บุญสิน ‘ผลิตผล’ กองทัพ
จาก “๓-๕ กันยา.” เป็นต้นไป
จะเป็น “วันเริ่มต้น” เดินไปสู่เส้นทาง “การเมืองหน้าใหม่” ในระบบรัฐสภา
และจะเป็น “วันสิ้นสุด” การเมืองหน้าเก่า ในระบบทักษิณ!
โอกาสที่ “พรรคประชาชน” จะโหวตให้ “นายอนุทิน-ภูมิใจไทย” เป็นนายกฯ คนใหม่…มีสูง
เช่นเดียวกัน โอกาสที่ “นายกฯ รักษาการ-พรรคเพื่อไทย” เมื่อกูไม่ได้ ใครก็อย่าหวังจะได้ แล้วประกาศ “ยุบสภา” ก็อาจเป็นไปได้!
การโหวตนายกฯ “ตั้งรัฐบาลใหม่” ครั้งนี้ ……
ไม่ต่างการเสี่ยงทาย “อนาคตประเทศ” บนเส้นทางการเมืองหน้าใหม่ ว่าจะรุ่งโรจน์หรือโรยรา?!
“การเมืองหน้าใหม่” คืออะไร พรรคใหม่ๆ คนใหม่ๆ จะมานำบริหารประเทศอย่างนั้นใช่มั้ย?
ไม่ใช่…..
ผมหมายถึง ประชาชนคนไทยซึ่ง “ตื่นแล้ว” เรื่องการเมืองเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง
คนไทยจำนวนมาก ไม่รู้เลยว่า ไทยเราเสียแผ่นดินให้เขมรไปจำนวนมาก นานกว่า ๔๐ ปี โดยไม่มีรัฐบาลไหน-นักการเมืองคนไหนตะโกนบอก และคิดเอาคืนจากเขมร!!!
ด้วยฟ้าดินบันดาลบอกเหตุ จึงมีอันให้เกิดเรื่องคลิปสนทนา “นายกฯ แพทองธาร” กับ “นายฮุน เซน” นำไปสู่ศึกเอาดินแดนไทยคืนจากเขมร
เมื่อรัฐบาลเพื่อไทย ส่ออาการรักเขมรมากกว่ารักประเทศ
โชคดีที่ทหารไทย “รัก-หวงแหน” ประเทศ มากกว่ารักอำนาจ-ลาภยศ ด้วยการสอพลอ ยอมทำตามการเมืองสั่ง
“พลโทบุญสิน พาดกลาง” แม่ทัพภาคที่ ๒ ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เขมรด้านอีสาน เมื่อเขมรอหังการ “เปิดก่อน”
แม่ทัพบุญสิน จึงเผด็จศึก…..
จาก ๒๔-๒๘ ก.ค. ยึดแผ่นดินไทยที่เขมรรุกล้ำเข้ามายึดครองไปกลับคืนมารวดเดียว ๑๑ จุด ทั้งด้านอุบลฯ, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ โดยเฉพาะที่ช่องอานม้าและที่ภูมะเขือ!
นั่นแหละ ปลุกให้คนไทยทั้งเหนือ-ใต้-ออก-ตก-อีสาน “ตื่น”
เลือดรักชาติในตัวคนไทย พลันพลุ่งพล่าน หวงแหนแผ่นดินเกิด รักชาติ-รักทหาร “เกิดเอง” ด้วยจิตวิญญาณไทย
กับคำที่ว่า “มีทหารไว้ทำไม?”
ทุกหัวใจไทยได้คำตอบด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติ!
จากเด็กอนุบาลจนถึงท่านพ่อเฒ่า-แม่เฒ่า เลือดรักชาติ-รักแผ่นดินร้อนเร่า จนเกิด “กองทัพน้ำใจประชาชนเพื่อชาติ”
พร้อมใจกันทำหน้าที่เป็น “หน่วยส่งกำลังบำรุง” ให้ทหารในแนวหน้า จากป่าทึบชายแดนกลายเป็นเมือง “แนวหลังเนรมิต” ในบัดดล
และวันนี้ ประชาชนรู้ซึ้งแล้วว่า….
ยามชาติบ้านเมืองมีปัญหา คนใน “รัฐบาล-รัฐสภา” ที่พวกเขาเลือกเข้าไป นอกจากช่วยไม่ได้ ใช้ไม่ได้ เป็นที่พึ่งอะไรไม่ได้แล้ว
พวก “นักการเมือง” ระบบเลือกตั้ง ยังฉวยโอกาสอ้างประชาชนใช้สถาบันนิติบัญญัติเป็นเครื่องมือ “เปิดทางสะดวกสู่ประโยชน์ทางการเมืองเฉพาะตน”
โดยไม่สนความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของชาติบ้านเมืองและประชาชนเลย!
เจ็บนี้ จะเป็น “บทเรียน” ให้ประชาชนจำในการเลือก สส.ครั้งต่อๆ ไป ว่าได้จากการขายเสียงมา ๑ พันบาท จากพรรค-นักการเมืองเลว แต่ทำให้เราต้องเสียชาติ-เสียแผ่นดิน นั่น มันคุ้มกันหรือ?
เมื่อประชาชนตื่น รู้แล้ว เห็นแล้ว เข้าใจแล้ว
ผมจึงว่า จาก ๓-๕ กันยา.ที่เขาจะโหวตเลือกตัวนายกฯ คนใหม่เป็นต้นไป จะเป็นจุดเริ่มต้น “การเมืองหน้าใหม่”
ที่ประชาชนจะเลือก “คนดี” มีอุดมการณ์เพื่อ “ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์” แทนการเลือก “เงินดี” จากคนและพรรคเลว
หลังจากที่ สส.-รัฐบาล เหลิงใจมาตลอดว่า “ประชาธิปไตยเลือกตั้งระบบรัฐสภา
“ซื้อได้” ผ่านประชาชน ที่บริหารให้โง่เข้าไว้ แล้วง่ายต่อการซื้อ!
แต่ถึงตอนนี้ กองทัพโดย “พลโทบุญสิน พาดกลาง” ได้เปิดม่านพรางตาประชาชนให้ได้สัมผัสแสงสว่าง สู่เส้นทางอนาคต “การเมืองใหม่”
เลือกคนที่ความดีเป็นที่ประจักษ์ ไม่ใช่เลือกที่เงินดีจากโจรใส่สูท!
เมื่อวาน ๒ ก.ย.๖๘ ท่านไปบรรยายพิเศษในหัวข้อ “วิสัยทัศน์หลักธรรมะ และการวางยุทธศาสตร์ป้องกันชายแดน”
ให้กับนักศึกษาปี ๑ ภาควิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ท่านไม่เอาลีลาวาทะมาพูด หากแต่ท่านเอาหัวใจกับความสัตย์ซื่อ-จริงใจมาพูด นับว่ากินใจมาก
“…………….มาวันนี้ไม่ได้มาโน้มน้าวใดๆ ทั้งสิ้น อยากให้คนไทยสามัคคีกัน เราต้องเริ่มทำอะไรเพื่อแผ่นดิน เพื่อประเทศชาติ ไม่ให้กลับไปเหมือนเดิม ไม่ทะเลาะกัน
เอาคนดีเข้าไปบริหารประเทศ ไม่เช่นนั้น ก็จะวนมาเป็นเช่นเดิม ยืนยัน ผมไม่เล่นการเมืองแน่นอน
เป็นสัญญาลูกผู้ชาย ผมได้หาที่ปฏิบัติธรรมรอแล้ว แต่ไม่รู้จะได้ทำหรือไม่
"ผมจะอยู่แบบเป็นกลาง ดูความถูกต้องของประเทศชาติ “เรารักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้เรารักประชาชน” ผมชอบคำนี้ เพราะผมอยู่กับประชาชน
ไม่ต้องถามว่า “จะปฏิวัติหรือไม่?”
ไม่อยู่ในสมอง ผมมีเพื่อนเป็น ผบ.ทบ. (พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์) ยืนยันว่า “หมดยุค-หมดสมัยไปแล้ว”
แต่เราจะทำอย่างไร…..
หาตัวแทนบริหารประเทศ คนที่มีวิสัยทัศน์ ทุกกระทรวง ทบวง กรม จะคัดคนพวกนี้ได้อย่างไร ต้องช่วยกัน คือสิ่งที่เราจะต้องทำต่อไป"
อยากให้น้องๆ เปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นหลายฝ่าย อย่าไปฟังคนเดียวแล้วเชื่อ แม้แต่ทั้งตัวของแม่ทัพ ก็อย่าเพิ่งเชื่อ
จะเห็นว่า ที่ผ่านมาประชาชนก็ไม่เชื่อแม่ทัพกุ้ง แต่ต้องทำให้เขาเห็น พาลูกน้องไปเอาแผ่นดินคืน เขาก็จะเห็นเอง
สิ่งที่เขามาต้อนรับผมในวันนี้ นั่งรถไฟมา มากอดน้ำตาร่วง ผมไม่ได้ไปโน้มน้าว ไปล้างสมอง วันนี้ มาพูดคุยก็ไม่ได้เตรียมอะไรมา
"มีศัตรูกัมพูชาก็พอแล้ว ไม่อยากทะเลาะกับคนไทย เพราะไม่ว่าเราจะเป็นคนภาคไหน ก็เป็นคนไทยด้วยกัน
“ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน” เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
สงครามที่ใด หากประชาชนไม่เอาด้วย คุณแพ้ ตั้งแต่คิด ต่อให้คุณจะมีพลังขนาดไหนก็ตาม คำพูดนี้ยังใช้ได้"
ดังนั้น “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” ควรรักษาไว้ให้ดี คนรุ่นใหม่ต้องทำให้คนไทยเป็นหนึ่งเดียว แล้วเอาคนดีไปปกครองบ้านเมืองให้ได้”…………………………
ต้องยึดคำสอนศาสนา "อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา" อย่าคบคนพาล ให้คบบัณฑิต
โดยบัณฑิตในที่นี้หมายถึงคนดี ไม่ใช่คนจบปริญญาตรี วันนี้ก็คนใส่สูทที่ทำให้เกิดปัญหาของประเทศชาติ จึงย้ำว่า อย่าคบคนพาล
บทบาทหน้าที่ของประชาชน ต้องส่งเสริมประเทศอยู่อย่างสันติสุขนั้น เราต้องช่วยกัน
สังคมเลว เพราะคนดีท้อแท้ ส่วนคำพูดที่ว่า "อะไรไม่ใช่เรื่องของเรา…อย่ายุ่ง" คนที่พูดคำนี้ คือคนไม่ดี
ดังนั้น ซึ่งจะทำอย่างไร ให้ได้คนคนนั้นมา คนคนนั้นอยู่ไหน มีความรู้ รู้จริง เสียสละ ไม่คดโกงบ้านเมือง มีปฏิภาณไหวพริบ เอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง พวกเราต้องหาคนนั้นไปทำหน้าที่
จึงมีคำถามว่า “เป็นการเอากระทรวง เอาผลประโยชน์มาแบ่งกันหรือเปล่า” แล้ววันนึง เราเอาความเป็น-ความตายไปฝากไว้กับเขา?
แล้วทำไมเราไม่ช่วยกัน หาคนคนนั้นมาทำหน้าที่ วิธีหาผมก็ไม่ทราบว่าจะหาอย่างไรหรือตรงไหน?
เมื่อไปดูระบบของเรา ถามว่า "ประชาธิปไตยเป็นอย่างไร?"
ซึ่งเราไปเอาแบบตะวันตกมา แต่คนของเราเป็นเหมือนเขาหรือเปล่า จากที่เราเห็นในชนบท เวลามีงาน ก็มีการล้มวัว-ล้มควาย ช่วยกัน
แต่พอถึงเวลาก็เอาเงินมาให้ เพื่อให้เลือกเขา พอรับเงินก็ต้องไปเลือก โดยระบบอาจจะใช่ แต่คนของเรา…ใช่หรือไม่?
"ทำไมถึงไม่มีการ “สร้างการรับรู้” ให้กับเด็กๆ ตั้งแต่อนุบาล?" เพราะรุ่นแก่ๆ คงไม่ทัน
แต่อีก ๑๐-๒๐ ปี ก็ยังไม่สาย สร้างคนเพื่อหาคนที่รู้จริงในแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ไปบริหารประเทศชาติ เพราะเขาคือ
"ตัวแทนของพวกเรา"
หรือสิ่งที่เราต้องทำต่อจากนี้ เราต้องเปิดกว้าง ถึงเวลาฟัง เมื่อเวลามาแถลงนโยบาย ก็ไปนั่ง แล้วจด ซึ่งเป็นการจดด้วยความรับผิดชอบ แล้วไปเลือกเขา
เงินซื้อเสียง “ไม่ต้องเอา” เพราะแค่พันเดียว วันเดียวก็หมดแล้ว
แต่ศักดิ์ศรีของประเทศ เลือดเนื้อบรรพบุรุษของเรา แล้วแผ่นดินของเรา จะอยู่อย่างไร?
"นี่คือหน้าที่ของ "มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง" ผมชื่นชม แต่พวกเราจะทำอย่างไร ถึงจะได้ ซึ่งพี่กุ้งอยากได้แบบนี้"?
