SeoulStation : ล้วงลึกตัวตนความลึกลับ ‘นาโตริ’ ศิลปินปริศนาผู้ไม่เปิดเผยหน้า
โมชิโมชิ..ทักทายแฟนๆ “บันเทิงเดิลินิวส์” ที่น่ารักทุกคนนะค่า มาเจอกับ“นูน่าเมี้ยน” ในวันศุกร์ทุกสัปดาห์แบบนี้ แน่นอนต้องมาพร้อมกับความเอ็กซ์คลูซีฟที่เตรียมจัดเต็มเพื่อแฟนๆ ทุกคนอีกเช่นเคย แต่ แต่ แต่ สัปดาห์นี้นูน่าไม่ได้พามาอัปเดตเรื่องราวของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีนะคะ จะขออนุญาตแฟนๆ พักหนึ่งสัปดาห์ เพราะวันนี้นูน่าพร้อมกับคอสัมน์ “เอเชี่ยนสตาร์” พื้นที่ที่รวบรวมเอาความพิเศษ ความเอ็กซ์คลูซีฟของวงการบันเทิงทั่วทั้งเอเชียมาไว้ที่นี่! โดยสัปดาห์นี้นูน่าพาทุกคนมาพบกับเรื่องราวของศิลปินเจป็อปสุดลึกลับที่มีชื่อว่า “นาโตริ” (Natori) เขาเป็นนักแต่งเพลงชาวญี่ปุ่นที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ และเป็นผู้สร้างปรากฏการณ์เพลงฮิตอย่าง “Overdose” ที่มีทำนองติดหู และเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา
“นาโตริ” เริ่มต้นเส้นทางดนตรีในปี 2021 ตอนอายุเพียง 18 ปี ด้วยการปล่อยเพลงเดโมสั้น ๆ ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ผลงานที่ทำให้ชื่อของเขาโด่งดังไปทั่วโลกจริง ๆ คือเพลง“Overdose” ที่ปล่อยออกมาในปี 2022 เพลงนี้กลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็วและมียอดสตรีมมากกว่า 400 ล้านครั้งทั่วโลก ยืนยันถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของเขา ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับนาโตริคือ “การไม่เปิดเผยใบหน้า” ทำให้ตัวตนของเขายังคงเป็นปริศนา เขาต้องการให้ผู้ฟังโฟกัสที่ผลงานเพลงและเสียงร้องของเขามากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเป็นเทคนิคที่ศิลปินหลายคนเลือกใช้ในยุคดิจิทัล แม้จะมีเพลงฮิตระดับโลกอย่าง Overdose แต่ผลงานของเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขายังคงสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่นเพลง “Friday Night” รวมถึงเพลงประกอบอนิเมะชื่อดังอย่าง “Zettaireido” (Absolute Zero) จากเรื่อง “WIND BREAKER” และเพลง“Chained” จาก“Rurouni Kenshin” ซีซัน 2 ที่ร่วมงานกับ “Tatsuya Kitani” ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ อนิเมะเป็นอย่างมาก
ก่อนที่เขาจะเปิดทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นโดยใช้ชื่อว่า “摩擦 (Friction)” Zepp Tour ซึ่งทัวร์นี้จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2025 ใน 5 เมืองใหญ่ของญี่ปุ่น ได้แก่ นาโกย่า, โอซาก้า, ฟุกุโอกะ, โตเกียว และฮอกไกโด โดยทุกรอบการแสดงบัตรขายหมดเกลี้ยง พร้อมปิดฉาก“摩擦 (Friction)” Zepp Tour ได้อย่างสวยงามและสมศักดิ์ศรี ท่ามกลางเสียงปรบมือในโชว์รอบสุดท้ายที่ซัปโปโร นาโตริก็ได้ประกาศข่าวสำคัญว่าเขาจะจัดทัวร์ในเอเชียครั้งแรกที่ใช้ชื่อ “natori ASIA TOUR 2025” ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน 2025 ครอบคลุม 5 เมือง ได้แก่ ไทเป, กรุงเทพฯ, โซล, เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญหลังจากที่เจ้าตัวเพิ่งเริ่มแสดงสดในญี่ปุ่นเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา ขณะที่แฟนๆ ช่าวไทยจะได้พบกับ นาโตริ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2025 ณ UNION HALL, ยูเนี่ยนมอลล์ โดยมี“Avalon Live” โปรโมเตอร์มากคุณภาพเป็นผู้จัด เตรียมเสิร์ฟความมันส์เต็มรูปแบบให้แฟนๆ แบบใกล้ชิด
สำหรับแพลนงานในปี 2026 นี้ นาโตริวางแผนจะจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกที่ “Nippon Budokan” ในชื่อว่า “Shinkai” วันที่ 19 กุมภาพันธ์ โดยบัตรหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว จนต้องเพิ่มรอบในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ภายใต้ชื่อ “Deep Sea” สะท้อนกระแสตอบรับอันร้อนแรงของศิลปินลึกลับผู้ไม่เคยเปิดเผยใบหน้าคนนี้ นอกจากนี้นาโตริยังเป็นศิลปินญี่ปุ่นคนแรกที่ติดลิสต์ “10 Artists To Watch” บน Shazam ของ Apple Music และยังได้รับเลือกเป็นศิลปินในโปรแกรม “Spotify RADAR: Early Noise 2023” อีกด้วย เขาไม่เพียงแต่แต่งเพลงให้ตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีเครดิตในการเขียนและโปรดิวซ์ให้ศิลปินดังมากมาย เช่น Kobo Kanaeru, Ado, Fuwa Minato และ Hoshimachi Suisei โดย นาโตริ ยังได้ส่งข้อความถึงแฟนเพลงด้วยว่า “ผมรู้สึกยินดีมากที่ดนตรีของผมซึ่งเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ จะข้ามน้ำข้ามทะเลไปพบทุกคนทั่วเอเชีย ขอบคุณมากสำหรับการสนับสนุนของทุกคนครับ”
บอกเลยว่าแฟน ๆ ชาวไทยเตรียมตัวให้พร้อมสัมผัสพลังงานบนเวทีจากศิลปินเจป๊อปที่มาแรงที่สุดแห่งยุคกับ “natori ASIA TOUR 2025 in Bangkok” วันที่ 8 พฤศจิกายน 2025 ที่ UNION HALL และก่อนที่จะถึงวันจัดงานคอนเสิร์ต “นูน่าเมี้ยน” ก็ไม่พลาดที่มีโอกาสคว้าตัวหนุ่ม“นาโตริ” มาพูดกันพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีปแบบฉบับคอลัมน์ “เอเชี่ยนสตาร์” ถึงตัวตนอันลึกลับและปริศนา รวมถึงการทำงานผ่านผลงานล่าสุดของเขา ความประทับใจที่มีต่อแฟนเพลงชาวไทย และความพิเศษที่จะได้พบบนเวทีคอนเสิร์ตในประเทศไทยครั้งนี้ด้วย ถ้าพร้อมแล้วเราอ่านกันได้!
แนะนำตัวกับแฟน ๆ ชาวไทยสักหน่อย?
นาโตริ : “สวัสดีครับ ผมชื่อนาโตริ เป็นนักสร้างสรรค์ผลงานเพลงครับ อายุ 22 ปี สูง 181 เซนติเมตรครับ”
ครั้งนี้เป็นการมาเยือนไทยครั้งแรกของคุณ รู้สึกอย่างไรบ้าง?
นาโตริ : “ผมรู้สึกตื่นเต้นครับ ว่าเราจะสามารถสื่อสารกับทุกคนผ่านดนตรีได้อย่างไรบ้าง”
เมื่อพูดถึง “ประเทศไทย” สิ่งแรกที่คุณนึกถึงคืออะไร และทำไมถึงเป็นสิ่งนั้น?
