Honor ลุยตลาดสมาร์ตโฟนพับจอ เปิดตัว Magic V Flip 2 พร้อมกล้อง 200 ล้านพิกเซล และแบตฯ 5,500 mAh

ในที่สุด Honor แบรนด์ที่แยกจาก Huawei ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนพับจอได้รุ่นใหม่ นั่นคือ Magic V Flip 2 อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ซึ่งมีดีไซน์ฝาพับในแนวทางเดียวกับคู่แข่งในตลาดอย่าง Samsung Galaxy Z Flip7 และ Motorola Razr 60 Ultra พร้อมกล้องหลัก ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ซิลิคอน-คาร์บอน

Honor Magic V Flip 2 ได้รับการติดตั้งกล้องหลัก ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้เซนเซอร์ภาพขนาด 1/1.4 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.9 และระบบกันภาพสั่น OIS (Optical Image Stabilization) เสริมด้วยกล้อง Ultrawide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ซึ่งมีมุมกว้าง 120 องศา ในขณะที่กล้องเซลฟีมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล

สมาร์ตโฟนพับจอดีไซน์ฝาพับดังกล่าว ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ซิลิคอน-คาร์บอน ความจุ 5,500 mAh ซึ่งรองรับการชาร์จไฟเร็ว 80 W, ชาร์จไฟไร้สาย 50 W และจ่ายพลังงานให้แก่อุปกรณ์อื่นได้ที่ 7.5 W

Honor Magic V Flip 2 นั้น ได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ OLED แบบพับได้ ขนาด 6.82 นิ้ว ความละเอียด 2,868 x 1,232 พิกเซล และความสว่างสูงสุด 5,000 Nit โดยเป็นแผงหน้าจอที่ใช้เทคโนโลยี LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) ซึ่งทำให้รองรับรีเฟรชเรตได้สูงสุดถึง 120 Hz (รีเฟรชภาพ 120 เฟรมต่อวินาที)

สำหรับหน้าจอบนฝาพับนั้น เป็นแผงหน้าจอ OLED เทคโนโลยี LTPO เช่นกัน ขนาด 4.0 นิ้ว ความละเอียด 1,200 x 1,092 พิกเซล ซึ่งรองรับรีเฟรชเรต 120 Hz และความสว่างสูงสุด 3,600 Nit

Honor Magic V Flip 2 ได้ใช้ศักยภาพจากชิปเซตระดับพรีเมียมอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ที่ได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร และมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 3.3 GHz ซึ่งทำงานร่วมกับแรมสูงสุด 16 GB และสตอเรจ 1 TB บนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ MagicOS 9.0.1 ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของระบบ Android 15 และมาพร้อมฟีเจอร์ AI มากมาย

นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP58 และ IP59 ซึ่งป้องกันฝุ่นได้ดี (ยังไม่ถึงระดับสมบูรณ์แบบ แต่ไม่ส่งผลต่อการทำงานโดยรวม) และกันน้ำแรงดันสูงที่อุณหภูมิสูงสุด 80 องศาเซลเซียส, มาตรฐาน SGS รองรับการตกหรือกระแทกของแข็งได้ดี, ติดตั้งลำโพงสเตอริโอคู่ และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3 และ NFC

Honor จะเริ่มจำหน่าย Magic V Flip 2 ที่ประเทศจีน ในวันที่ 28 สิงหาคม 2025 โดยมีสีของตัวเครื่องให้เลือก 4 เวอร์ชัน ได้แก่ สีม่วง, สีขาว, สีเทา รวมถึงเวอร์ขันสีฟ้าที่เป็นรุ่น Limited Edition พร้อมราคา ดังนี้

• แรม 12 GB + สตอเรจ 256 GB : 5,499 หยวน หรือประมาณ 24,800 บาท
• แรม 12GB + สตอเรจ 512 GB : 5,999 หยวน หรือประมาณ 27,000 บาท
• แรม 12GB + สตอเรจ 1 TB : 6,499 หยวน หรือประมาณ 29,300 บาท
• แรม 16GB + สตอเรจ 1 TB : 7,499 หยวน หรือประมาณ 33,800 บาท