มีนักศึกษาถามว่า "รู้สึกอย่างไร ที่ทหารมายุ่งกับการเมือง?" พลโทบุญสิน ยิ้มและว่า "เป็นคำถามที่ตอบได้"
สร้างเสียงฮือฮาให้กับนักศึกษาภายในห้องมาก จากนั้น พลโทบุญสิน กล่าวว่า
"ทหารยุคใหม่ อย่าไปใช้วาทศิลป์มาก เอาสั้นๆ ห้วนๆ ไม่อ้อมค้อม ทหารไม่ยุ่งการเมืองจะสง่างามและเป็นหลักเป็นแก่นให้กับแผ่นดินนี้
เรื่องการเมือง สภาผู้แทนราษฎรว่ากันไป "แต่อย่าเอาอำนาจที่ผิดๆ มาสั่งทหาร"
ทหารมีหน้าที่ปกป้องประเทศชาติตามรัฐธรรมนูญ ปฏิบัติในคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
และทหารที่แต่งเครื่องแบบนี้ หน้าที่จะต้องไม่ยุ่งการเมือง ถ้ายุ่งเมื่อไหร่ การเมืองก็จะได้คุณเป็นลูกน้องเพิ่มมาอีก และประเทศ-ประชาชนอีกขั้วหนึ่ง จะพึ่งใคร?
สิ่งที่ผมยืนยันตั้งแต่วันแรกว่า "ไม่ยุ่งการเมือง" ก็ยังยืนยันอยู่ สิ่งนี้ก็จะมัดคอจนถึงทุกวันนี้
ยอมรับว่ามีหลายคนมาติดต่อเข้ามา ๕-๖ พรรค แต่ชีวิตนี้พอแล้ว คนเราอายุไม่เกินร้อยปี จะเอาอะไรนักหนากับชีวิตเรา เลือกศักดิ์ศรีของเราไม่ดีกว่าหรือ
เราเห็นคนมีเงินเยอะๆ สุดท้าย มีคนไปเผาศพกี่คน เราเอาวงศ์ตระกูลเรา ประเทศชาติของเราไม่ดีกว่าหรือ
เราทำตัวอย่างให้พี่ๆ น้องๆ ได้เห็น ถ้าอยากเล่นการเมืองก็บอกไปตั้งแต่แรก ทหารเกษียณฯ ก็คือคนไทยคนหนึ่งเล่นการเมืองได้ แต่พี่กุ้งเลือกที่จะไม่เล่น
เมื่อถามว่า "จากที่เห็นแคนดิเดตนายกฯ ดูแล้วมีความหวังในการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาหรือไม่?”
พล.ท.บุญสินกล่าวว่า "อันนั้นเป็นเรื่องของการเมือง แม่ทัพยังไม่อยากให้ความเห็นสักเท่าไหร่ ถือว่าเป็นกลไก เดี๋ยวก็พัฒนาไป
ผมว่าคนไทยก็ดูอยู่ ผมเชื่อว่ากระบวนการบริหารประเทศ เขาก็รู้อยู่ว่าคนไทยคิดอะไรอยู่ แม่ทัพก็ทำหน้าที่ของแม่ทัพต่อ
ส่วนเรื่องการเมือง บางครั้งตัวเลือก ก็มีจำกัดในวงเท่านั้น เราก็ต้องให้เกียรติฝ่ายการเมือง ให้เขาใช้เวลาที่เหลืออยู่ ๓-๔ เดือน จะทำอะไรต่อหลัง ๔ เดือน ก็พัฒนาไป
เราคนไทยในฐานะเจ้าของประเทศ ก็ช่วยกันดูว่าจะทำอย่างไรต่อ ก็สนับสนุนให้ความคิดเห็นที่ไม่ทะเลาะกันของคนในชาติ
บางอย่างต้องช่วยกันก่อนไหม รอวันข้างหน้าที่ลงตัวกว่านี้ก่อน เพราะเป็นอย่างนี้ ตัวเลือกเรามีเท่านี้ อยู่ที่เราคัดสรรแต่ละท่านเข้าไป
ผมเชื่อว่านักการเมืองมีคนดีอยู่แล้ว แต่เราต้องดูเขาและให้กำลังใจกันทำงาน
………………………………….
ครับ…เสียดาย เนื้อที่น้อย แค่นี้ตัวหนังสือก็เป็นกุ้งฝอยไปแล้ว เป็นอันว่า ต่อจากนี้ เรามี…..
"พลโทบุญสิน” เป็นผู้นำประชาชนทางจิตวิญญาณ “การเมืองใหม่” โดยเลือกคนดีเข้าบริหารบ้านเมืองแทนการเลือกเงินจากคนไม่ดี
ชาติอยู่ด้วยทหารและประชาชน
“ล้างผลาญด้วยนักการเมือง” ต้องหมดไป!
-เปลว สีเงิน
๓ กันยายน ๒๕๖๘
คนปลายซอย