โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

CGSI มองหุ้นโรงไฟฟ้า ได้แรงหนุนรัฐ-ดอกเบี้ยลด แต่ Upside จำกัด

ทันหุ้น

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

#ทันหุ้น – ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ราคาหุ้นส่วนใหญ่ในกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวขึ้น 0.4-7.4% เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา นำโดย GPSC, BGRIM, BCPG, RATCH, GULF และ EGCO ขณะที่ราคาหุ้น CKP ไม่เปลี่ยนแปลง คาดว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้น น่าจะมาจากสองปัจจัยคือ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติตรึงอัตราค่าไฟฟ้าตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เสนอ สำหรับค่า Ft (ค่าไฟฟ้าผันแปร) รอบเดือนก.ย.-ธ.ค.68 ที่ 3.94 บาท/หน่วย ซึ่งต่ำกว่าที่เคยคาดตอนต้นปี 68 และจากการที่ Fed และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าของไทยที่ปรับขึ้น น่าจะรับรู้ข่าวดีส่วนใหญ่แล้ว รวมทั้งสะท้อน sentiment เชิงบวกในระยะสั้น นอกจากนี้ การปรับลดค่า Ft มีการประชุมหารือกันมาแล้วระยะหนึ่งและจะปรับลงตามแผนการลดต้นทุนก๊าซของรัฐบาล จึงมองว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) น่าจะไม่มี upside ขณะที่หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าไทยมีเงินกู้ที่มีสัดส่วนที่เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่สูง จึงไม่น่าจะได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากนัก

ทั้งนี้ จากผลการวิเคราะห์ความอ่อนไหว ชี้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25bp จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินประมาณ 6% ส่งผลให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5% ในปี 69 ส่วน BGRIM น่าจะได้รับประโยชน์มากที่สุดในแง่ของเปอร์เซนต์การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากต้นทุนการเงินที่จะลดลง

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ยังคงน้ำหนักการลงทุน (Neutral) ในกลุ่มโรงไฟฟ้าของไทย สะท้อนความเสี่ยง-ผลตอบแทนที่สมดุลจากแนวโน้มการทำกำไรต่างกัน, ความไม่แน่นอนด้านการกำกับดูแล รวมถึงการเติบโตที่สวนทางกันของแต่ละบริษัท ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” GULF มองว่าจะมีกำไรเติบโตสม่ำเสมอ, งบดุลแข็งแกร่งและยังมีแผนลงทุนเพิ่มในธุรกิจ LNG และพลังงานหมุนเวียน

นอกจากนี้ ยังแนะนำ “ซื้อ” BCPG จากมาร์จินที่แข็งแกร่งและพอร์ตธุรกิจที่กระจายความเสี่ยง รวมทั้งแนะนำ “ซื้อ” CKP เพราะบริษัทมีอัตราส่วนกำไร EBITDA สูงสุดในกลุ่มและ ROE เพิ่มขึ้น ขณะที่แนะนำ “ถือ” EGCO และ RATCH จากการประเมินมูลค่าเหมาะสมและมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 6% น่าสนใจ แม้จะยังมี ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและการพึ่งพาถ่านหิน

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

บล.บัวหลวง ปรับทัพผู้บริหารดัน"ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ"นั่ง MD ค้าหลักทรัพย์

23 นาทีที่แล้ว

เมืองไทยประกันภัย ได้รับการเชิดชู ESG DNA จาก SET

26 นาทีที่แล้ว

ตลท. เผยงาน"Thailand Focus 2025"มี 75 สถาบันทั่วโลกเข้าร่วม

45 นาทีที่แล้ว

Google Cloud ลุยบล็อกเชนเต็มตัว เตรียมใช้'GCUL' สำหรับสถาบันการเงิน

50 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...