวัสดุ ลุกลามฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 9 ตารางเมตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

>> ไฟชอร์ต 2 แรงงานก่อสร้างเขื่อนหน้าวัด จ.ปทุมธานี เสียชีวิตในเวลาต่อมาทั้งคู่

18.30 น. สภ.ปากคลองรังสิต ได้รับแจ้งมีเหตุคนงานก่อสร้างถูกไฟดูดอาการสาหัส 2 ราย เหตุเกิดบริเวณริมเขื่อนหน้าวัดตลาดใต้ ม.3 ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นพื้นที่ที่กำลังมีการก่อสร้างเขื่อนหน้าวัด โดยพบ คนงานก่อสร้างเพศชาย นอนหมดสติ เป็นผู้ชาย 2 คน เป็นแรงงานชาวเมียนมา ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพ และอาสาสมัครกู้ภัยได้พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผลได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน ส่วนอีกคน รถกู้ชีพโรงพยาบาลปทุมธานี รีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิปอเต็กตึ้ง บอกว่าซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพบว่าคนเจ็บทั้งสองคนนอนอยู่คู่กัน เพราะเพื่อนร่วมงานได้ช่วยขึ้นมาจากน้ำแล้วหมดสติทั้งคู่ ซึ่งทางกู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ้งได้รับแจ้งว่าคนเจ็บทั้งสองคนถูกไฟชอร์ตและตกลงไปในน้ำ เนื้อตัวเปียก ซึ่งเมื่อมาถึง ไม่มีเพื่อนร่วมงานอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งตนได้รับแจ้งว่าตรงนี้เป็นการทำเขื่อนของ อบจ.

หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมทั้งจะได้ประสานหัวหน้าผู้รับเหมามาสอบปากคำอีกครั้งที่ สภ.ปากคลองรังสิต

>> คนร้ายปาระเบิดไปป์บอมบ์ใส่ ชคต.มะรือโบออก จ.นราธิวาส โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ

20.30 น. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลมะรือโบออก ว่ามีเหตุขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ ใส่เจ้าหน้าที่ ชคต.มะรือโบออก ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตําบลมะรือโบออก อําเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส

ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ได้รับความเสียหายแค่หลังคากระเบื้องแตก ตร.จะดำเนินการสอบสวนต่อไป

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศอินเดีย

01.00 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 4.0 ความลึก 10 กม. บริเวณหมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย ศูนย์กลางห่างออกไป ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.พังงา ประมาณ 637 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

>> เพลิงไหม้บ้านทาวน์โฮม ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 15 จนท.ใช้น้ำทำการดับทัน พบบาดเจ็บ 2 รายนำส่ง รพ.

01.05 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 15 ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ใช้พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง ภายในห้องรับแขก เพลิงลุกไหม้เสียหายเครื่องปรับอากาศ ลุกลามฝ้าเพดาน โซฟา ชั้นวางของและเครื่องรับโทรทัศน์ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 15 ตารางเมตร

รถน้ำ อปพร.เขตคลองสามวาใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการดับถ่านและระบายควัน ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่เครื่องปรับอากาศ

ขณะที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย (รายที่ 1) เป็นเพศหญิง อายุ 25 ปี มีอาการกระจกบาดที่เท้าและถูกไฟลวกที่ขา มูลนิธิร่มไทรนำส่งโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี (รายที่2) เป็นเพศชาย อายุ 36 ปี มีอาการกระจกบาดที่ฝ่ามือและถูกไฟลวกที่ขาข้างซ้าย มูลนิธิร่มไทรนำส่งโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีพื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน