‘อดีตรองผบ.ตร.’ ถูกแจ้งจับบุกลักทรัพย์ ส่งวงจรปิดพิสูจน์ยังไร้ผล-หวั่นแทรกแซง
กรณี นายอัครวิชญ์ ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทเอกชน 2 แห่ง เข้าแจ้งความ สน.บางรัก ดำเนินคดีกับอดีตนายตำรวจยศ “พล.ต.อ.” ตำแหน่ง “รอง ผบ.ตร.” ขณะบวชเป็นพระสงฆ์ ได้เข้าไปในบริษัทและนำสมุดเช็ค เอกสารสำคัญไป มีภาพวงจรปิดเป็นหลักฐาน จึงจะดำเนินคดีในข้อหา บุกรุก ลักทรัพย์ ตำรวจ สน.บางรัก รับแจ้งความ และเตรียมออกหมายเรียกตัวมาสอบสวน
สำหรับคดีนี้บริษัทที่เป็นผู้ร้องทุกข์เป็นบริษัทของภรรยาและลูกของอดีตรอง ผบ.ตร. ผู้ก่อเหตุ และอดีตรอง ผบ.ตร.คนดังกล่าวได้ลาสิกขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อภิชาติ ปิ่นวัฒนา รอง สว.(สอบสวน) สน.สมเด็จเจ้าพระยา ข้อหา ร่วมกันยักยอกทรัพย์ เพื่อดำเนินคดีภรรยากับพวก หลังได้เปิดห้องนิรภัยที่บ้านหลังหนึ่งที่ภรรยากับพวกถือกุญแจ เพื่อตรวจสอบโฉนดที่ดินที่นำไปเก็บไว้ ปรากฏว่าโฉนดที่ดิน 217 แปลงได้สูญหายไป จากนั้นไม่สามารถติดต่อบุคคลดังกล่าวได้ จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ นั้น
ด่วนสึกแล้ว! ‘อดีตรอง ผบ.ตร.’ เดือดสลัดผ้าเหลืองบุกโรงพักแจ้งจับ ‘เมีย’ ยักยอกทรัพย์
แจ้งจับ “อดีตรอง ผบ.ตร.” ห่มจีวร บุกลักทรัพย์สมุดเช็ค-เอกสารสำคัญ 2 บริษัท
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 68 นายอัครวิชญ์ เนติพงษ์ ผู้รับมอบอำนาจของบริษัท เปิดเผยว่า หลังได้ส่งมอบคลิปจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์ ให้กับทางพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อยืนยันว่าเป็นภาพจริง ไม่ใช่การตัดต่อ พร้อมส่งต่อไปยังสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อพิสูจน์ทางเทคนิค แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับรายงานผลอย่างเป็นทางการ
นายอัครวิชญ์ ระบุว่า มีความกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นอดีตนายตำรวจระดับสูง อาจมีอิทธิพลเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงหรือแทรกแซงผลการตรวจสอบ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างโปร่งใส เร่งรัดกระบวนการพิสูจน์หลักฐาน และคุ้มครองพยานหลักฐานเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าโดยไม่ถูกบิดเบือน.