มทภ.2 แจงเดินสายพบนศ. เป็นภารกิจอีกมิติ สร้างสามัคคีคนในชาติ
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 2 กันยายน 2568 เวลา 20.34 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท2 ก.ย.- ‘มทภ.2’ ย้ำ ภูมะเขืออยู่ในพื้นที่อธิปไตยไทย ไม่ประมาท กัมพูชาโยก BHQ หน่วยขึ้นตรง ‘ฮุน เซ็น‘ ลงพื้นที่ ปัดตอบ ‘สรัย ดึก‘ เสียชีวิตหรือไม่ ชี้ เขมรรู้ดีที่สุด แจงเดินสายพบนักศึกษา เป็นภารกิจอีกมิติ ในการสร้างความสามัคคีให้คนในชาติ
พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ขณะนี้ ที่มีกระแสข่าวว่ามีการนำหน่วยกองบัญชาการองครักษ์ (BHQ) ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรงกับสมเด็จ ฮุนเซ็น ประธานวุฒิสภากัมพูชา เข้าพื้นที่ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ เป็นการส่อนัยว่าจะยึดพื้นที่ภูมะเขือคืนหรือไม่ ว่าเป็นเรื่องปกติ เราก็ติดตามความเคลื่อนไหวของเขาอยู่ เขาก็ติดตามความเคลื่อนไหวของเราเช่นกัน ซึ่งเราปฏิบัติตามเงื่อนไขการประชุม GBC ที่ผ่านมา ส่วนทางกัมพูชาก็อาจจะเป็นการมาเยี่ยมเยียนกำลังพลในพื้นที่ตามปกติ หรือเป็นการเพิ่มเติมกำลังพลในส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย มองว่าเป็นการบริหารจัดการของทหารกัมพูชา
เมื่อถามย้ำว่า มีสัญญาณบ่งชี้หรือไม่ว่าจะเป็นการยึดพื้นที่คืน แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่าก็เป็นเรื่องปกติ ทางการทหารเขาก็มีสิทธิ์คิด แต่เราก็ไม่ได้ประมาท ซึ่งเรายืนยันว่าภูมะเขือ เป็นพื้นที่ที่เราครอบครองอยู่ อยู่ในพื้นที่อธิปไตยของประเทศไทย
ส่วนการที่นำกองกำลัง BHQ ซึ่งไม่ชินกับพื้นที่มาลักษณะนี้ มองว่าเป็นการวางยุทธศาสตร์ หรือเป็นการส่งสัญญาณว่ามีปัญหากับทหารในพื้นที่หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า คงเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในกำลังส่วนนี้และไว้วางใจ เพราะหน่วยนี้คงจะมีการฝึกมาพอสมควร และเป็นกำลังที่อยู่ในการควบคุมของผู้นำกัมพูชาโดยตรง แต่เราไม่ประมาท เพราะเป็นเรื่องปกติที่เขาสามารถหมุนเวียนกำลังมาเสริม
เมื่อถามว่า ดูเหมือนทางการกัมพูชาให้ความสำคัญกับกำลังพลส่วนนี้ในปฏิบัติการต่าง ๆ รวมถึงการวางทุ่นระเบิดนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าแน่นอน เขาก็ต้องใช้กำลังทหารที่ดีที่สุด ก็เข้าใจได้ ส่วนเรื่องการวางทุ่นระเบิด ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นการกระทำของกัมพูชา
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า พล.ท.สรัย ดึก ผู้บัญชาการกองกำลังสนับสนุนที่ 3 กัมพูชา เสียชีวิตแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เรื่องนี้คนที่รู้ดีที่สุดคือกัมพูชา เพราะเราอยู่ฝั่งนี้เราก็รู้เท่ากัน การเสพสื่อหรือติดตามข้อเท็จจริง ก็ขอให้ติดตามจากทางกระทรวงกลาโหมของไทย หรือให้เป็นการยืนยันจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทางกัมพูชาจะดีกว่า
ส่วนกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ขณะนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้อยู่ประจำกานในแนวหน้ากับผู้ใต้บังคับบัญชา แต่มาอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นเพราะช่วงนี้ใกล้จะเกษียณอายุราชการแล้วหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ตามข้อเท็จจริงในพื้นที่มีผู้บังคับบัญชาอยู่ตามระดับชั้น ตั้งแต่ ผู้หมวด ผู้กอง ผบ.ร้อย ผู้พัน ปัจจุบันก็มีรองแม่ทัพที่อยู่ในพื้นที่ มีผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีอยู่ประจำ ทำให้ในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงการปรับสภาพเสริมกำลัง เสริมความมั่นคง และช่วงของการเจรจา จึงถือโอกาสมาพบปะพูดคุยกับลูกหลาน น้อง ๆ ในสถานศึกษา ที่เขาอยากจะทราบสถานการณ์ชายแดน อยากจะขอพบลุงกุ้ง ลุงแม่ทัพบ้าง อันนี้ก็แล้วแต่ความคิดเห็น แต่ตนยืนยันว่า เป็นการใช้เวลาที่ว่างเว้นจากการที่ไม่ได้รบกัน ก็ฉวยโอกาสนี้ มาพบกับพี่น้องประชาชน และน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษา แต่ถ้ามีการรบ เราก็ไม่ทิ้งอยู่แล้ว เมื่อมีเวลาก็วนเข้าไป ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนที่มีความเป็นห่วงในประเด็นที่ถูกวิจารณ์ว่า ตอนนี้เราก็พยายามทำหน้าที่ให้ครอบคลุมในหลาย ๆ มิติที่เราทำได้ และฝากถึงพี่น้องคนไทยที่คิดว่าทำไมแม่ทัพไม่ได้อยู่แนวหน้า คือแม่ทัพมีงานในพื้นที่ 20 จังหวัด และปัจจุบันนี้ ก็มีหลายสถานศึกษาติดต่อว่าขอให้ไปพบ หน้าที่ในตอนนี้จึงเป็นการพบปะพูดคุยเพื่อทำให้คนไทยมีความรักและสามัคคีกัน แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามมีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะไม่ดี ผู้บังคับบัญชาก็จะต้องอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า แม่ทัพภาคที่ 2 จะไม่เล่นการเมืองแน่นอนใช่ไหม เพราะมีหลายคนมองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นความหวัง แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า ไม่เล่นการเมืองแน่นอน ให้รอดูว่าตนพูดจริงหรือไม่-313 -สำนักข่าวไทย