“มาริษ” นำผู้แทนไทยร่วมเวที HLPF2025
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 3.04 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท22 ก.ค.- “มาริษ” นำผู้แทนไทยร่วมเวที HLPF2025 นครนิวยอร์ก โชว์พัฒนาการประเทศไทยตามเป้า SDGs อันดับ 1 อาเซียน พร้อมเน้นย้ำหลักการมีส่วนร่วม ปชช.
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก การประชุม HLPF2025 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลัก “Advancing sustainable, inclusive, science- and evidence-based solutions for the 2030 Agenda for Sustainable Development and its Sustainable Development Goals for leaving no one behind” ซึ่งเป็นเวทีสำคัญประจำปีของสหประชาชาติที่มุ่งติดตามและเร่งรัดการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
นายมาริษ เปิดเผยว่า ในวันแรกของการเดินทางมายังนครนิวยอร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุม HLPF2025 นี้ ตนเองได้มีโอกาสนำเสนอรายงานผลการทบทวนการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ระดับชาติโดยสมัครใจครั้งที่ 3 ของประเทศไทย หรือ VNR ซึ่งสะท้อนถึงพัฒนาการตลอดทศวรรษในการดำเนินการตาม SDGs ของประเทศไทย โดยมีพื้นฐานจากการวิเคราะห์ข้อมูล การมีส่วนร่วมของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และมีเสียงของชุมชนกำหนดทิศทาง โดยประเทศไทยภูมิใจ ที่ได้ครองอันดับ 1 ของอาเซียน และอันดับ 3 ของเอเชียแปซิฟิกในดัชนี SDGs ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนในสังคมไทย
นายมาริษ ยังอธิบายว่า รายงาน VNR ของไทยในปีนี้ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ตนจึงได้ร่วมเปิดงานกิจกรรมคู่ขนานภายใต้หัวข้อ “Local to Global – Empowering Communities through Upcycled Innovation for Sustainable Growth” ในวันเดียวกัน ซึ่งนิทรรศการดังกล่าว ได้นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการท้องถิ่นของไทยในการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า และยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความครอบคลุมและความยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ SDGs
นายมาริษ ยังเน้นย้ำว่า ในระยะเวลาที่เหลือเพียง 5 ปีก่อนจะถึงปี 2030 ตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเร่งรัดความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs
ทั้งนี้ ในปีนี้เป็นการครบรอบ 10 ปี นับตั้งแต่สหประชาชาติรับรองวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ประเทศไทย ได้เน้นประเด็นสำคัญ 3 ด้านในรายงานฉบับนี้ ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติเพื่อสะท้อนความคืบหน้าการดำเนินการตาม SDGs ของไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา, การนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดีในการขับเคลื่อน SDGs ผ่านการนำเสนอนโยบาย/โครงการที่โดดเด่นในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม และการวิเคราะห์ความท้าทายและแนวทางการเร่งรัดการดำเนินการในช่วง 5 ปีที่เหลืออยู่ของวาระเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 โดยมีการประเมินทั้งจากภาครัฐ และจากภาคส่วนต่าง ๆ ของไทย เพื่อสะท้อนความก้าวหน้าและความท้าทายอย่างครอบคลุม -สำนักข่าวไทย