นาโตริ : “ผมรู้สึกว่าแฟนเพลงชาวไทยมีจำนวนเยอะมากในหมู่ผู้ฟังจากเอเชียครับ ผมได้รับ DM และคอมเมนต์เป็นภาษาไทยอยู่บ่อย ๆ เลยรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอครับ”
ถ้าคุณมีเวลาว่าง 1 วันในประเทศไทย อยากไปที่ไหนบ้าง?
นาโตริ : “ผมอยากไปกินข้าวมันไก่ที่ร้านอาหารข้างทางครับ”
ช่วยแนะนำเพลงใหม่ “Propose” ที่เพิ่งปล่อยออกมาให้แฟน ๆ รู้จักหน่อย?
นาโตริ : “ผมคิดว่าเพลง “Propose” น่าจะเป็นเพลงที่แฟน ๆ ที่รู้จักผมจากเพลง “Overdose” หรือ “Friday Night” น่าจะชอบครับ เป็นเพลงที่ใช้จำนวนเสียงดนตรีไม่เยอะ ทำให้เมโลดี้เด่นชัด และมิวสิกวิดีโอก็น่าตีความด้วย ผมอยากให้ทุกคนใช้โอกาสนี้สัมผัสความงดงามของเนื้อเพลงภาษาญี่ปุ่นครับ”
ถ้าคุณอยากให้คนทั่วไปรู้จักและเข้าใจตัวตนของ “นาโตริ” มากขึ้น และต้องเลือกหนึ่งเพลงจากผลงานของคุณ คุณจะเลือกเพลงไหน?
นาโตริ : “ผมขอเลือกเพลง “Zettaireido” ครับ เพราะเป็นเพลงที่ผมชอบมาก และรู้สึกว่าแสดงให้เห็นถึงรากฐานและแนวดนตรีที่ผมเติบโตมากับมันได้อย่างชัดเจนครับ”
หลังจากจบทัวร์ทั่วญี่ปุ่น ตอนนี้คุณกำลังจะเริ่มเอเชียทัวร์ คุณเตรียมตัวยังไงบ้าง?
นาโตริ : “ผมซ้อมจินตนาการไว้ครับ ว่าจะปลุกพลังของผู้ชมในไลฟ์ยังไงดี และคิดหลายอย่างเกี่ยวกับการแสดงสดครับ”
ใกล้จะถึงวันแสดงแล้ว อยากให้แฟน ๆ เตรียมตัวยังไงบ้างครับ? และฝากข้อความถึงแฟน ๆ เกี่ยวกับกิจกรรมของคุณในอนาคตด้วย?
นาโตริ : “ผมอยากให้ทุกคนฟังเพลงของผมเยอะ ๆ ก่อนถึงวันแสดง และถ้ามีท่อนที่ร้องตามได้ ก็อยากให้ช่วยร้องด้วยกันในคอนเสิร์ตครับ ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เจอกับทุกคนในไทย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
นูน่าบอกได้ว่าเรื่องราวของ “นาโตริ เป็นบทพิสูจน์ว่าในยุคดิจิทัลที่ใครก็สามารถเป็นศิลปินได้ สุดท้าย “ความสามารถที่แท้จริง” ต่างหากที่สร้างความประทับใจได้อย่างยั่งยืน การเลือกที่จะปกปิดใบหน้าของเขาไม่ได้ทำให้ผู้คนสนใจเขาน้อยลงเลย แต่กลับยิ่งเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นและทำให้ผู้ฟังโฟกัสที่ “แก่นแท้” ของงานศิลปะอย่างดนตรีมากขึ้น การทัวร์คอนเสิร์ตทั่วเอเชีย และเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อย่าง Nippon Budokan ในปี 2026 นาโตริได้แสดงให้เห็นถึง “ความมุ่งมั่น” และ“ความสามารถ” ที่ไม่ธรรมดา “แฟนเพลงชาวไทย” เองก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งใน“ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญนี้” ซึ่งจะเป็นโอกาสให้เราได้สัมผัสพลังงานและความมหัศจรรย์ทางดนตรีของศิลปินปริศนาคนนี้แบบใกล้ชิด และร่วมเดินทางไปพร้อมกันในเส้นทางดนตรีที่น่าตื่นเต้นของเขา!.